บท
ตั้งค่า

เก็บความแตกสลายไว้คนเดียว

ชั้น12

ติ่ง

ประตูลิฟต์เปิดกว้างออกในทันทีที่ถึงชั้น12 กระตุ้นให้หัวใจดวงน้อยรู้สึกเต้นสั่นไหวด้วยความกังวลใจ แต่ทว่าความจริงแล้วมิลล์เองก็ไม่รู้จะแก้ตัวให้กับตัวเองยังไงในครั้งนี้ และก็ไม่อยากจะแก้ตัวอีกด้วยเพราะความเหนื่อยล้าในจิตใจบีบบังคับให้เธอยอมรับสภาพตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!

เท้าเล็กเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องประชุม เธอเคาะประตูห้องเสียงเบาบาง เพื่อเป็นสัญญาณให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในนั้นรับทราบในการมาของเธอ ก่อนที่มือเล็กจะเปิดประตูเข้าไปในทันที

"สวัสดีค่ะ"

"เชิญนั่งครับคุณลลิตา"

เวลาเดินผ่านไปเกือบ 10 นาทีที่คณะกรรมการตั้งคำถามซักไซ้เธอถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยที่หญิงสาวเองก็ไม่ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ฟ้าใสพยายามยัดเยียดและใส่ร้ายเธอ

 "แสดงว่าคุณลลิตายอมรับว่าตนเองได้ทำความผิดตามคำกล่าวหาของคุณหมอฟ้าใสใช่มั้ยครับ?"

"ค่ะ มิลล์ยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว"

เธอไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อนกับเรื่องราวที่เธอดันทุรังเองตั้งแต่แรก ทั้งเทรย์เลอร์และฟ้าใส เพราะยังไงแล้วสองคนนั้นก็ไม่เคยเห็นเธอถูกมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

"คุณลิตาไปรอนอกห้องประชุมซัก 10 นาทีก่อนนะครับทางคณะกรรมการขอปรึกษาหาแนวทางร่วมกันในการตัดสินเรื่องของคุณก่อน"

หนึ่งในชายที่เป็นคณะกรรมการเอ่ยปากขึ้น การที่เธอยอมเสียสละในครั้งนี้ไม่ว่าการตัดสินใจของคณะกรรมการจะเป็นยังไง เธออาจจะโดนไล่ออกหรือพักงานโดยไม่รับเงินเดือนเลยสักบาท หญิงสาวไม่คิดที่จะปฏิเสธมันอยู่แล้ว และพร้อมยอมรับคำตัดสินทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น

5 นาทีผ่านไป

ชายร่างท้วมที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการเดินกลับออกมาจากห้อง เพื่อเชิญให้หญิงสาวเข้าไปฟังคำตัดสินภายในห้องอีกครั้ง

"จากที่คณะกรรมการได้ปรึกษากันถึงพฤติกรรมของคุณแล้วถือว่ามีความผิดจริง แต่เทียบกับสิ่งที่คุณทำให้โรงพยาบาลของเรา จนได้รับคำชมจากคนไข้ คุณให้ความร่วมมือกับกิจกรรมของโรงพยาบาลทุกครั้งที่มีการร้องขออาสาสมัคร คณะกรรมการจึงตัดสินแล้วว่าจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง ไม่ไล่คุณออก แต่จะขอตักเตือนเป็นครั้งสุดท้ายถ้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง คุณจะไม่ได้ทำงานที่นี่ต่อไปอย่างแน่นอน"

"ค่ะ!! มิลล์ยอมรับคำตัดสินทุกอย่าง ถ้าต่อไปนี้มิลล์ทำอะไรที่ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดในโรงพยาบาลอีก มิลล์ยินดีลาออกค่ะ"

เธอตอบออกไปเช่นนั้น ก่อนจะยกตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว พลางยกมือไหว้ขอโทษ และก้มหัวให้กับคณะกรรมการอาวุโสเพื่อขอลากลับไปทำงานต่อ เธอก้าวขาถอยหลังออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกโล่งใจมากยิ่งขึ้น แต่ทว่ายังคงเป็นกังวลใจในอีกหลายๆเรื่องที่จะตามมา

เคาน์เตอร์พยาบาลตึกแปด

 "มิลล์เป็นไงบ้างลูก?"

ลูกสอนเอ่ยถาม พลางเดินเข้าไปประคองร่างบางที่กำลังเดินเข้ามาภายในแผนกด้วยสีหน้าท่าทางเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียไร้ซึ่งเรี่ยวแรงของคนน้อง

"มิลล์โอเคค่ะ พี่ลูกสอน"

"ดีแล้วลูก ไปทำงานต่อเถอะ"

หญิงสาวส่งยิ้มจางๆให้กับพยาบาลรุ่นพี่ที่ยืนตบไหล่เธอบางเบาด้วยท่าทางอ่อนโยน ก่อนที่ร่างหนาของลูกสอนจะเดินกลับเข้าไปภายในห้องพักพยาบาลอีกครั้ง โดยไม่ซักไซ้ถามไถ่ถึงเรื่องที่คณะกรรมการเรียกคนน้องเข้าไปเลยสักคำ เพราะทุกคนต่างรู้เรื่องนี้ดีว่าสาเหตุแท้จริงแล้วมาจากใครที่ทำให้เรื่องนี้แดง

ณ ห้องประชุมชั้น 12

"คุณหมอเทรย์เลอร์ครับคุณรู้ใช่ไหมว่าที่เรียกคุณเข้ามาด้วยเรื่องอะไร?"

"ครับ"

"คณะกรรมการอยากทราบเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ณ วันนั้น"

ชายหนึ่งในคณะกรรมการเอ่ยปากสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งเทรย์เลอร์เองก็ให้ความร่วมมือในการเล่าเหตุการณ์ที่เขาได้พบเจอในวันนั้นให้ฟังจนจบ

"คุณพูดราวกับว่าคุณลลิตาไม่ผิด ที่ตบตีกับคุณหมอฟ้าใสยังไงยังงั้น?"

"ผมไม่ทราบเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นครับ"

"แต่คุณลลิตาเธอยอมรับผิดทุกอย่างว่าเธอเป็นคนก่อเรื่องเองทั้งหมด"

"-"

"เรื่องทั้งหมดมันเริ่มต้นมาจากคุณใช่มั้ย คุณหมอเทรย์?"

นายแพทย์สุพจหนึ่งในคณะกรรมการอาวุโส ได้เอ่ยปากถามชายหนุ่มขึ้นด้วยท่าทางไม่ชอบใจยิ่งนักที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ภายในองค์กร และพยายามยัดเยียดความผิดให้กับเขา ซึ่งนั้นเป็นผลมาจากสาเหตุที่เขาขุ่นเคืองจิตใจ ไม่ชอบขี้หน้าของเทรย์เลอร์มาตั้งแต่ชายหนุ่มเข้ามาทำงาน และเป็นถึงลูกชายของผอ. จึงทำให้มีสิทธิ์และมีเส้นสายได้ขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาหัวใจและหลอดเลือดแทนน้องชายแท้ๆของเขานั้นเอง

"-"

ชายหนุ่มไม่ตอบ ได้แต่นั่งเงียบอยู่ภายในห้องด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจ เมื่อเห็นสายตาที่น่าหมั่นไส้คู่นั้นของสุพจจ้องมองมาที่เขา

"คณะกรรมการได้คุยกับคุณลลิตาแล้ว ความผิดของเธอในครั้งนี้จะแค่ตักเตือน แต่ถ้ามีครั้งหน้าอีกเราจะไล่เธอออกทันที"

"ส่วนคุณ คุณหมอเทรย์เลอร์ครั้งนี้คณะกรรมการจะขอตักเตือนคุณเช่นกัน อย่าคิดว่าเป็นลูกชายอาจารย์สุนธรแล้วคุณจะทำนิสัยยังไงก็ได้?"

คำพูดของหมอสุพจคอยทิ่มแทงใจเขามากยิ่งขึ้น เพิ่มความรู้สึกหงุดหงิด ความโมโห ไม่ชอบใจให้กับเทรย์เลอร์เป็นเท่าตัว ชายหนุ่มกำมือแน่นพยายามเก็บควบคุมอารมณ์ของตนเองเอาไว้ เพราะไม่อยากให้พ่อต้องมาเดือดร้อน และลำบากใจไปกับพวกปากนกปากกาที่นั่งอยู่ในห้องนี้

3 ชั่วโมงผ่านไป

ครืดดดด

หญิงสาวที่กำลังพยายามทำจิตใจตนเองให้นิ่งสงบมากที่สุด เธอนั่งเขียนเอกสารคนไข้อยู่หน้าเคาน์เตอร์พยาบาลเพียงลำพังในช่วงเวลานี้ แต่ทว่ากลับต้องสะดุ้งตกใจเมื่อมีข้อความไลน์เด้งเข้ามาจากมือถือ ฉุดให้มือเล็กรีบคว้ามือถือของตนเองออกมาจากกระเป๋าเพื่อดูถึงการสื่อสารทั้งหมด

LIKE | KF

KF : "ยัยมิลล์!! แกรู้มั้ยว่าหมอเทรย์โดนคณะกรรมการเรียกเข้าไปพบเรื่องของแกกับหมอฟ้า เห็นเขาเล่ากันว่าหมอเทรย์โดนยับเลยไม่รู้ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง"

เมื่อดวงตาคู่กลมไล่อ่านครบทุกตัวอักษรจากข้อความของข้าวฟ่างทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นสั่นรัวขึ้นอีกครั้ง เธอรู้สึกกังวลและกระวนกระวายใจเมื่อเป็นห่วงความรู้สึกของเทรย์เลอร์มากกว่าตนเองในครานี้ แต่ทว่าเธอกลับต้องพยายามข่มใจตัวเองให้นิ่งและสงบไว้ได้มากที่สุด เพื่อให้สามารถทำงานต่อไปได้จนถึงเที่ยงวัน

12.00น.

ด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่มพอพักกลางวัน หญิงสาวรีบเดินตรงดิ่งกดลิฟต์ขึ้นมาอย่างชั้น 15 ทันที เพื่อหวังจะมาขอโทษเขาเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่ทว่าเมื่อเธอเปิดประตูเข้าไปกลับไม่เจอใครสักคนในห้องนั้น

"ไม่อยู่งั้นหรอ ยังไม่กลับจากห้องประชุมอีกหรือไงนะ"

เธอบ่นพึมพำกับตนเองสักพัก ดวงตากลมคู่สวยไล่มองไปที่โต๊ะทำงานของหมอหนุ่ม แต่กลับไม่พบกล่องอาหารของเธอบนโต๊ะเฉกเช่นเคย หญิงสาวพยายามเดินเข้าไปใกล้โต๊ะทำงานอีกครั้ง ก่อนจะก้มลงมองถังขยะที่อยู่ด้านล่างเพื่อหากล่องอาหารของตนเอง

"ไม่มีในถังขยะ"

เมื่อสายตาสอดส่องใต้โต๊ะ และในถังขยะกลับไม่พบกล่องอาหาร พลันทำให้หัวใจดวงน้อยที่บอบบางเต้นสั่นด้วยความหวังขึ้นอีกครั้ง ถึงแม้ว่ามันจะริบหรี่และมืดมนจนแทบมองไม่เห็นแสงสว่างเลยก็ตาม เธอยังคงแอบหวังลึกๆอยู่ในใจว่าเขาจะยอมทานอาหารที่เธอทำมาให้บ้างก็ยังดี

แต่เมื่อมือซ้ายเอื้อมไปเปิดประตูตู้เย็น กลับพบว่ากล่องอาหารของตนเองแช่อยู่ในช่องฟรีซนั้นเสียแล้ว

"คงเป็นแม่บ้านเก็บมาใส่ในตู้เย็นสินะ"

สุดท้ายแล้วหัวใจดวงน้อยที่กำลังจะพองโต หล่นวูบไปอยู่ที่ปลายเท้า เมื่อรู้ความจริง ความหวังอันริบหรี่ของเธอก็ได้ดับพังทลายลงไปหมดแล้วเช่นกัน

แอ๊ดด!! 

ปัง!!

แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะหยิบกล่องอาหารนั้นออกมา เธอกลับได้ยินเสียงเปิดประตูห้องพักและปิดมันลงเสียงดังลั่น ฉุดให้มิลล์รีบหันไปมองในทันทีด้วยความตื่นตกใจ

"หมอเทรย์!!"

หญิงสาวมองไปยังร่างใหญ่ที่พยายามเก็บอารมณ์หงุดหงิด โมโหเอาไว้แน่น เขายืนนิ่งสงบอยู่หน้าประตูห้องพัก แต่ทว่าใบหน้าหล่อดูดีนั้นกลับแดงก่ำและแอบแฝงไปด้วยความน่ากลัว

"มิลล์ได้ยินว่าคณะกรรมการเรียกหมอเข้าไปคุยเรื่อง  มิลล์กับหมอฟ้าหรอคะ"

"ออกไปมิลล์!!"

ชายหนุ่มหรี่ตาคมหันกลับมาจ้องมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยแว่นใส พร้อมกับความรู้สึกโมโหเต็มทีจนแทบจะกดอารมณ์เอาไว้ไม่ไหว ถ้ายังเห็นหน้าคนน้องอยู่ในนี้อีกไม่นาน

"หมอค่ะ คือ มิลล์แค่อยากจะมาขอโทษหมอ ที่ทำให้ต้องเดือดร้อนไปด้วย"

"พี่บอกให้ออกไปไง!!"

ชายหนุ่มตวาดดังลั่นใบหน้าแดงก่ำด้วยความโมโหถึงขีดสุด เขากำมือแน่น แสดงท่าทางออกมาจนน่ากลัวสุดขีด ฉุดให้หญิงสาวตกใจและตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัดเจนเมื่อไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต

"มันเป็นเพราะมิลล์คนเดียวที่ก่อเรื่อง!!"

"มิลล์ขอโทษค่ะ มิลล์ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่เลยนะคะ"

หญิงสาวพร่ำบอกเขาด้วยท่าทางตื่นกลัว พร้อมๆกับยกมือที่สั่นเครือไหว้ขอโทษคนพี่ด้วยความรู้สึกผิด

"ออกไปเลยมิลล์ พี่ไม่อยากเห็นหน้ามิลล์"

"หมอเทรย์ค่ะ ขอร้องอย่าพึ่งไล่มิลล์เลยนะคะ หมอจะให้มิลล์ทำยังไงถึงจะเชื่อว่ามิลล์ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ"

มือเล็กนุ่มพยายามเอื้อมไปสัมผัสที่มือหนาของหมอหนุ่มเพื่ออ้อนวอนขอให้เขาเห็นใจเธอ  แต่ทว่าเทรย์เลอร์กลับสะบัดมือเธอออกอย่างรุนแรงด้วยสภาวะอารมณ์ที่กำลังเดือดพล่านเต็มที

"มันเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของมิลล์ และความเห็นแก่ตัวของมิลล์มันจะทำให้ทุกอย่างมันพังไปมากกว่านี้ อย่ามายุ่งกับพี่อีก"

เสียงทุ้มต่ำยังคงตะคอกใส่หน้าหญิงสาว เทรย์เลอร์ตั้งใจไล่เธอออกจากห้องไปอย่างไร้เยื่อใยเฉกเช่นทุกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับรุนแรงมากกว่าทุกๆครั้งที่เธอเคยเจอเท่านั้นเอง และไม่ว่าจะครั้งไหนๆ เขาก็ไม่เคยยอมฟังคำพูด และความรู้สึกของเธอเลย

"บอกให้ออกไปไง!!"

น้ำเสียงทุ้มยังคงดังสนั่น เพื่อตวาดไล่เธอออกไปพร้อมๆกับใช้แรงที่มีทั้งหมด ผลักร่างเล็กของคนน้องกระเด็นออกยังหน้าประตูห้องด้วยความโมโหสุดขีด 

" มิลล์จะไปคะ มิลล์จะไป อึก"

มือน้อยพยายามยกขึ้นมาบังร่างของตนเองไว้จากการผลักไสไล่ส่งจากคนพี่ เธอพยายามอดกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมาต่อหน้าเขาให้ได้มากที่สุดในเสี้ยววินาทีนี้

"ถ้ามาให้พี่เห็นหน้าอีก พี่จะไม่รับรองความปลอดภัยที่จะเกิดกับมิลล์อีก"

"หมอเทรย์!!  อึก อือๆ"

สิ้นสุดเสียงของเธอหญิงสาว เธอไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ คำพูดและสายตาที่ดุเดือดของหมอหนุ่ม ทุกการกระทำของเขาที่แสดงออกมาในแต่ครั้ง มันสร้างบาดแผลให้เธอลึกลงไปก้นบึ้งหัวใจ ความเจ็บปวดที่ได้ก่อนหน้านั้นยังไม่ทันได้หายไป ความเจ็บปวดครั้งใหม่ก็เริ่มเข้ามา

"อึก ฮือๆ มิลล์ยอมแพ้แล้วทุกอย่าง ถ้าหมอไม่อยากเจอหน้ามิลล์อีก ต่อไปนี้มิลล์จะไม่ยุ่งกับหมอเทรย์อีก"

เสียงเล็กสั่นเครือ เคล้าคลึงไปด้วยหยดน้ำตา หญิงสาวค่อยๆก้าวถอยห่างร่างใหญ่ออกไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะลับสายตา

"ขอโทษนะคะ สำหรับทุกๆอย่าง"

เธอเอ่ยประโยคนั้นออกมาเสียงเบาบาง ก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยหัวใจที่แตกสลายไม่เหลือชิ้นดี หยดน้ำตาหลั่งไหลออกมาอย่างพรั่งพรู ความเจ็บปวดที่ได้รับมันไม่สามารถหาอะไรมาทดแทนได้เลยสักอย่าง เธอพยายามเก็บซากความแตกสลายของหัวใจดวงน้อยกลับคืนมาไว้แต่เพียงผู้เดียว เพราะนี่คือสิ่งที่เธอเลือกตั้งแต่ 20 วันก่อน เธอเป็นคนเลือกที่จะมอบความเจ็บปวดนี้ให้ตนเอง ทั้งที่รู้ว่ายังไงเทรย์เลอร์ก็ไม่มีวันรักเธอได้แน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel