บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

ข่าวที่ทำให้ขวัญหาย

“นี่ยายมีน มันก็แค่งานเลี้ยงของบริษัทก็เท่านั้นนะ แกจะอะไรนักหนา ฉันก็ว่าแกสวยแล้ว เพียงแต่ก็ต้องมั่นใจในตัวเองก็เท่านั้น รู้ไหม”

“ฉันน่ะอยากให้คุณพลวัต เขาชมฉันหรอก” มณียาบิดตัวแบบเขิน ๆ เมื่อนึกถึงหน้าของพลวัตที่จะเห็นเธอในวันนี้

“ย่ะแม่คุณ ยายมีนเอ๊ย แกต้องเผื่อใจเอาไว้บ้างนะ ฉันขอเตือน ดวงแกมันจู๋เรื่องคู่อยู่ด้วย กินแห้วมาหลายรอบแล้ว ยังไม่รู้จักเข็ด” ไม่รู้ว่าเป็นคำปลอบใจ หรือว่าซ้ำเติม แต่มณียาก็ตอบว่า

“ขอบใจมากเลยยายตาหวาน แต่ฉันเชื่อเซนส์ของฉันเอง ครั้งนี้ ฉันว่าไม่พลาด คุณวัต เขาชอบฉัน”

เพื่อนได้แต่กลอกตามองบน

“โอเค ถ้างั้น ฉันก็ขอเป็นกำลังใจให้แกก็แล้วกัน แล้วอย่ามานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่านะ”

“ยายหวานตา แกเป็นเพื่อนฉันนะ ถ้าวันไหนที่ฉันอกหัก ฉันร้องไห้ แกก็ต้องอยู่ให้ฉันซบอก ไม่เอา ทำไมต้องพูดว่า ฉันจะนกด้วยนะวันนี้ ยายหวานตา แกอวยพรให้ฉันหน่อยสิ วันนี้ ฉันพกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า ฉันตั้งใจว่า ฉันจะสารภาพรักกับคุณวัต”

“หา! เอาจริงหรือยายมีน” กวิตาตกใจกับความคิดของมณียาในตอนนี้

“จริงสิ ฉันน่ะจะสามสิบแล้วนะ ยังไม่ได้แต่งงาน แกมีลูกไปคนหนึ่งแล้ว แกรอดแล้วยายหวานตา อีกอย่างสมัยนี้น่ะ กล้าได้ อายอดค่ะ” เน้นเสียงในตอนท้าย

“โอเค ถ้าอย่างนั้น ฉันก็ขออวยพรให้แกโชคดีก็แล้วกัน”

“แทงกิ้วเพื่อนเลิฟ ฉันต้องไปก่อนนะ เพราะฉันได้อยู่จุดลงทะเบียนด้วย ใกล้เวลามากแล้ว”

“โอเค ไว้ค่อยคุยกันนะ”

“บ๊าย บาย” สองสาวโบกมือลากัน ก่อนที่จะตัดสายไปทั้งคู่

มณียาเดินออกไปจากห้องแต่งตัวด้วยความมาดมั่นและอารมณ์ดี เธอมีความหวังอยู่เต็มหัวใจ

พลวัตทำดีกับเธอมาก เธอก็เชื่อว่า เขามีใจให้กับเธอหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าด้วยจากการแสดงต่าง ๆ ที่พลวัตแสดงกับหญิงสาว

มณียาตรงไปอยู่ที่โต๊ะลงทะเบียน พนักงานในบริษัทเริ่มทยอยกันเดินเข้ามาในงานด้วยชุดเสื้อผ้าที่สดใสซาบซ่ามากันอย่างจัดเต็ม งัดเอาชุดที่คิดว่า สวย หล่อ ดูดี ออกมาใส่กันทั้งนั้น

งานนี้เป็นงานเลี้ยงพนักงานในบริษัท และจะมีการประกาศเลื่อนตำแหน่งของพลวัตด้วย

มณียาจับกล่องนาฬิกาข้อมือ ที่เธอตั้งใจเก็บเงิน เรียกได้ว่าเจียดเงินเดือนไม่ถึงสองหมื่นมาซื้อเพื่อเป็นของขวัญให้กับพลวัต เธอกระหยิ่มยิ้มอยู่ในใจ พลวัตจะต้องดีใจมาก เพราะนาฬิกาข้อมือนี้กำลังเป็นที่นิยม มันมีราคาเกือบสองหมื่นบาท ถือว่าเป็นของขวัญที่มีค่าและมีราคาทีเดียว

ขวัญทิพย์เดินเข้ามาหามณียา

“มีนช่วยฉันหน่อยสิ” สีหน้าท่าทางเหี่ยวมาก มือหนึ่งกุมอยู่ที่หน้าท้องของตัวเอง

“คะ มีอะไรคะคุณขวัญ”

“ด้านหลังเวทีกำลังวุ่นวายมาก จำที่ฉันคุยกับเธอได้ไหม เรื่องที่ใครจะขึ้นแสดงเป็นอันดับก่อนหลัง และหลังจากนั้นก็จะมีท่านประธานขึ้นไปเปิดงาน วันนี้ท้องไส้ของฉัน มันเป็นอะไรก็ไม่รู้ ปั่นป่วนไปหมดแล้วเนี่ย เข้าห้องน้ำสองสามรอบแล้วนะ” ทำหน้านิ่ว พลางยื่นกระดาษที่มีอยู่ในมือให้กับมณียา

“กินยาหรือยังคะ หรือว่าคุณขวัญจะไปหาหมอไหมคะ”

“ไม่ ๆ ฉันกินคาร์บอนไปแล้วล่ะ แต่มันก็ยังมีอาการอยู่อีกนิดหน่อย มีนช่วยหน่อย ประเดี๋ยวฉันกลับมาค่ะ”

คุณขวัญยัดกระดาษแผ่นนั้นลงมาในมือของมณียา เธอรีบรับ แล้วเดินตรงไปที่หลังเวที ก่อนจะไปเจอหัวหน้าคณะการแสดง

“สวัสดีค่ะ”

“การแสดงแรกที่เราได้คุยกันเอาไว้ จะเป็นรำอวยพร และหลังจากที่การแสดงเสร็จ ท่านประธานก็จะได้ขึ้นไปกล่าวเปิดงาน วันนี้เราไม่มีพิธีกรนะคะ คุณคงจะทราบแล้ว จะมีแต่คุณขวัญทิพย์ แต่ตอนนี้เธอไปเข้าห้องน้ำ ประเดี๋ยวก็คงมา “

“ครับ”

“หลังจากนั้น คุณพี่ก็จะมีการแสดงอีกสามการแสดงนะคะในระหว่างที่พวกเรารับประทานอาหารกัน พอจบการแสดงที่สาม ก็จะมีการบรรเลงดนตรีอีกสิบห้านาทีใช่ไหมคะ”

“ครับผม”

“งั้นก็เป็นไปตามนั้นค่ะพี่”

ผู้ประสานงานก็เดินกลับไปสั่งงานลูกน้องทันที

มณียาชะเง้อชะแง้มองหาพลวัต แต่เธอก็ไม่เห็นเขา ตอนนี้ด้านหลังและด้านข้างเวทีกำลังวุ่นวาย มีหลายคนเข้ามาขอสอบถามเรื่องทางไปห้องน้ำ ห้องแต่งตัว ดูแล้วฉุกละหุกไปหมด

จนเธอรู้สึกวุ่นวาย พลอยกังวลใจและกระวนกระวาย มณียาคิดไปถึงพลวัต ไม่รู้ว่าเขาจะมาหรือยัง เธออยากจะเจอเขา และจะได้ให้ของขวัญเขาเป็นคนแรก พร้อมทั้งได้กล่าวอวยพรเขาก่อนใคร ๆ

ขวัญทิพย์เดินกระหืดกระหอบกลับเข้ามา

“ขอบใจนะ”

ก่อนทุกอย่างจะเริ่มดำเนินการ ใกล้เวลาเริ่มงานแล้ว

ในตอนนั้นเอง คุณประชาประธานบริษัทเดินเข้ามาในงานพร้อมกับลูกสาวของท่าน คุณกันธิชา และที่น่าประหลาดใจ ตามหลังของคุณกันธิชามาติด ๆ ก็คือพลวัต

ทั้งสามคนดูสนิทสนมกันมาก มณียารับรู้ได้ถึงความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดและสนิทสนมของคุณกันธิชาและคุณพลวัตของเธอ หญิงสาวมองทั้งคู่ด้วยความอาการใจหาย และรู้สึกหัวใจไม่อยู่กับร่องกับรอย

คุณขวัญทิพย์เดินไปต้อนรับท่านประธานบริษัท ก่อนจะเรียนเชิญท่านขึ้นไปบนเวที

ในห้องจัดเลี้ยงพนักงานมากันอย่างพร้อมเพรียง งานเลี้ยงนี้เป็นงานเลี้ยงแรกของปี และไตรมาสแรก ที่บริษัทจัดขึ้น หลังจากที่ผลประกอบการในปีนี้ดีมาก ดีมากกว่าในปีที่แล้ว

คุณประชาก้าวขึ้นไปบนเวที โดยมีพนักงานปรบมือเสียงดังกึกก้อง

“ผมขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ บริษัทของผม ถ้าไม่ได้พวกคุณมาเป็นแรงขับเคลื่อนในบริษัท บริษัทของเราคงไม่เติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้

“ผลประกอบการในสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำและย่ำแย่ แต่เชื่อหรือไม่ว่า ผลลัพธ์ของเรายังก้าวหน้าไปข้างหน้าได้มากกว่าสามสิบห้าเปอร์เซ็นต์

“ผมจึงอยากจะประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่า ในปีนี้โบนัสของทุกคนจะได้มากกว่าปีที่แล้วด้วยซ้ำไป”

เสียงของพนักงานโห่ร้องด้วยความดีใจ

ท่านประชายังกล่าวอีกว่า

“วันนี้ นอกจากจะมาให้รางวัลกับพนักงานของเราทุกคนและเลี้ยงขอบคุณทุกคนแล้ว ผมยังมีข่าวดีอีกข่าวหนึ่ง ก็คือ กันธิชาลูกสาวคนเดียวของผม เธอจะหมั้น แล้วก็แต่งงานในปีนี้ครับ”

ทุกคนหันไปมองคุณกันธิชาเป็นตาเดียว เธอยิ้มหวาน ๆ ส่งให้กับพนักงาน ก่อนจะก้มหัวให้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel