บทที่ 3
คุณย่าครับ
ปัง ปัง ปัง... เสียงทุบประตูดังมาก จนอาคเนย์สะดุ้งตื่น
“เจ้านายตื่นได้แล้ว เราต้องลุกขึ้นไปใส่บาตรกับย่านะ” เสียงคุณย่าพวงเข็มนั่นเอง
“แกจะตื่นหรือไม่ตื่น ถ้าไม่ตื่นย่าจะพังประตูเข้าไปนะ”
อาคเนย์สะบัดหัวของตัวเองแรง ๆ ก่อนจะส่งเสียงออกมา
“ตื่นแล้วครับคุณย่า ผมจะอาบน้ำแล้วครับ”
“เอ่อ... นอนกินบ้านกินเมืองอยู่ได้ ย่าจะไปรอที่หน้าบ้านนะ เดี๋ยวก็ไม่ทันท่านพระครู” พูดและก็บ่นไปด้วย พลางเดิน
“ทำไมจะต้องให้ย่ามาเรียกได้ทุกวัน มือถือก็มี นาฬิกาก็มี ไม่หัดตั้งปลุกบ้าง เฮ้อ... โตแต่ตัวจริง ๆ”
เอ้ก อี เอ้ก เอ้ก... เสียงไก่ขันรับกันเป็นทอด ๆ อาคเนย์ประคองคุณย่าให้ลุกขึ้นยืน ก่อนที่พระสงฆ์องค์เจ้าเดินผ่านมา
“นิมนต์หน่อยค่ะท่านพระครู” คุณย่าพูดขึ้น พลางยกมือไหว้
ชายหนุ่มหยิบอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นขันข้าว ทัพพี ยื่นให้กับคุณย่า คุณย่าตักอาหารใส่บาตรพระ อาคเนย์เองรีบหยิบกับข้าวที่ใส่ในถุงพลาสติกห่อมาอย่างดี หย่อนลงไปในบาตร ก่อนทั้งคู่จะยกมือไหว้ นั่งลงเพื่อรับพรจากพระสงฆ์ แล้วกรวดน้ำ
ในใจของอาคเนย์นึกไปถึงเมนิลา พร้อมกับเอ่ยลาเธอออกมาเป็นครั้งที่ร้อย
‘เมเราสองคนอย่าได้มาเจอะมาเจอกันอีกเลยในชาตินี้’
เขาอธิษฐานทุกครั้งที่ฝันเห็นเธอ เรื่องที่เมนิลาทำกับเขามันฝังแน่นอยู่ในใจ จนแงะไม่ออก ความเศร้าใจการจากไปของผู้หญิงคนนั้น ได้สร้างบาดแผลให้กับเขามากมาย จนอาคเนย์ขยาด ชายหนุ่มไม่เคยคบกับผู้หญิงหน้าไหนอีกเลย
“นิมนต์ค่ะท่านพระครู ดิฉันอยากจะเรียนถามท่านพระครูสักหน่อยนะคะ ว่าเรื่องที่ดิฉันฝันเมื่อคืนนี้ จะเป็นจริงหรือเปล่า”
“ฝันว่าอะไรล่ะโยมเข็ม” ท่านยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“คือว่าฝันว่าหลานชายจะได้เมียน่ะค่ะ มีงานมงคลจัดที่บ้านสวนเสียใหญ่โตค่ะ”
หลวงพ่อท่านหันมามองหน้าอาคเนย์ในทันที ก่อนจะจ้องหน้าของเขาเขม็ง
“เนื้อคู่น่าจะมาแล้วนะ”
“จริงเหรอคะ งั้นเรื่องที่ดิฉันฝันก็เป็นเรื่องจริง ดีใจมากค่ะ ดิฉันรอเวลานี้มานานแล้ว”
“โยมเข็ม คนมันเป็นเนื้อคู่กันแล้ว ยังไงก็ไม่แคล้วกันหรอก ถึงเวลาก็จะมาหากันเอง อย่างไรเสีย นายหัวเขาน่ะมีคู่ครองอย่างแน่นอน”
คุณย่าตบมือดังเพียะด้วยความดีใจ
“ใช่ค่ะ หลานชายดิฉันไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร ออกจะหล่อที่สุด” ตอนท้ายลากเสียงยาวด้วยความภูมิอกภูมิใจ
“ผู้หญิงคนนี้จะเดินทางมาจากทางใต้ และเธอจะให้ทายาทกับคุณนายตั้งสามคน” หลวงพ่อยังเอ่ยอีก
“ไม่จริงหรอกมั้งครับ ใครกันน่ะที่จะมาเป็นเนื้อคู่ผม แล้วจะมาจากทางใต้จริงหรือ ผมไม่เชื่อหรอก” อาคเนย์เถียงหลวงพ่อออกไปอีก พลางส่ายหน้าระรัว
“ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ไอ้หนู” พระท่านพูด แล้วก็หันหลังเดินจากไป
“สาธุค่ะ” คุณย่ายกมือไหว้ท่วมหัว แล้วหันมาทำตาเขียวใส่หลานชาย
“ทำพูดเข้า หื้อ...” แล้วเหน็บไปที่ชายโครงของหลานชายอย่างแรง อาคเนย์รีบหลบ ปากก็ร้อง
“โอ้ย เจ็บนะครับ”
“อย่าทำเป็นเล่น ท่านพระครูท่านทำนายแล้วไม่เคยพลาด”
“ก็...”
“ไม่ต้องพูดมาก กลับบ้าน ย่ามีอะไรต้องทำหลายอย่าง” ผู้เป็นย่าทำหน้าเหม็นเข้าให้ หลานชายรีบประคองคุณย่าเพื่อกลับไปขึ้นรถ
“คุณย่าจะทำอะไรครับ แล้วเมื่อคืน ฝันอะไรนะครับคุณย่าเล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหม”
อาคเนย์เป็นคนช่างเอาใจ ยิ่งกับคุณพวงเข็มด้วยแล้ว
คนเป็นย่าได้แต่ยิ้ม ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ย่าฝันว่า บ้านเราน่ะจะมีงานมงคลในเร็ว ๆ นี้ และย่าก็ฝันว่า ย่าได้อุ้มเหลน”
“คุณย่าเอาอะไรมาพูดครับ ฝันก็คือฝัน”
คุณย่าหันหน้ามาหาหลานชาย พลางชี้นิ้ว “ไม่เชื่อใช่ไหมล่ะ มาพนันกันไหม” ดวงตาของคุณย่ามุ่งมั่น
“โถ... เราสองคนเพิ่งใส่บาตรไปเมื่อกี้นี้เอง คุณย่าจะมาพนันขันต่อกันแล้วหรือครับ มันผิดศีลห้าเต็ม ๆ เลยนะครับคุณย่า”
“โอเค ช่างเถอะ ไม่พนันก็ได้ แต่ย่าเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้ มันกำลังจะเกิดขึ้น ไป๊... กลับบ้านได้แล้ว ย่ามีอะไรต้องทำอีกเยอะ ต้องเตรียมทั้งบ้าน และก็ต้องเตรียมทั้งงานแต่งงาน” ในตอนนั้น แค่คุณพวงเข็มคิดถึงเรื่องราวที่ท่านหวังมาตลอด ท่านอยากให้หลานชายเป็นฝั่งเป็นฝา ความหวังของคุณย่าใกล้จะเป็นจริงแล้ว ท่านจึงได้แต่หัวเราะร่าด้วยความสุขใจ นั่งบนรถด้วยใบหน้าที่แช่มชื่น
สามสัปดาห์ต่อมา
ที่ห้องพักพนักงาน มณียากำลังวิดีโอคอลกับกวิตา
“หวานตา เป็นอย่างไรบ้างแกชุดที่ฉันใส่ สวยไหม”
“สวยมาก”
“แล้วแกไปทำผมที่ไหนมาน่ะมีน มันรับกับใบหน้าของแกมากเลยนะ สวยกว่าวันที่แกรับปริญญา ในตอนนั้น ทำไมแกไม่ทำทรงนี้นะ”
“ก็ตอนนั้น มันไม่ทันคิดไง รู้ไหมวันนั้นมันฉุกละหุกไปหมด” ก่อนมณียาจะเปลี่ยนเรื่อง
“นี่ยายตาหวานชวนนอกเรื่องอีกแล้ว ว่าแต่ว่า ตอนนี้แกจะช่วยติฉันหน่อยสิ ตรงไหนที่ฉันยังขาดตกบกพร่อง ฉันอยากสวยที่สุดในสายตาของคุณวัตวันนี้”
“เฮ้อ...” หวานตาทำเสียงออกมาแล้วมองบน
