บท
ตั้งค่า

ตอนที่สาม ขอชิมดูก่อน

ตอนที่สาม

ขอชิมดูก่อน

เมื่อหยิบเงินคืนมาได้สำเร็จ คุณหนูใหญ่สกุลซ่งจึงมุ่งหน้ากลับจวนโดยไม่แยแสว่าน้องชายจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร

หญิงสาวเดินจ้ำอ้าวไปล้างหน้าล้างตาแล้วนำเงินไปเก็บเอาไว้โดยอาบน้ำเข้านอนอย่างเช่นวันธรรมดาทั่วไป

กระทั่งกลางดึกสงัด ประตูจวนสกุลซ่งจึงเปิดออกด้วยการทุบเรียกขององครักษ์

ซ่งอี้หนิงรีบคลุมผ้าแล้วเปิดประตูออกมาเมียงมองเห็นอ๋องจ้าวจื้อหมิงพาตัวซ่งหยางซึ่งมึนเมาแทบทรงตัวไม่อยู่มาส่งด้วยตัวเอง

ด้วยเป็นเวลาดึกแล้ว คุณหนูใหญ่จึงไม่ได้ออกไปต้อนรับเพียงปล่อยให้พ่อบ้านจัดการรับตัวน้องชาย ส่วนตนเองยืนอยู่ด้านใน

ครั้นเขามองสบสายตามา นางกลับไม่ได้หลบด้วยไม่คิดว่าเขาจะล่วงรู้เรื่องที่กระทำเมื่อตอนเย็น กระทั่งเห็นองครักษ์ที่รายล้อมจึงเพิ่งนึกได้

เอ๊ะ!...อ๋องสูงศักดิ์อาจมีองครักษ์เงานี่นา

หรือว่า...จะมีคนเห็น?

แม้ในใจจะหวาดหวั่น แต่ซ่งอี้หนิงกลับไม่แยแสด้วยเงินที่นางหยิบฉวยมาเป็นของสกุลซ่ง ไม่ใช่ของผู้อื่น

ขโมยเงินตัวเองจะผิดได้อย่างไร?

คุณหนูใหญ่จึงเชิดหน้ายืนส่งแขกสูงศักดิ์กระทั่งเขาขึ้นรถม้ากลับออกไปโดยไม่ใส่ใจว่าเขาจะรู้หรือไม่

กระทั่งเช้า ซ่งหยางซึ่งตื่นมาร่วมโต๊ะอาหารในสภาพดูไม่ได้จึงเล่าเรื่องราวให้มารดาฟังอย่างกระท่อนกระแท่น เขาเอ่ยคำสรรเสริญเยินยอหมิงอ๋องจนเลิศลอยแล้วพ่นคำด่าว่าขโมยตัวแสบจนหญิงสาวอยากจะเอาหมั่นโถวอุดปากน้องชายนัก

“ไอ้หัวขโมยชั่ว บังอาจกล้าลักเงินของข้าไปหมดเลย ท่านแม่ เงินของข้าหายไปหมดแล้ว ทำอย่างไรดี” ซ่งหยางด่าเสร็จก็อ้อนมารดาราวเป็นเด็กน้อยจนซ่งอี้หนิงหมั่นไส้กระแทกตะเกียบเสียงดัง

“พูดเป็นแต่คำว่าทำอย่างไรดีหรืออย่างไร ตัวเองเป็นชายควรเป็นผู้นำครอบครัวไม่ใช่มัวทำตัวเป็นลูกแหง่คิดไม่เป็นเช่นนี้”

“ช่างเถอะๆ หยางเอ๋อร์ยังอายุน้อย อย่าดุน้องมากนักเลย ว่าแต่เมื่อคืนเหตุใดหมิงอ๋องจึงต้องมาส่งเจ้าด้วยตนเองด้วยเล่า” ซ่งฮูหยินเอกรีบเปลี่ยนเรื่องเป็นถามขึ้นด้วยความสงสัย

“ด้วยข้าเสียใจที่ทำเงินหายจึงดื่มมากไปหน่อย พี่หมิงไม่วางใจให้ข้ากลับเองจึงอาสาพามาส่ง

ท่านแม่ พี่หมิงช่างดียิ่ง เขาไม่ถือสาที่ข้าทำเงินหายแล้วยังจัดแจงเรื่องเงินโดยไม่พูดมากสักคำ

ผู้ใดก็รู้ว่าฐานะอ๋องของเขาไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ตั๋วเงินที่เขาควักออกมาทั้งหนาทั้งมีมูลค่ามาก หากสตรีคนใดได้แต่งงานกับเขาคงนับเป็นโชคดียิ่งนัก”

มีเงินมาก?

จริงสิ หมิงอ๋องผู้นี้แม้มีชื่อเสียงไม่ค่อยดีงาม แต่เขากลับมีเงินทองทั้งสถานะตำแหน่งที่มิอาจมองข้าม

ซ่งอี้หนิงคิดขึ้นได้จึงแสร้งเอ่ยถาม

“เขายังไม่มีคู่หมั้นคู่หมายอีกหรือจึงมีเวลาเที่ยวเตร่กับเจ้าอยู่เรื่อย?”

“พี่หญิงใหญ่ พี่ต้องรู้นะว่าพี่หมิงช่างเลือกมากยิ่งนัก ที่ผ่านมาไทเฮาคัดสรรสตรีชั้นสูงมาให้เขาเลือกเป็นชายาตั้งมากมาย แต่เขากลับเลือกไม่ได้สักคน”

เชอะ...เลือกไม่ได้หรือไม่อยากเลือก คงติดใจหญิงคณิกาอยู่ล่ะสิ

ซ่งอี้หนิงคิดด้วยความหมั่นไส้แต่ปากยังต้องถามรายละเอียด “เช่นนั้นก็หมายความว่าเขายังไม่คิดแต่งงาน”

“แม้ไม่คิดแต่คงถ่วงเวลาได้อีกไม่นานด้วยถูกเร่งรัดหลายคราแล้ว”

คำตอบของน้องชายทำให้พี่สาวครุ่นคิด

อืม...หรือว่า นางจะวางแผนเพื่อให้ได้แต่งเป็นชายาเอกของเขาแล้วใช้เงินทองกับอำนาจของเขาเพื่อประโยชน์สูงสุด

ถึงอย่างไรนางก็ได้ชื่อว่าเป็นบุตรสาวภรรยาเอกของจวนกั๋วกง หากเขายินยอมย่อมมีความเหมาะสม

ส่วนหลังจากแต่งงานแล้วเขาจะไปมั่วที่ใดก็ไม่เห็นต้องสนใจ ขอแค่มีเงินให้จับจ่ายก็น่าจะแก้ปัญหาระยะยาวของจวนสกุลซ่งได้แล้ว

ในเมื่อเหลียวมองซ้ายขวาไม่เห็นทางออก ซ่งอี้หนิงจึงตัดสินใจครั้งใหญ่ด้วยการเอ่ยปากบอกมารดาว่านางชื่นชอบหมิงอ๋องผู้นี้

“ข้าได้ยินอาหยางชื่นชมเขาอยู่ทุกวันจึงเคลิ้มตามจนเผลอชื่นชอบเขาแล้วเจ้าค่ะ”

เรื่องน่ายินดีเช่นนี้ มารดาของนางย่อมรีบไปบอกต่อแก่บุตรชายเพื่อให้เขาเป็นพ่อสื่อ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel