บทที่15 นุ่นแล้วแต่คุณย่า
ในสังคมไฮโซข่าวคราวต่าง ๆ ถูกขยายอย่างรวดเร็วไม่กี่นาทีรูปที่เนตรนลินช่วยงานในร้านกาแฟก็ถูกส่งมาถึงมือของนาราริน สาวน้อยวัย19ปีมองดูภาพนั้นก่อนที่จะหัวเราะราวกับคนเสียสติ
“ฮะฮะฮ่า นี่น่ะเหรอนังนา นักเรียนอกที่น่าภาคภูมิใจของคุณพ่อ ฮึ แกไม่มีทางเทียบฉันได้หรอกนังนา”
สำหรับนนทิวัตรและนิลรดานั้นการได้มีเงินทองใช้จ่ายไม่ขาดมือคือสิ่งที่ทั้งคู่พอใจ แต่สำหรับนารารินเด็กสาวนั้นต้องการที่สุดคือความรักจากพลโทณัฐกรผู้เป็นพ่อ เธอพยายามทำตัวน่ารักตั้งอกตั้งใจเรียนก็เพื่อให้ได้รับคำชมและความรักจากคนเป็นพ่อ แม้จะได้รับคำชมแต่ณัฐกรก็ไม่ได้มอบความรักให้เธอและพี่น้องเท่ากับที่มีให้เนตรนลิน ณัฐกรชมเนตรนลินและพูดถึงทุกวี่วันไม่เคยขาด เวลาที่พูดถึงนัยย์ตาคู่นั้นมีแต่ความรักใคร่
เพราะอย่างนั้นเธอจึงเริ่มเกลียดพี่สาวมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอเกลียดเนตรนลิน ถ้าไม่มีเนตรนลินพ่อต้องรักเธอ ต้องชื่นชมเธอเหมือนที่คุณย่ารักและชื่นชมเธอ เธอปรารถนาให้ชีวิตของเนตรนลินจมลงสู่ความทุกข์ และทุกสิ่งที่เคยเป็นของเนตรนลินจะต้องเป็นของเธอ ทั้งความรักของพ่อ และหม่อมหลวงวาสุกรี
เธอจะต้องได้หม่อมหลวงวาสุกรีมาเป็นของเธอ
เด็กสาวหยุดหัวเราะและตรวจความเรียบร้อยของตัวเองก่อนที่จะก้าวลงจากห้องไปยังห้องรับแขกด้วยสีหน้าสลดใจ
“คุณย่าคะ ดูสิคะ เขาแชร์กันทั่วเลยว่าพี่นาไปเป็นพนักงานร้านกาแฟของไฮโซดาว แถมยังดูสนิทสนมกับบาริสต้าของร้านเป็นพิเศษด้วย” เด็กสาวเอ่ยบอกพร้อมกับยื่นสมาร์ทโฟนให้คนเป็นย่าดูนอกจากรูปตอนเสิร์ฟกาแฟ เก็บโต๊ะแล้วยังมีภาพที่ใกล้ชิดกับบาริสต้าหนุ่มด้วยจึงไม่ยากที่จะทำให้คนเป็นย่าเข้าใจไปในทางเดียวกับเธอ
เด็กสาวทำทีเป็นหันไปมองข้าง ๆ ตัวคุณหญิงวาริณีซึ่งมีหม่อมหลวงวาสุกรีนั่งอยู่ก่อนจะแสร้งหน้าตาตื่น
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ นุ่นไม่รู้ว่าคุณวีอยู่ด้วย เสียมารยาทจังเลยขอโทษจริง ๆ นะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” วาสุกรีบอกอย่างไม่ใส่ใจโดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเด็กสาวรู้อยู่แล้วว่าชายหนุ่มอยู่กับย่าของตนแต่ก็แสร้งไม่รู้เพื่อที่จะให้วาสุกรีรับรู้ความตกต่ำของเนตรนลินไปด้วย
“โชคดีของคุณวีนะคะที่ไม่ต้องแต่งงานกับแม่คนนี้ ย่าผิดหวังจริง ๆ ไม่คิดว่าจะมั่วผู้ชายแบบนี้ เลือดแม่เลือดยายคงจะแรง” คุณหญิงวาริณีที่เกลียดชังแม่และยายของเนตรนลินเอ่ยราวกับหญิงสาวไม่ใช่หลานก่อนที่จะยื่นสมาร์ทโฟนคืนให้แก่หลานสาวสุดที่รัก
“ย่าน่าจะให้คุณวีหมั้นกับหนูนุ่นตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องเกิดเรื่องน่าอับอายแบบนี้ คุณชายท่านคงโกรธมาก”
“คุณพ่อท่านไม่ถือสานะครับ ท่านบอกว่ายังยืนยันที่จะเกี่ยวดองกับอินทรโยธาเหมือนเดิม ท่านบอกว่าหลังจากที่น้องนุ่นเรียนจบท่านจะให้ผมแต่งงานกับน้องนุ่มครับ ถ้าน้องนุ่นไม่ขัดข้อง” วาสุกรีเอ่ยบอกพร้อมกับส่งสายตาหว่านเสน่ห์ไปทางนาราริน เด็กสาวมีท่าทีเอียงอายแต่ในใจซ่อนความดีใจและสะใจไว้มิดชิด
“ว่าไงล่ะหนูนุ่น ขัดข้องไหม?” คุณหญิงวาริณีหันไปถามหลานสาว
“นุ่นแล้วแต่คุณย่าค่ะ” เด็กสาวบอกด้วยท่าทีเอียงอายแต่ภายในใจเต็มไปด้วยความยินดีและสะใจ ในขณะที่เนตรนลินทำงานงก ๆ เธอกลับกำลังจะได้เป็นสะใภ้ราชสกุลใหญ่ทุกสิ่งกำลังจะเป็นของเธอส่วนเนตรนลินจะทำได้เพียงมองโดยทำอะไรไม่ได้ แค่คิดก็สะใจแล้ว
ในขณะที่นารารินคิดอย่างมีความสุข คนที่เธอคิดว่าทำอะไรไม่ได้นั้นกำลังนั่งอยู่บนที่นั่งข้างคนขับของแลมโบกินีด้วยใบหน้าแจ่มใสหาได้มีความทุกข์อย่างที่ใคร ๆ คิด
“ทำไมวันนี้ไม่มีรถติดตามสักคันล่ะคะคุณดิน” เธอถามคนที่กำลังขับรถอยู่เมื่อเห็นว่าด้านหลังไม่มีรถของบอดี้การ์ดติดตามมาเลยสักคัน
“ที่ไทยไม่มีอันตรายมากเหมือนอเมริกา วันไหนรำคาญหูรำคาญตาฉันก็สั่งให้กลับไปก่อนหรือไม่ก็ตามมาห่าง ๆ”
“ไม่กลัวมีคนมาลอบยิงเหรอคะ?” หญิงสาวถาม
“คนเราถ้ามันถึงคราวตายมันก็ตาย ฉันไม่กลัวหรอก”
“อือ อย่างที่เขาว่ากันจริง ๆ ด้วย แดนนี่เป็นมาเฟียประเภทที่ไม่กลัวตาย และก็ตายยากตายเย็นเป็นที่สุด คิกคิก” เธอหัวเราะเมื่อนึกถึงคำเล่าลือสมัยยังอยู่อเมริกา
“ฉันยอมรับว่าไม่กลัวตาย แต่ขอปฏิเสธที่ว่าตายยากตายเย็นนะ คนเรามีแค่ชีวิตเดียวถ้าพลาดถึงคราวตายก็ตาย ไม่มีใครหนังเหนียวอยู่ยงคงกระพันเป็นแมวเก้าชีวิตหรอก”
