บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

“จริงเหรอฮะ แล้วผู้ชายคนนั้นเขารู้ไหมว่าพี่ขวัญชอบเขาอยู่” พอได้รู้ว่าขวัญข้าวมีคนที่แอบรัก ตะวันก็อดตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เขาไม่เคยเอะใจมาก่อน

“ไม่รู้” พัทธนันท์ตอบผู้เป็นสามีหน้าตาย

“อ้าว” ตะวันอุทานเสียงดัง ทำเอาธาราที่อยู่ในอ้อมกอดพลอยสะดุ้งกับคำร้องอ้าวของผู้เป็นพ่อ จนทำท่าจะร้องไห้ออกมา ตะวันจึงหันไปปลอบลูกสาวก่อน

“กลับมาคราวนี้ก็เปิดตัวเลยสิขวัญ รับรองว่าพี่คิรินทร์ต้องยอมใจอ่อนแน่ๆ” พัทธนันท์นั้นรู้จักกับคิรินทร์ เพราะเขาเป็นรุ่นพี่ของเธอกับขวัญข้าวตั้งแต่มัธยม แต่จะว่าไปเธอก็ไม่ได้พบกับคิรินทร์นานแล้วเหมือนกัน เพียงแค่ได้ข่าวว่าเขากลับมาจากเมืองนอกและกำลังจะแต่งงาน

“บ้า…เรื่องอะไรเราจะไปเป็นมือที่สามเขาล่ะ พี่เขามีแฟนอยู่แล้วนะฟ้า เห็นบอกว่ากำลังจะแต่งงานกันไม่ใช่เหรอ ขืนเราไปบอกว่าชอบพี่เขา แล้วเกิดมีใครรู้เข้าคงตราหน้าว่าเราจะไปแย่งพี่เขามานะสิ ไม่เอาด้วยหรอก” แม้จะพูดไปยิ้มไป แต่ภายในใจขวัญข้าวกลับรู้สึกเจ็บปวดยังไงไม่รู้

คิรินทร์คือรักแรกของเธอ แต่กลับเป็นรักที่ไม่สมหวัง และไม่รู้ทำไมเธอถึงลืมเขาไม่ได้เลยสักครั้ง แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเขาไม่เคยคิดจะสนใจเธอเลย แต่เธอก็ยังตัดใจจากผู้ชายคนนี้ไม่ได้สักที คิดเรื่องนี้ทีไร คิดแบบนั้นจึงทำได้แค่ก้มหน้าเจ็บปวดอยู่คนเดียว

“แต่ผมว่าคนดีๆ สวยๆ อย่างพี่ขวัญต้องมีคนดีๆ มารักอยู่แล้วละครับ”

“พูดดีนะเนี่ยตะวัน” ขวัญข้าวหันไปเอ่ยยอตะวันเข้าให้ ปรับน้ำเสียงและสีหน้าให้มาเป็นขวัญข้าวผู้สดใสเหมือนเดิม เก็บความรู้สึกน้อยใจไว้ให้ลึกสุด พัทธนันท์เริ่มหมั่นไส้ผู้เป็นสามีที่ได้ลูกยอเข้าหน่อยก็ตัวลอยเชียว

“อ้อ…เราซื้อของฝากมาให้หลานๆ ด้วยอยู่ในรถเดี๋ยวลงไปเอาก่อนนะ” พูดจบขวัญข้าวก็ส่งภูผากลับไปให้พัทธนันท์อุ้มต่อ ก่อนจะก้าวยาวๆ ลงไปชั้นล่างของบ้าน

“ฟ้า พี่ขวัญเขาชอบผู้ชายคนนั้นมากเลยเหรอ ถึงไม่ยอมมีแฟน” เมื่ออยู่ตามลำพังตะวันก็เอ่ยถามพัทธนันท์ขึ้น เพราะถึงแม้จะรู้จักขวัญข้าวมานาน แต่เขาก็ไม่เคยรู้เรื่องส่วนตัวของขวัญข้าวสักเท่าไหร่

“คงประมาณนั้นนะ เพราะพี่คิรินทร์เป็นรักแรกของขวัญเขาเลยล่ะ เห็นว่าทั้งสองคนคบกันอยู่ช่วงหนึ่งด้วย แต่พอ พี่คิรินทร์ไปเรียนต่อเมืองนอก ทั้งคู่ก็ห่างๆ กันไป”

“พี่ขวัญนี่รักใครรักจริงนะเนี่ย”

“อืม… รักเขาข้างเดียวแล้วก็เจ็บคนเดียว”

“ฟ้าคืนนี้ผมต้องนอนคนเดียวจริงๆ เหรอฮะ” คุยเรื่องขวัญข้าวไม่ทันไร ตะวันก็วกกลับมาคุยเรื่องตัวเองทันที

“ตะวันบ้า ลามก ฟ้าไม่พูดด้วยแล้ว” พัทธนันท์ส่งค้อนกลับไปให้ผู้เป็นสามีอย่างน่ารัก ก่อนจะอุ้มน้องภูผากลับไปที่เตียงกว้าง เพราะลูกชายตัวน้อยใช้มือเล็กๆ ปัดป่ายอยู่บริเวณหน้าอกเธอนั่นแสดงว่าหิวแล้ว พัทธนันท์เปิดเสื้อขึ้น เพื่อให้นมลูกแต่คนที่เป็นพ่อของลูกกลับมองเธอตาวาว จนพัทธนันท์เขินสายตานั้น จนต้องหมุนตัวหลบไป แต่ก็ถูกตะวันซึ่งอุ้มธาราอยู่ในอ้อมกอดหมุนตัวตามไปด้วยก่อนจะหอมแกมแดงปลั่งมีน้ำมีนวลของพัทธนันท์ไปฟอดใหญ่ แล้วหันมาหอมน้องธาราในอ้อมกอดอีกคน เพราะกลัวลูกสาวจะงอนที่พ่อเอาแต่หอมแก้มแม่อย่างเดียว

ขวัญข้าวตื่นเช้ามาก็ขอตัวกลับบ้านตัวเองทันที เมื่อคืนเธอกับพัทธนันท์แทบจะไม่ได้นอนเพราะมัวแต่คุยกันแล้วก็ดูแลป้อนนมเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนไปด้วย แต่ความคิดถึงที่มีต่อผู้เป็นพ่อก็ทำให้ขวัญข้าวตรงดิ่งกลับมาบ้านตั้งแต่เช้า พ่อของเธอนั้นเป็นนายทหารซึ่งไม่กี่ปีก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว แต่มองดูดีๆ แม้พ่อของเธอจะอายุห้าสิบห้าปี แต่ร่างกายยังหนุ่มแน่นคงเป็นเพราะการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ เหล้าไม่ดื่มบุหรี่ไม่สูบเลยทำให้พ่อของเธอแข็งแรงกว่าคนในวัยเดียวกันมาก ถ้าใครที่ไม่ทราบเรื่องอายุก็จะเดาว่าพ่อของเธอเพิ่งสี่สิบกว่าปีเท่านั้นเอง

แต่ก่อนที่จะก้าวเข้ามาภายในบ้าน ขวัญข้าวก็ถอนหายใจออกมาดังๆ หนักๆ สองสามครั้ง เหมือนความรู้สึกหนักอึ้งมันพุ่งมาหาเธออีกยังไงไม่รู้ แม้จะนานแล้วที่ไม่ได้กลับมาที่นี่ แต่สิ่งที่ต้องพบหลังประตูไม้นี้ต่างหากที่ขวัญข้าวกลัว กลัวทั้งใจตัวเอง และกลัวใจเอมอรด้วยว่าจะยังเป็นเอมอรคนเดิม คนที่คอยเจ้ากี้เจ้าการเรื่องดูตัวให้เธอเหมือนเมื่อก่อนอีกหรือเปล่า และถ้าเอมอรจะกลับมาเป็นแบบนั้นอีก ขวัญข้าวก็คงไม่ยอมง่ายๆ แต่ตราบใดก็ตามที่เอมอรยังได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยงของเธอ ก็ย่อมสามารถจะทำอะไรกับเธอได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเธอยังยืนกรานว่าจะไม่ยอมทำตามด้วย งานนี้ก็คงได้งัดข้อกันไปอีกนาน

ขวัญข้าวตัดสินใจลงจากรถ ก่อนจะก้าวเข้าไปภายในบ้านใหญ่อย่างช้าๆ สายตาก็มองไปยังบ้านเล็กซึ่งอยู่ถัดออกไปจากบ้านใหญ่พอสมควร ทั้งสองบ้านมีซุ้มไม้หนากั้นกลางเท่านั้น ก่อนหน้านี้เธอเปิดร้านขนมโดยใช้พื้นที่หน้าบ้านใหญ่เป็นร้าน และเป็นห้องครัวทำขนม แต่ด้วยหน้าที่การงานของผู้เป็นพ่อ ทำให้มีแขกมาพบปะเป็นประจำ ขวัญข้าวนั้นด้วยความเกรงใจเธอจึงเลือกที่จะสร้างบ้านเล็กขึ้นอีกหลัง เพราะจะได้สะดวกสำหรับการเดินเข้าออกในเวลาทำงานของเธอและความเป็นส่วนตัวของพ่อด้วย แต่ตอนนี้เธอได้ปิดร้านขายขนมหน้าบ้านไปแล้ว เพราะย้ายไปเปิดรวมกับโรงเรียนสอนทำอาหารที่ลงทุนกับ พัทธนันท์ บริเวณร้านขนมเดิมจึงเปลี่ยนมาเป็นร้านขายดอกไม้ของเอมอรแม่เลี้ยงของเธอโดยมีพ่อลงทุนให้ แต่ตอนนี้เธอกลับไม่เห็นเอมอร อยู่ที่ร้านดอกไม้ ถ้าเดาไม่ผิดเวลานี้คงกำลังเอนหลังอ่านนิตยสารแฟชั่นจิบกาแฟอยู่ในห้องรับแขกเป็นแน่

ซึ่งพอขวัญข้าวก้าวเข้ามาภายในบ้านใหญ่ เธอก็คิดถูกเพราะตอนนี้เอมอรนั้นกึ่งนั่นกึ่งนอนอ่านนิตยสารอย่างที่ขวัญข้าวเดาไว้ ก่อนที่แม่เลี้ยงของเธอจะละสายตาจากหนังสือในมือแล้วเงยหน้าขึ้นมอง คนที่เธอได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ พอเห็นว่าเป็นขวัญข้าวเอมอรก็รีบวางนิตยสารในมือลงก่อนจะโผเข้าไปหาพร้อมกับกอดลูกเลี้ยงของเธอไว้แน่น แต่สีหน้าและแววตากลับเย็นชา ถ้าหากใครมาได้เห็นคงมองออกว่าเอมอรคิดยังไงกับขวัญข้าว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel