บท
ตั้งค่า

คลื่นอารมณ์ที่มิอาจซ่อนเร้น

ฟากฟ้ายามเย็นถูกย้อมเป็นสีส้มอมแดง ลมอ่อน ๆ พัดโชยผ่านราวกับทุกสิ่งสงบเงียบ แต่ในใจของไป๋เฉินหานกลับไม่ได้สงบเช่นนั้น ตรงหน้าของเขา หญิงสาวในอาภรณ์งามสง่ากำลังยืนอยู่ นางมีดวงหน้ารูปไข่ คิ้วเรียวราวพู่กันวาด ดวงตาคมเฉียบแฝงแววฉลาดเฉลียว

"มิได้พบกันเสียนาน ท่านอาจารย์ไป๋" เสียงของนางฟังดูนุ่มนวล แต่แฝงด้วยความมั่นใจ

"องค์หญิงหรงฮวา"

ไป๋เฉินหานเอ่ยเรียกชื่อของนาง นี่คือสตรีที่ถูกกำหนดให้เป็นคู่หมั้นของเขาตั้งแต่วัยเยาว์ แม้เขาจะไม่เคยสนใจเรื่องหมั้นหมายนี้ แต่ดูเหมือนนางจะคิดตรงข้ามกับเขา

"ท่านไม่คิดถึงข้าบ้างเลยหรือ?" นางถามพลางก้าวเข้ามาใกล้

"เรื่องหมั้นหมายเป็นเพียงข้อตกลงระหว่างผู้ใหญ่ของตระกูล" ไป๋เฉินหานตอบเสียงราบเรียบ

"แต่มิใช่ข้อตกลงที่สามารถละเลยได้" หรงฮวากล่าวพร้อมรอยยิ้ม "ข้าเองก็เติบโตขึ้นมาเพื่อคู่ควรกับท่าน"

นางยื่นมือออกไปหมายจะสัมผัสมือของเขา ทว่าก่อนที่มือของนางจะสัมผัสถูก ไป๋เฉินหานกลับถอยหลังเล็กน้อยอย่างแนบเนียน และในจังหวะนั้นเอง...

"อาจารย์ ข้าต้องการรายงานเรื่องภารกิจ..." เสียงหนึ่งดังขึ้นจากหน้าประตู

ไป๋ซูเหยาเดินเข้ามาพร้อมกับม้วนเอกสารในมือ แต่แล้วฝีเท้าของนางก็ชะงักค้าง ดวงตาของนางจับจ้องไปยังภาพตรงหน้า

อาจารย์ของนางกำลังยืนอยู่กับสตรีที่งดงามและสูงศักดิ์ และดูเหมือนว่าสตรีนางนั้นจะกำลังยื่นมือไปหาเขา แม้พวกเขาจะไม่ได้แตะต้องกัน แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้หัวใจของไป๋ซูเหยาสั่นไหว

"นางเป็นใคร? เหตุใดถึงอยู่กับอาจารย์...ใกล้ชิดเพียงนี้?"

ในอกของนางคล้ายมีบางสิ่งกำลังเดือดพล่าน ราวกับถูกบีบแน่นอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ไป๋เฉินหานหันมาทางซูเหยา ดวงตาของเขาฉายแววลังเลชั่วขณะ

"ซูเหยา..." แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร นางก็ก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว

"ศิษย์ขออภัยที่รบกวน ข้าจะมารายงานภายหลัง" พูดจบนางก็หมุนตัวออกไปทันที

ไป๋เฉินหานขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติในน้ำเสียงของซูเหยา

ค่ำคืนเดียวกันไป๋ซูเหยาฝึกกระบี่อย่างหนัก ร่างกายของนางเต็มไปด้วยเหงื่อ หัวใจของนางเต้นแรงเกินกว่าจะสงบลงได้

"เหตุใดข้าจึงรู้สึกเช่นนี้? ข้ากำลังหึงหวงอยู่หรือ?"

นางกัดริมฝีปากแน่น พยายามขจัดความคิดฟุ้งซ่านเหล่านั้นออกไป นางเป็นเพียงศิษย์ อาจารย์จะมีคู่หมั้นหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวข้องกับนาง นางไม่มีสิทธิ์รู้สึกเช่นนี้...แต่นางก็ยังรู้สึกอยู่ดี

"ซูเหยา" เสียงเรียบนิ่งดังขึ้นจากด้านหลัง

ไป๋ซูเหยาชะงัก นางหันไปมองพบว่าไป๋เฉินหานยืนอยู่ที่มุมลานฝึก สีหน้าของเขาเรียบนิ่ง แต่แววตาของเขาดูเหมือนกำลังสังเกตนางอย่างละเอียด

"อาจารย์มาเหตุใด?" นางถามเสียงเรียบ พยายามรักษาความสงบของตนเอง

ไป๋เฉินหานไม่ได้ตอบทันที เขาเดินเข้ามาใกล้ นัยน์ตาสีดำลึกล้ำจับจ้องไปที่นาง

"เจ้ามีสิ่งใดอยากถามข้าหรือไม่?"

หัวใจของซูเหยาเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย แต่นางยังคงตีสีหน้าเรียบเฉย

"ข้ามิได้มีสิ่งใดข้องใจ"

"จริงหรือ?"

"แน่นอน" นางกล่าวโดยไม่สบตาเขา "เรื่องของอาจารย์เป็นเรื่องส่วนตัว ศิษย์ไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย"

ไป๋เฉินหานมองนางนิ่ง ก่อนจะกล่าวเสียงราบเรียบ

"นางเป็นคู่หมั้นของข้า"

ซูเหยากำกระบี่แน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว

"..."

"ข้าไม่เคยยอมรับข้อตกลงนั้น"

ซูเหยาชะงัก เงยหน้าขึ้นมองเขาทันที

"อาจารย์หมายความว่า..."

"ข้ามิได้รักนาง และข้าไม่คิดจะแต่งกับนาง" ไป๋เฉินหานกล่าวชัดเจน "ข้าเพียงอยากให้เจ้ารู้ไว้"

ซูเหยามองเขา ดวงตาของนางฉายแววซับซ้อน ไป๋เฉินหานกำลังอธิบาย เขากำลังทำให้แน่ใจว่านางเข้าใจ แต่เหตุใดกัน? เหตุใดเขาต้องอธิบายเรื่องนี้ให้นางฟัง? ไป๋ซูเหยาหลุบตาลง ซ่อนความรู้สึกที่วุ่นวายในใจ นางโค้งตัวอย่างนอบน้อม

"ศิษย์เข้าใจแล้ว"

ไป๋เฉินหานมองนางนิ่ง ราวกับกำลังรอคอยคำพูดบางอย่างจากนาง แต่สุดท้ายซูเหยาก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีก นางหมุนตัวกลับไป ฝึกกระบี่ต่อราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

ไป๋เฉินหานยังคงยืนอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจแผ่วเบา แล้วหันหลังจากไป แม้พวกเขาจะไม่พูดอะไรมาก แต่บางอย่างระหว่างพวกเขากลับเปลี่ยนไปอีกครั้ง

ครั้งนี้ มิใช่เพียงเส้นแบ่งของศิษย์กับอาจารย์...แต่เป็นเส้นแบ่งของหัวใจที่กำลังสั่นไหว

ยามสายลมเย็นพัดผ่านสวนไผ่ของสำนัก เสียงใบไผ่เสียดสีกันเป็นจังหวะ ทว่าในเรือนพักของไป๋เฉินหานกลับมีบรรยากาศที่เงียบงันและตึงเครียด

องค์หญิงหรงฮวาจากตระกูลสูงศักดิ์พระธิดาของฮ่องเต้ปัจจุบัน คู่หมั้นตามข้อตกลงของไป๋เฉินหาน นางยืนสง่างามในชุดไหมสีม่วงเข้ม สายตาของนางจับจ้องไปยังบุรุษตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ

"ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าได้ยินเรื่องใดมา?"

ไป๋เฉินหานไม่ตอบ เขาเพียงแค่จิบชาช้า ๆ อย่างไม่ยี่หระ

หรงฮวายิ้มเย็น "มีคนกล่าวว่า ศิษย์ของท่าน...ไป๋ซูเหยา มีความรู้สึกเกินเลยกับอาจารย์ของนาง"

มือที่ถือจอกชาของไป๋เฉินหานหยุดชะงักไปเพียงเสี้ยววินาที แต่ก็รีบกลับเป็นปกติอย่างแนบเนียน

"ข้าควรทำเช่นไรดี?" หรงฮวาเอนตัวลงพิงพนักเก้าอี้ "ในฐานะคู่หมั้นของท่าน ข้าย่อมไม่อาจปล่อยให้เรื่องเช่นนี้ดำเนินไปโดยมิทำสิ่งใด"

ไป๋เฉินหานวางจอกชาลง

"องค์หญิงกำลังจะทำสิ่งใด?"

"เพียงแค่สนทนา" หรงฮวากล่าวเสียงเรียบ "ข้ามิใช่สตรีที่ไร้เหตุผลเพียงเพราะความหึงหวง...ข้าเพียงอยากให้เด็กคนนั้นเข้าใจถึงที่ทางตนเอง"

สายตาของไป๋เฉินหานเย็นเยียบลงทันที

"องค์หญิงหรงฮวา ท่านอย่าคิดแตะต้องนาง"

หรงฮวาหัวเราะเบา ๆ "ข้าหาได้คิดจะทำร้ายใคร...เพียงแค่ให้บทเรียนเล็ก ๆ แก่นางเท่านั้น"

ช่วงบ่ายหลังจากฝึกกระบี่เสร็จ ซูเหยากำลังเดินกลับไปยังเรือนพักของตน แต่ระหว่างทาง นางกลับพบกับสตรีที่งดงามและสง่าราวกับบุปผาในฤดูใบไม้ผลิ องค์หญิงหรงฮวายืนอยู่ที่เส้นทางเดิน สายตาของนางสำรวจซูเหยาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะเผยรอยยิ้มบาง ๆ

"เจ้าคือไป๋ซูเหยา?"

ซูเหยาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะโค้งคำนับตามมารยาท

"ใช่เพคะ"

หรงฮวาเดินเข้ามาใกล้ "ข้าได้ยินเรื่องของเจ้ามามาก…เจ้าเป็นศิษย์ที่มีพรสวรรค์ยิ่งของไป๋เฉินหาน"

"องค์หญิงกล่าวเกินไปแล้วเพคะ"

"หืม...เช่นนั้นหรือ?" หรงฮวาเอียงคอเล็กน้อย "แต่สิ่งที่ข้าสนใจมิใช่เรื่องพรสวรรค์ของเจ้า..."

ซูเหยาหัวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงรักษาท่าทีสงบ

"ข้ากำลังสงสัย..." หรงฮวากล่าวเสียงเบา แต่คมกริบ "ว่าเหตุใดเจ้าจึงแสดงท่าทีไม่พอใจ เมื่อเห็นข้าอยู่กับคู่หมั้นของข้า?"

ซูเหยาชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"หม่อมฉันมิได้มีความคิดเช่นนั้น"

"จริงหรือ?" หรงฮวาหัวเราะเบา ๆ "เช่นนั้นก็แปลว่าเจ้ามิได้รู้สึกสิ่งใดกับอาจารย์ของเจ้าเลย?"

ซูเหยากำมือแน่น แต่นางยังคงนิ่งเงียบ

"ไม่ตอบ? นั่นก็แปลว่าเจ้ารู้ตัวแล้วสินะ"

"..."

หรงฮวายิ้มเยาะ "น่าสงสารนัก เจ้าคงทรมานไม่น้อย ใช่หรือไม่?"

ซูเหยาเงยหน้ามองหรงฮวา ดวงตาของนางสงบนิ่ง

"องค์หญิงต้องการกล่าวสิ่งใดกันแน่?"

"ข้าเพียงต้องการให้เจ้าตระหนักว่า..." หรงฮวาก้าวเข้ามาใกล้ กระซิบเสียงเบา "ไม่ว่าความรู้สึกของเจ้าจะเป็นเช่นไร ก็หาได้มีความหมาย"

ซูเหยารู้สึกเหมือนถูกกระบี่ทิ่มแทงกลางใจ

"ไป๋เฉินหานคือคู่หมั้นของข้า และเจ้าก็เป็นเพียงศิษย์ของเขา…ไม่มีวันก้าวข้ามเส้นนี้ไปได้"

ซูเหยาเม้มริมฝีปาก นางอยากจะตอบโต้ แต่นางก็รู้ดีว่าสิ่งที่องค์หญิงกล่าวนั้นคือความจริง ไป๋เฉินหานเป็นอาจารย์ของนาง เขาเป็นบุรุษสูงส่งที่มีคู่หมั้นเหมาะสมอยู่แล้ว ส่วนตัวนาง...เป็นเพียงศิษย์ที่ต่ำต้อย มิอาจมีสิทธิ์แม้แต่จะรักเขา

หรงฮวาเห็นสีหน้าของซูเหยา ก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ นางหมุนตัวจากไปอย่างสง่างาม ทิ้งให้ซูเหยายืนอยู่เพียงลำพัง หัวใจของซูเหยาเต้นแรง และเจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออก

"ไม่มีความหมาย...ไม่มีวันก้าวข้ามเส้นนี้ไปได้"

คำพูดของหรงฮวาดังก้องและวนเวียนอยู่ในหัวของนาง

ยามค่ำคืนซูเหยานั่งอยู่หน้าต่าง มองออกไปยังดวงจันทร์บนฟากฟ้า นางพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ แต่ลึก ๆ แล้วนางรู้ดีว่าตัวเองกำลังเจ็บปวด

"ข้าควรทำเช่นไร?"

"ซูเหยา" เสียงเรียกที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านนอก

ซูเหยาหันไป และพบว่าไป๋เฉินหานยืนอยู่ตรงหน้าเรือนของนาง

"อาจารย์?" นางรีบลุกขึ้น ก่อนจะโค้งคำนับตามมารยาท "ท่านมาเหตุใดหรือเจ้าคะ?"

ไป๋เฉินหานมองนางนิ่ง "ข้าได้ยินว่าองค์หญิงหรงฮวามาพบเจ้า"

ซูเหยาสะดุ้งเล็กน้อย แต่นางก็พยายามคุมสีหน้าให้สงบ” เพียงสนทนากันเล็กน้อยเจ้าค่ะ"

ไป๋เฉินหานขมวดคิ้วเล็กน้อย "นางกล่าวสิ่งใดกับเจ้าหรือไม่?"

"มิได้กล่าวสิ่งใดเป็นพิเศษเจ้าค่ะ"

ไป๋เฉินหานจ้องมองนาง ราวกับพยายามอ่านใจนาง

"ซูเหยา" เขาเอ่ยเสียงเบา "หากมีสิ่งใดทำให้เจ้าลำบากใจ เจ้าสามารถบอกข้าได้"

ซูเหยาสบตาเขา นางอยากจะกล่าวออกไปเหลือเกิน อยากจะถามว่า..."อาจารย์...ข้ามีความหมายสำหรับท่านหรือไม่?" แต่สุดท้าย นางก็เพียงแค่โค้งคำนับเล็กน้อย

"ศิษย์เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ"

ไป๋เฉินหานยังคงมองซูเหยา แต่เมื่อเห็นว่านางไม่กล่าวสิ่งใดอีก เขาก็ถอนหายใจเบา ๆ

"พักผ่อนเถิด" เขากล่าวเพียงเท่านั้น ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป ซูเหยายืนมองแผ่นหลังของเขาจนลับสายตา ในคืนนั้น นางรู้สึกหนาวเหน็บยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel