ตัด
วังหลวง
“ใต้เท้าหลงถาน มีเรื่องสำคัญใดกัน”หลงถานไป๋ถง ประสานมือตรงหน้าพระพักตร์
“ฝ่าบาท องค์ชายรองปีนี้ 18เหมาะที่จะมีชายาได้แล้ว หากปล่อยให้เที่ยวเล่นเกรงว่าจะไร้หน้าที่รับผิดชอบ”
“ข้ารู้แล้วเจ้า อยากจะพูดอะไร”
“กระหม่อมเห็นควรว่าฝ่าบาทควร ประทานงานแต่งเสีย”
“องค์ชายใหญ่ก็ยัง ไม่มีชายาเอก แม้จะมีรอง ทว่าชายาเอกยังไม่ได้แต่งตั้งเช่นกันข้าควรจะแต่งตั้งชายาเอกให้องค์ชายใหญ่เสียก่อน”แม้จะรู้ดีว่าไป๋ถงต้องการพูดเรื่องใด ทว่าเหอผิงฉีปิงจงใจโยกโย้เพราะหากยอมเชื่อฟังหลงถานไป๋ถงเท่ากับเกรงกลัวเขา
“ข้าพูดแบบไม่อ้อมค้อม องค์ชายใหญ่ชอบพอไป๋อี้ชิง ทว่าเขากลับมีชายารองอยู่ก่อนแล้ว ข้าไม่เห็นว่าบุตรีของข้าสมควรจะเป็นต้องยื้อแย่งใครแม้จะเป็นเอกก็ตาม ข้าจึงอยากให้ฝ่าบาทประทานงานแต่งงานให้กับองค์ชายรองเหอผิงฟาหยางกับไป๋อี้ชิงเสีย เพราะหลายวันมานี้ไป๋อี้ชิงกับองค์ชายรองมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ อีกทั้งองค์ชายรอง ยังมีทีท่าว่าชอบพอกับบุตรีข้า ข้าจึงกล้ามาพูดเรื่องนี้หวังว่าฝ่าบาท จะประทานอนุญาต”น้ำเสียงเด็ดเดี่ยวจริงจัง ผิงฉีปิงยิ้มมุมปาก
“ท่านคิดว่าอย่างนั้นหรือ ข้าควรประทานงานแต่งหรือ”
“ฝ่าบาทในใจฝ่าบาทรู้ดี ตำแหน่งรัชทายาท คนที่เหมาะสมที่สุดคือใคร แค่เพียงฝ่าบาทแต่งไป๋อี้ชิงให้กับองค์ชายรองเสีย ข้าจึงยินดีสนับสนุนองค์ชายรอง อย่างถึงที่สุด”เหอผิงฉีปิงยิ้มบางๆ
[1]
เชิงอรรถ
^ ข้อมูลจากการผ่าจ้านและทำเสน่ห์ของคนทางเหนือประสบการณ์ตรง หมอเสน่ห์และผ่าจ้านที่เคยได้ยินเขาพูดให้ไรท์ฟัง หากคนที่มาขอให้ผ่าจ้าน(ผ่าจ้านคือทำให้เกลียดกัน)ต้องมาถึง สามครั้งหากไม่ถึงสามจะไม่ยอมทำให้เพราะถือว่าไม่เกลียดจริงการผ่าจ้านเป็นบาปอย่างยิ่ง หากทำให้ใครจะต้องถือศีลเจ็ดวันเจ็ดคืนเพื่อไถ่บาป และหากคนที่มาขอให้ทำให้ ยังตัดใจไม่ขาดหรือไม่ได้รับความเดือดร้อนพอ หมอผ่าจ้านที่ทำไปต้องรับบาปไปคนเดียวบาปกรรมจะตกอยู่กับลูกหลานอย่างเลี่ยงไม่ได้
เหอผิงฟาหยางยืนรอหวงหลานที่เพิงเก่าที่นางเคยให้เป็นที่ช่วยคน กลับไร้แม้เงาของหวงหลาน
“องค์ชาย นี่ก็เลยเวลามากแล้ว แม่นางน้อยหวงหลานคงไม่มาแล้ว”
“รออีกสักพักดีไหม บางทีวันนี้นางอาจมาสายๆ ”
“แต่นี่ก็ใกล้ยามเที่ยงแล้วหากองค์ชายชักช้า เกรงว่าจะไม่ทันเวลาดื่มชากับแม่นางหลงถานไป๋อี้ชิง”
“รอนางอีกสักครู่หากนางไม่มา ค่อยไปที่บ้านตระกูลหลงถาน”กงฉานเดินไปที่ ร้านซาลาเปาข้างๆ
“ท่านลุง แม่นางน้อยหวงหลานท่านรู้ไหมว่านางพำนักที่ไหนกัน”
“ ใครๆก็รู้ว่า ไม่มีใครรู้ว่าแม่นางน้อยหวงหลานพำนักที่ไหน ครั้งหนึ่งเคยมีคนคิดสะกดรอยตามแต่ทว่ากลับถูกท่านป้าหลิวเหยียนลงไม้ลงมือเสียปางตาย ตั้งแต่นั้นมาก็เลยไม่มีใครกล้าเข้าใกล้สองคนแม่ลูกอีกเลย”
“แล้วรู้หรือไม่ ทำไมวันนี้แม่นางน้อยหวงหลานจึงไม่มา"
"นั่นอาจเป็นเพราะนางป่วยไข้ ปกติแม่นางน้อยหวงหลานไม่มาคนเดียวก็มากับมารดาหลิวเหยียน"
ฟาหยางขมวดคิ้ว
"ท่านลุง นางพำนักอยู่ที่แห่งใด"ลุงขายซาลาเปาส่ายหน้าช้าๆ
"องค์ชายไร้วาสนา ไม่ได้ชิดเชื้อมีเพียงวาสนาได้พานพบ"
"ข้าจะมาอีกทีวันพรุ่งนี้"กงฉานถอนหายใจ กับใบหน้าเศร้าหมองของเหอผิงฟาหยางที่แม้จะก้าวเดินนำหน้าแต่ภายในใจของฟาหยาง กงฉานรู้ดีว่าไม่มีทางยอมแพ้สิ่งใดง่ายๆ
บ้านหลงถาน
"คุณหนูรอองค์ชายอยู่นานแล้ว"ฟาหยางเดินตามสาวใช้เข้าไปข้างใน
เบื้องหน้านั่น องค์ชายใหญ่เหอผิงฟาหนาน นั่งหันหลังให้ฟาหยางที่ก้าวเข้าไปไป๋อี้ชิง นั่งหันหน้ามาสบตาฟาหยางพอดี นางกำลังบรรเลงเพลงกู้เจิ้งเพราะพริ้ง แต่ก็สะดุดหยุดลงทันที เมื่อเห็นว่าฟาหยางเข้ามา
