บทที่ 2 ตามกลิ่น (5)
หากสบสายตากับท่านหญิงผู้สูงศักดิ์แห่งจามอลเข้า ฟายิสกลับคิดไปอีกทางว่าท่านหญิงโซญาทอดสะพานให้ มือหนาสั่นน้อย ๆ จึงเลื่อนมาจับข้อมือบางของหญิงงามผู้สูงส่ง ทว่านางผู้ถือตัวและระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลาจึงจิกสายตามิพอใจมองมือหนาซึ่งล่วงเกินนางเข้า
“ปล่อย!”
ไม่ต้องสั่งซ้ำเป็นครั้งที่สอง ฟายิสยอมคลายมือหนาออกด้วยความเสียดายในทันที กระนั้นชายหนุ่มก็อดที่จักสูดความหอมจากมือหนาของตนเองเข้าจมูกมิได้ และกิริยาเสมือนขาดแคลนสตรีมานานนี้เองก็ทำให้โซญาอดแสยะปากเย้ยหยัน
“อดอยากปากแห้งมาจากไหนหรือท่านเจ้ากรมฯ ?”
“อย่าหมิ่นน้ำใจข้า ท่านหญิงย่อมรู้อยู่แก่ใจดี ว่าข้าปรารถนาเพียงท่านเท่านั้น”
“ข้ารู้ปรารถนาแห่งท่านดี แต่ยังไม่ถึงเวลาที่เราตกลงกันมิใช่รึ รอให้ท่านปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นก่อนเถิด ข้าจักตบรางวัลอย่างงามให้กับท่านเลยทีเดียว” โซญาผัดผ่อนไปเรื่อยอย่างไม่มีกำหนดเวลา หรือต่อให้ฟายิสทำงานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จตามที่ตกลงกันไว้ นางก็ไม่มีวันทำตามข้อตกลงกันไว้เด็ดขาด
“หวังว่าท่านหญิงจักรักษาคำพูด”
“พูดเช่นนี้ หรือว่าท่านเจ้ากรม ฯ ไม่เชื่อใจข้า?”
“มิใช่เลย ข้าเพียงต้องการความมั่นใจเท่านั้น” ฟายิสกวาดสายตามองเรือนร่างสุดแสนเย้ายวนของสตรีผู้สูงศักดิ์ตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้าอย่างไม่มีปิดบังปรารถนาว่าเขากระหายนางถึงเพียงใด และเหมือนว่าโซญาจักอ่านสายตาหวานเชื่อมคู่นี้ออก
“โซญารักษาคำพูดตนเองเสมอ” นางงามยิ้มยั่วก่อนปรายตามายังนางกำนัลที่รับใช้ใกล้ชิด “จาร์วี ราตรีนี้เจ้าจงเป็นตัวแทนของข้าอยู่ปรนนิบัติท่านฟายิสเถิด รุ่งขึ้นเจ้าค่อยกลับไปปรนนิบัติรับใช้ข้า”
คำสั่งของท่านหญิงโซญาทำให้จาร์วีซึ่งกำลังอ้าปากกว้างหาวหวอด ๆ ถึงกับลืมความง่วง แล้วรีบรับคำอย่างกระตือรือร้นในทันที
“เจ้าค่ะท่านหญิง”
ทว่าผู้ซึ่งถูก ‘ยัดเหยียด’ และ ‘เหยียดหยามเกียรติ’ ในกาลเดียวกันอย่างฟายิสถึงกับพูดอะไรไม่ออก นอกจากแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาให้เห็นเท่านั้น
“หวังว่ารางวัลปลอบใจของข้าจักถูกใจท่านนะ” โซญาหรี่ตาลงมิวายยั่วยิ้มอย่างมีจริต แล้วเยื้องกายกลับออกไปจากห้องพร้อมเสียงหัวเราะชอบใจ
ฟายิสที่รู้ตัวว่ามิเคยอยู่ในสายตาของท่านหญิงโซญาเลย ได้แต่ขบกรามเป็นสันนูนกำมือแน่น เขาบอกตนเองด้วยความเจ็บใจเลยว่า ถ้าพบรังจิ้งจอกจอมโจรทะเลทรายเมื่อไหร่ เขาต้องได้ท่านหญิงโซญามากอดนอนให้สมรักจงได้
คิดได้เช่นนั้นดวงตาของฟายิสจึงเป็นประกายมุ่งมั่นและน่ากลัวกว่าเดิม
“ทหาร ตามตัวนูร่ามาพบข้า!”
อึดใจเดียว ผู้ที่ฟายิสต้องการพบหน้าจึงเข้ามารับงาน
“ท่านฟายิสโปรดบัญชา ว่าจักให้ข้านูร่ากระทำสิ่งใด” นางผู้งดงามหากมีรอยแผลเป็นจากไฟไหม้บนใบหน้าซึ่งวางมือจากการเป็นนักฆ่าค้อมศีรษะให้อย่างนอบน้อม
ฟายิสที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวสวยปูด้วยหนังสัตว์โยนถุงใส่เหรียญเงินจำนวนหนึ่งมาให้
“ค่าจ้างล่วงหน้าสำหรับงานใหญ่ ข้าต้องการรู้ว่ารังจอมโจรจิ้งจอกซ่อนอยู่ที่ใด เจ้าจงหาวิธีทำให้จอมโจรไว้วางใจในเจ้า แล้วนำความลับนั้นมาบอกข้า”
“เจ้าค่ะ” นูร่าซึ่งรับถุงเงินได้ค้อมศีรษะให้ ก่อนกลับออกไปจากห้องเงียบ ๆ
จังหวะที่นางหันหน้ามานี่เอง จึงทำให้คามินซึ่งซ่อนตัวอยู่หลังต้นเสาซึ่งโยงด้วยผ้าม่านเนื้อหนาได้เห็นใบหน้าของนางถนัดตา แม้นรูปร่างหน้าตาของนางจักมิได้โดดเด่น
แต่ก็จัดได้ว่านางคือนางงามของดินแดนแห่งเขา ทว่าแผลเป็นบนใบหน้าชวนให้สยองนั้นก็ทำให้คามินรู้สึกขนลุก และคุ้นหน้านางเป็นอย่างดี
“มิต้องทอดสะพานเชิญชวนข้าเช่นนั้นหรอกจาร์วี เจ้าจงรีบกลับไปรับใช้นายของเจ้าเถิด และฝากบอกท่านหญิงโซญาด้วยว่า ข้าปรารถนาแต่เพชรเม็ดงามแห่งจามอลมิใช่กรวดทรายไร้ค่าเช่นเจ้า”
คามินละความสนใจจากโค้งประตูมายังเจ้าของคฤหาสน์ เขาจึงเห็นนางกำนัลจาร์วีซึ่งปลดผ้าคลุมศีรษะสีสวยออก รวมถึงกำลังเปื้องผ้าทำหน้างง ๆ แต่นางก็กลับออกไปจากห้องโถงงดงามนั้นทันทีเมื่อถูกเอ่ยปากไล่ซ้ำอีกครั้ง
ซ้ำร้ายฟาซิสยังมีท่าทีจะทำร้ายร่างกายของนางผู้นั้นอีกด้วย พอลับเงานางกำนัลผู้นั้นไปแล้วฟายิสจึงสบถหัวเสียออกมาสองสามคำก่อนจากไปอีกคน
เมื่อความเงียบสงบแทรกตัวเข้ามาอยู่ในห้องแล้วนั่นล่ะคามินที่เฝ้ารอโอกาสเหมาะ ๆ จึงรีบหลบหนีออกจากคฤหาสน์ของฟายิส โดยทำทีเป็นคุ้มกันความปลอดภัยให้นางกำนัลจาร์วี จากนั้นชีคหนุ่มจึงรีบกระจายข่าวสำคัญให้พี่น้องจิ้งจอกทะเลทรายซึ่งยังติดต่อเขาได้รับรู้ทันที...
