บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 ก้นหลุมแห่งความลวง

เสียงฝีเท้าดังกระทบพื้นดินอย่างเร่งร้อน ซูเหมยหลันวิ่งผ่านพงไม้ รวบชายกระโปรงขึ้นแนบตัวด้วยมือทั้งสองข้าง

ภาพของหลี่เฉินอวี่เดินเร่งฝีเท้าไปยังทางลาดต่ำด้านหลังภูเขา ทำให้ใจนางกระตุกวูบ เส้นทางนั้นคือทางที่เซี่ยนหรงสามีคนเก่าของนางเคยวางหลุมพรางไว้สำหรับล่าสัตว์ใหญ่

“เฉินอวี่ อย่าไปทางนั้น” นางร้องสุดเสียง แต่เสียงแหบแห้งเพราะวิ่งฝ่าอากาศหนาว เรียกได้ไม่สุดคอ

เงาของเขาชะงักเพียงครู่ แล้วหันกลับมาเห็นนางกำลังวิ่งตามมา แววตาของเขาเปลี่ยนไป แววระแวงจู่โจมใบหน้าแทบจะทันที

“ซูเหมยหลัน เจ้า...เจ้าแอบตามข้ามาทำไม” เขาร้องถาม เสียงเจือด้วยความลนลาน ก่อนที่เขาจะหันตัวกลับแล้วรีบวิ่งเร็วขึ้นกว่าเดิม ราวกับกลัวว่านางจะลากตัวเขากลับไปมัดไว้กับเรือน

“อย่าเดินไปทางนั้น! หยุดก่อน หลี่เฉินอวี่” นางพยายามตะโกนสุดเสียงอีกครั้ง น้ำตาไหลอาบแก้มไม่รู้ตัว แต่สายเกินไปแล้ว

พลั่ก! เสียงกิ่งไม้ที่ถมหน้าหลุมแตกหัก ตามด้วยเสียงร่างกายกระแทกลงในโพรงดินลึก ฝุ่นและเศษใบไม้ฟุ้งกระจาย

ซูเหมยหลันรีบวิ่งไปถึงขอบหลุม และมองลงไป เห็นหลี่เฉินอวี่นอนจมอยู่ใต้หลุมลึกประมาณครึ่งตัว แขนขาถูกไม้ไผ่ปลายแหลมบาดเข้าเล็กน้อย เลือดซึมออกจากต้นแขน

ริมฝีปากเขาเม้มแน่นก่อนจะแหงนหน้ามองนาง ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว สิ่งหนึ่งที่นางสังเกตเห็นคือ ปิ่นหยกที่หล่นจากถุงผ้าขณะเขาพลัดตกลงมา มันตกอยู่ข้างเท้านางบนขอบหลุม

ซูเหมยหลันก้มลงเก็บมันขึ้นมา ใช้ปลายนิ้วลูบมันอย่างแผ่วเบา ดวงตานิ่งสงบ ราวสายน้ำก่อนพายุใหญ่ นางเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ

“ฮูหยิน ช่วยข้าด้วย” เขาร้องขอความช่วยเหลือจากนาง หญิงสาวสะท้อนในอก เขาเรียกนางเช่นนี้เพียงเพราะต้องการให้นางช่วยเหลือเท่านั้น

“ข้าร้องเรียกให้ท่านระวังกับดักนี้ แต่ท่านกลับวิ่งหนีข้า... ท่านจะไปไหนหรือ” นางถามเสียงเย็น

หลี่เฉินอวี่สะอึก ใบหน้าซีดเผือด เขาเบือนหน้าหนีเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงสั่นเครือแต่พยายามมั่นคง

“ข้า... ข้าตั้งใจจะกลับไปบอกบิดามารดาเพื่อกลับมาสู่ขอเจ้าอย่างถูกต้อง”

ซูเหมยหลันหัวเราะแผ่ว เสียงหัวเราะที่แฝงด้วยความเจ็บลึกแสบถึงทรวง มือบีบปิ่นหยกจนแทบหัก

“ไหนบอกว่าท่านไม่เหลือญาติที่ไหนแล้ว หรือว่าท่านมีอะไรที่ปิดบังข้าอีก” นางกล่าวถาม อยากรู้ความจริงจากปากของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี

หลี่เฉินอวี่อ้าปากจะพูด แต่ไม่มีถ้อยคำใดหลุดออกมา เขาเพียงแต่เบือนหน้าหลบ ไม่กล้าสบตานาง

ซูเหมยหลันก้มลงช้าๆ วางปิ่นหยกไว้ริมปากหลุมตรงจุดที่เขามองเห็นได้ชัด แล้วพูดเสียงเบาแทบจะเป็นเสียงกระซิบ

“อยู่ในหลุมนั้นให้ดีเถิด หลี่เฉินอวี่ วันนี้อากาศเย็นจะได้มีเวลาคิดทบทวนเรื่องของเจ้าให้มากพอ แล้วเย็นนี้ข้าจะมาฟังคำตอบ หากท่านพูดความจริงกับข้า ข้าจะช่วยท่านขึ้นมา”

เขาเบิกตากว้าง “เจ้าจะทิ้งข้าไว้ที่นี่ ซูเหมยหลัน เจ้าใจร้ายถึงเพียงนี้เองหรือ”

“ใจร้ายหรือ” นางย้อนเสียงเบา น้ำตายังคงไหลไม่หยุด

“แล้วท่านล่ะ ท่านทำกับข้าไว้แบบไหนกัน”

นางไม่รอคำตอบใดอีก ซูเหมยหลันหันหลังให้ชายในหลุมนั้น แล้วเดินกลับเรือนไม้ช้าๆ เสียงฝีเท้าเบาบางบนใบไม้แห้ง แต่บีบหัวใจของบัณฑิตหนุ่มยิ่งนัก

************************

ในตอนเย็นของวันนั้นสายลมหนาวเย็นพัดกรรโชก เสียงฝนกระหน่ำดังลั่นทั่วหุบเขา ฟ้าร้องครืนๆ ดั่งเสียงเทพเจ้ากำลังต่อว่าฟ้าดิน

ซูเหมยหลันนั่งซุกตัวอยู่ข้างเตาไฟในเรือนไม้

เสื้อคลุมหนาแนบไหล่ ร่างกายสั่นเล็กน้อยด้วยความคิดในใจที่ห่วงใยสามีไหลย้อนกลับมาไม่หยุด

“เขาจะหนาวหรือไม่ เขาเจ็บมากหรือเปล่า หรือว่าเขาจะเกลียดข้าไปแล้ว” นางกัดริมฝีปากตนเอง สะกดเสียงสะอื้นที่แทบระเบิดออกมา แต่ทุกคราเมื่อจะก้าวเท้าออกจากประตู ความโกรธ ความเสียใจ ความอับอายก็พัดพาให้นางถอยกลับเข้ามา

‘ข้าจะไปช่วยเขาทำไมกันในเมื่อเขาจะหนีข้า’ นางคิดด้วยความโกรธ ศักดิ์ศรีของนางถูกเหยียบย่ำด้วยคำลวง

นางไม่ได้ฝ่าสายฝนออกไปดูเขาที่หลุม คืนนั้นซูเหมยหลันไม่ได้นอนแม้แต่นิด นางนั่งฟังเสียงฝนตกอย่างบ้าคลั่ง ลมหอบหนึ่งพัดให้บานหน้าต่างไม้เปิดผางออก สาดละอองฝนเข้ามาโดนเตาไฟจนควันพวยพุ่ง แต่นางกลับไม่รู้สึกอะไรเลย

จนกระทั่งรุ่งเช้า ฟ้ายังครึ้ม ท้องฟ้าเป็นสีเทา ซูเหมยหลันก้าวออกจากเรือน ฝ่าโคลนและใบไม้เปียกชื้น เดินตรงไปยังหลุมที่เขาตกลงไปเมื่อคืน

แต่พอไปถึง หัวใจของนางแทบหยุดเต้น พื้นดินบริเวณนั้นเต็มไปด้วยร่องรอยโคลนถล่ม ก้อนดินขนาดใหญ่จากไหล่เขาได้ถล่มลงมาปิดปากหลุมอย่างสมบูรณ์

ไม่มีแม้แต่ช่องให้มองลงไป ไม่มีแม้แต่รอยดิ้นรนของใครที่พยายามปีนออกมา

นางก้าวถอยหลังไปสองก้าว มือสั่นระริก ดวงตากลอกไปมาราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น

สายตาของนางเหลือบไปเห็นสิ่งหนึ่ง ปิ่นหยกยังคงวางนิ่งอยู่บนพื้นดินด้านข้าง ฝุ่นโคลนเปื้อนเล็กน้อย แต่ไม่มีรอยว่าเคยมีใครมาแตะต้องมันเลย

หากเขาหนีรอดไปได้เขาคงไม่ทิ้งของสำคัญเช่นนี้ไว้แน่นอน

มือของซูเหมยหลันยื่นไปหยิบมันขึ้นมา

ริมฝีปากสั่นระริกก่อนจะทรุดเข่าลงข้างกองดินนั้น นางปล่อยเสียงสะอื้นออกมาเต็มที่ไม่อาจเก็บงำได้อีก

“ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าเพียงอยากให้เจ้ารู้สึกผิดเพียงคืนเดียว เหตุใดเจ้าต้องจากข้าไปเหมือนเขาด้วย”

น้ำตาไหลเปียกแก้ม เส้นผมที่หลุดลู่แนบติดใบหน้า ซูเหมยหลันไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่

แต่ในหัวใจของนางรู้คำตอบอยู่เต็มอก

เขาจากนางไปอีกคน ไม่ใช่เพราะโชคชะตา

แต่เพราะนางเอง

นางหยิบปิ่นหยกนั้นปักเข้าที่มวยผม ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเนิ่นนาน ก่อนจะพูดเสียงแผ่วเบา

“ข้าเป็นภรรยาของท่านเพียงสามวัน แต่สามวันที่ผ่านมา ท่านก็ทำให้ข้ารู้สึกมีความสุข แม้ว่าทุกอย่างเป็นเพียงคำลวงก็ตาม”

สายลมพัดโชยอย่างอ่อนโยน ขับกลิ่นดินเปียกฝนให้ฟุ้งไปทั่ว นางหันหลังกลับอย่างช้าๆ

ซูเหมยหลันได้กลายเป็นแม่หม้ายเป็นครั้งที่สอง

แม้ครั้งนี้จะไม่มีพิธีฝังศพ แต่บาดแผลในใจกลับลึกเสียยิ่งกว่าเดิมนัก

หรือชีวิตของนางนั้นไม่เหมาะที่จะมีความรัก ไม่เหมาะสมจะเป็นภรรยาของใคร

“ท่านพี่เซี่ยนหรง คงมีแต่ท่านผู้เดียวที่รักข้าด้วยใจจริง จากนี้ไปข้าคงไม่ถวิลหาชายใดอีกแล้ว” นางเดินไปที่หลุมศพของสามีคนแรก มือลูบแผ่นป้ายที่หน้าหลุมศพด้วยความโศกเศร้า

************************
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel