บทที่ 2
เธอหลงรักพี่ชายของเพื่อนตั้งแต่วันที่ได้รู้จัก! ปาหนันเองก็รู้เรื่องนี้ และพยายามเชียร์เธอกับพี่ชายตัวเองมาโดยตลอด เพื่อนรักที่เธอคิดถึงอยู่ทุกวัน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโชคชะตาจะเล่นตลกร้ายแบบนี้ ไม่อยากจะเชื่อแต่ก็ต้องยอมรับความผิดที่ตนเองไม่ได้ก่อเอาไว้ เพื่อที่ว่าสักวันเธออาจจะหลุดพ้นไปจากตรงนี้ ที่ที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมายืนรับความเจ็บปวดด้วยเหตุผลบ้าบอจากคนที่ทำลายชีวิตของเธอเพียงเพราะเอาความคิดผิดๆ ของตัวเองเป็นที่ตั้ง
ความผิดที่เขาประกาศไว้นับตั้งแต่วันนั้น...ว่าเธอจะต้องชดใช้ต่อการสูญเสียของเขากับครอบครัวอย่างสาสม!
อันธิกาหลับสนิทหลายชั่วโมงจนกระทั่งเสียงเคาะประตูห้องพักของเธอดังขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง มันทำให้ฝันดีๆ ของเธอสลาย หญิงสาวแน่นิ่งชั่งใจอยู่ครู่ ก่อนจะลุกขึ้นมาเปิด เพราะพอจะเดาได้ไม่ยาก ว่าใครคือเจ้าของฝ่ามือที่กำลังทุบประตูห้องพักเธออยู่
“พี่รุจ…” หญิงสาวเอ่ยชื่อคนตรงหน้าเบาๆ ก่อนจะถูกอีกฝ่ายผลักไหล่ ให้ถอยหลังเข้ามาในห้องโดยมีเขาตามเข้าตามติดๆ
“ฉันแค่แวะมาดู ทำไมไม่ลงไปกินข้าว!” วิศรุตเอ่ยเฉลยถึงการมาเยือนของตัวเองด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนอีกคนต้องก้าวถอยหนีเพราะไม่อยากอยู่ใกล้เขาเวลานี้ เขาดูเหมือนหงุดหงิดอะไรบางอย่าง แต่เธอไม่รู้และไม่คิดถาม เพราะรู้ดีว่าเขาคงไม่มีวันตอบ
“อันยังไม่ค่อยหิวค่ะอยากนอนพักมากกว่า แล้วคุณลิน…”
อันธิกาตอบก่อนจะถามถึงอีกคนที่มักจะทำตัวติดกับวิศรุตราวกับเงา เธอรู้ได้จากภาพที่ได้เห็นในนิตยสารบ่อยๆ
“ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะต้องมารายงานเธอเลยสักนิดจริงไหม! แต่ถ้าอยากรู้จะบอกให้ ลินเขานอนเอาแรงอยู่ที่ห้องหลังจากที่เราสองคนเพิ่งจะสนุกสุดเหวี่ยงกันมาตลอดทั้งวัน” คำตอบนั้นพานทำให้ใจคนฟังเจ็บจนชา แม้จะบอกตัวเองอยู่หลายครั้งว่าอย่าไปรู้สึกกับอะไร แต่ก็ยากที่มันจะยอมทำตามคำสั่งไม่ว่าเมื่อไหร่เธอก็ยังเจ็บ
เจ็บที่ต้องแบกรับการกระทำอันไร้หัวใจของคนตรงหน้าคนนี้!
“พี่รุจมีอะไรกับอันอีกรึเปล่าคะ ถ้าไม่มีอันอยากขอร้องให้พี่ออกไปจากห้องของอันค่ะ มันคงไม่ดีถ้าเกิดมีใครมาเห็นพี่เดินเข้าออกห้องพักของผู้หญิงถึงสองคนในเวลาไล่เลี่ยกันแบบนี้” อันธิกาตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พยายามพูดเพื่อให้อีกคนเข้าใจว่าเธอไม่ได้มีเจตนาไล่ เพียงแต่ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะเป็นห่วงเขาเท่านั้น เธอรู้ว่าเขาเป็นคนมีหน้ามีตาทางสังคม เพราะรู้ถึงได้ไม่อยากให้ใครเอาเรื่องพวกนี้ไปโจมตีจนทำให้เขาต้องเสียหายได้อีก
หลายครั้งที่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น แม้เจ้าตัวจะไม่สนใจก็เถอะ
“ทำไม! แอบนัดใครไว้ถึงไม่อยากให้ฉันอยู่ด้วย” วิศรุตตวาดถาม ไม่สบอารมณ์ทุกครั้งที่อีกคนชอบทำเหมือนเขาเป็นตัวเชื้อโรคที่เธอไม่อยากเข้าใกล้ ถ้าเขามันสกปรก...เธอเองก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่
“นั่นไม่ใช่นิสัยอัน พี่รุจก็รู้…” หญิงสาวตอบกลับอย่างเหนื่อยใจจะมีสักครั้งบ้างไหมที่เขาจะมองเห็นความหวังดีของเธอ
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง! ผู้หญิงอย่างเธอมันอาจจะร้ายลึกก็ได้ใครจะไปรู้ แล้วฉันจะบอกอะไรให้เอาบุญนะอันธิกา ว่าเธอไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งกับฉัน! ฉันจะอยู่หรือไปจากที่นี่ มีแต่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ตัดสินใจ ไม่ใช่ผู้หญิงสกปรกอย่างเธอ!” คำพูดทุกคำของเขาทำให้อันธิกาต้องก้มหน้ารับความผิดอีกครั้ง เมื่อพยายามอธิบายแล้วแต่เขาเลือกที่จะไม่ฟังก็พอที เธอไม่ขอพูดหรืออธิบายอะไรอีก
เขาอยากจะเชื่อแบบไหน ก็สุดแล้วแต่ใจเขาเลย!
“แล้วนี่จะไปไหน!”
วิศรุตจำต้องรั้งต้นแขนของอีกคนไว้เมื่อเห็นว่าเธอทำท่าจะเดินหนีไปที่ประตูห้องพัก เกลียดสุดคือการเดินหนีทั้งๆ ที่เขาไม่ได้สั่ง
“อันหิวค่ะ” ครั้งนี้เขาไม่ตอบ แต่เลือกที่จะลากเธอออกมาจากห้องด้วยกัน กระทั่งเมื่อถึงที่หมายเขาก็ยังไม่วายกันมากำชับสั่ง
