บท
ตั้งค่า

ตอนที่4 ไม่มีชีวิตชีวา

คานโลเดินดุ่มเข้ามารายงานเจ้านายตนถึงห้องแต่งตัวเพราะมีเรื่องด่วนที่ดาเนียลเลต้องรับรู้

“ดันเต้บอกว่าตอนนี้ดิเอโกไปซื้อหุ้นกับโดมินิคครับ”

ร่างสูงใหญ่ละมือจากการติดกระดุมสื้อเชิ้ตสีขาว เขากำมือแน่นกัดฟันจนกรามขึ้นเป็นสัน

“คิดจะเปิดฉากเป็นศัตรูซึ่งๆ หน้าก็ดี” ทิ้งตัวนั่งบนโซฟาสีดำตัวใหญ่ช้าๆ ในเมื่อพี่ชายต่างแม่ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกับเขาทำเรื่องหยามหน้ากันโดยการไปร่วมหุ้นกับคู่แข่งทางธุรกิจของเขาแบบนี้ก็ตัดญาติขาดมิตรกันไปได้ก็ดี

เพราะเขาเองก็รู้มาโดยตลอดว่าดิเอโกไม่ได้เห็นเขาเป็นน้องและหวังอยากจะได้ทุกอย่างที่เป็นของเขาอยู่แล้ว เป็นแบบนี้ก็ดี จากนี้จะได้ไม่ต้องปั้นหน้าเข้าหากันอีก

“คุณเลจะให้คุณ..ล...”

“เรื่องที่อยู่จัดการตามที่เธอขอ แต่ความปลอดภัยต้องแน่นหนา” ดาเนียลเลรู้ว่าคานโลจะพูดอะไรเขาจึงโพล่งตัดบทเอาไว้ก่อน

“ครับ”

“ไปเตรียมตัว ฉันจะบินไปที่ไทย”

“ครับ”

คานโลออกไปได้ดาเนียลเลก็นั่งมองมือถือราคาแพงสีขาวกับสีดำที่วางอยู่ตรงหน้าสองเครื่อง เขาครุ่นคิดอะไรบางอย่างครู่หนึ่งก็หยิบมือถือสีดำเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงและลุกขึ้นแต่งตัวอีกครั้ง

เช้านี้เป็นอีกเช้าที่นาถฤดีเห็นวันวิวาห์ไม่ราศีของความสุขแสดงออกให้เห็นบนใบหน้าเลย ไม่รู้ว่าลูกชายของเธอใช้งานลูกสาวเธอหนักเกินไปหรือลูกสาวคนนี้กำลังเครียดเรื่องอะไรอยู่กันแน่

“เป็นอะไรรึเปล่าลูกสองสามวันนี้ดูไม่สดใสเอาซะเลยนะ” เอ่ยทักเมื่อเห็นวันวิวาห์เดินเหม่อลงมาจากชั้นบนลงมาถึงข้างล่าง

“เปล่าค่ะคุณแม่ วินนี่ไปทำงานก่อนนะคะ”

“เดี๋ยวสิลูกไม่ทานข้าวเช้าก่อนเหรอ ไม่ทานอาหารเช้าแบบนี้มาหลายวันแล้วนะคะ” มองตามหลังลูกสาวที่เดินเหม่ออกไปจากบ้านโดยที่ไม่คิดจะหันมาโต้ตอบกับเธอ

“วินนี่”

“ตามใจลูกไปก่อนเถอะ” ภิวัฒน์เดินเข้ามาหาภรรยาที่กำลังทำหน้ากลุ้มใจเรื่องลูกสาว ไม่รู้หรอกว่าตอนนี้วันวิวาห์ทุกข์ใจเรื่องอะไรแต่เชื่อว่าหากลูกไม่สามารถจัดการตัวเองได้คงมาขอคำปรึกษากับคนเป็นพ่อแม่เอง

หญิงสาวในชุดเสื้อครอปแขนสั้นกระโปรงทรงเอสั้นเหนือเข่าผ้าทวิตสีฟ้าอ่อนเดินถือกระเป๋าสีครีมแกว่งไปแกว่งมาออกจากลิฟท์แล้วเดินตรงไปยังห้องทำงานด้วยสีหน้าแววตาซังกะตาย สามสี่วันแล้วที่เธอไม่ได้ติดต่อกับดาเนียลเล อุตส่าห์ทำใจแข็งไม่สนใจเขา แต่ยิ่งย้ำกับตัวเองไม่ให้สนใจดาเนียลเลมากเท่าไหร่สมองของเธอก็มีเขามาวนเวียนอยู่ในนั้นไม่หยุด ดอกไม้ที่เขาส่งมาให้ก็อยู่หน้าห้องทำงานให้เธอเห็นทุกเช้า ไม่ว่ามันจะดูดีมีราคาแค่ไหนเธอก็ขว้างมันทิ้งถังขยะทุกวันเช่นเดียวกับวันนี้

ฟึ่บ... เข้าห้องมาได้ก็เหวี่ยงกุหลาบสีแดงช่อโตลงในถังขยะด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

“เบื่อกุหลาบแดงแล้วเหรอครับ”

วันวิวาห์มองไปยังต้นเสียงทุ้มนุ่มลึก และแล้วเธอก็เห็นเก้าอี้ทำงานของเธอกำลังหันกลับมาให้เธอได้เห็นคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ดาเนียลเล ทำไมจู่ๆ เขาโผล่มาที่นี่ ริมฝีปากบางเริ่มบุ้ยจนคางมีรอยย่น คิ้วคู่สวยได้รูปเริ่มขมวดเข้าหากัน นี่เขานึกจะมาก็มานึกจะหายก็หายอย่างงั้นหรือไง เห็นเธอเป็นอะไรกันแน่

“มาทำอะไรที่นี่คะ” ถามเสียงห้วนทั้งใบหน้ายังบึ้งตึงไม่มีรอยยิ้ม

“ผมบอกกับคุณว่าจะกลับมาฉลองวันเกิดกับคุณไงครับ” ร่างสูงในชุดสูทสีดำลุกยืนขึ้นพร้อมเดินสาวเท้ายาวสง่าเข้ามาหาเจ้าของห้อง

“นึกว่าอยู่กับผู้หญิงคนอื่นจนลืมไปแล้วซะอีก” เธอมองไปนัยน์ตาสีน้ำข้าวค้อนแล้วค้อนอีก ดูซิเธอแสดงออกถึงอาการโกรธขนาดนี้เขายังอมยิ้มอยู่ได้ เป็นคนยังไงของเค้า คำพูดที่เขาควรจะพูดกับเธอคือคำว่าขอโทษด้วยซ้ำแต่ดันทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“มีของขวัญให้ผมไหมครับ”

หึ่ เชื่อเค้าเลย หายไปไม่พอยังมีหน้ามาขอของขวัญกับเธออีก

“ไม่รับสายวินนี่เองนี่คะ วินนี่เลยนึกว่าคุณอยากจะเลิกยุ่งกับวินนี่ไปแล้วเลยไม่ได้เตรียมเอาไว้ วินนี่ว่าวินนี่จะ...”

“จะตัดขาดความสัมพันธ์กับผมใช่ไหมครับ” ไม่ต้องรอให้หญิงสาวพูดจบเขาก็รู้ว่าเธอจะพูดอะไร เพราะเห็นเธอทำหน้ายักษ์ใส่เขาตั้งแต่เจอหน้ากันแล้ว แต่ก็ยังดีที่เธอไม่เอ่ยไล่เขาตั้งแต่ตอนแรกที่เห็นหน้า

“ค่ะ เข้าใจอะไรเร็วดีนี่คะ” กอดอกหันหน้าหนี

“ผมไม่ยอมครับ ไปกันเถอะ” ดึงมือให้ออกไปข้างนอกด้วยกัน

“วินนี่ต้องทำงานค่ะ” เธอยังไม่ยอมเดินตามเขาไปง่ายๆ

สุดท้ายดาเนียลเลก็ต้องรวบอุ้มคนตัวเล็กจอมพยศขึ้นด้วยท่าเจ้าสาวแล้วสาวเท้ายาวไปที่ลิฟท์ “ว๊าย คุณเล ปล่อยวินนี่ค่ะ”

“ผมลางานคุณกับไวท์เรียบร้อยแล้วครับ”

“อะไรนะคะ” พี่ชายเธอติดต่อกับเขาได้งั้นเหรอ?

ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงตอนนี้วินวิวาห์ก็มานั่งอยู่ตรงข้ามกับดาเนียลเลบนเครื่องบินส่วนตัวของเขาเรียบร้อยโดยที่ขัดขืนอะไรไม่ได้ หลังถูกอุ้มมายัดเขาในรถสปอร์ตสีดำได้เขาก็ขับรถด้วยความเร็วที่ทำเอาเธอแทบจะหยุดหายใจ พอรถจอดยังไม่ทันได้หายตกใจจนหายใจในจังหวะสม่ำเสมอเธอก็ถูกอุ้มขึ้นเครื่องบินมาอีก

“จะพาวินนี่ไปไหนคะ วินนี่ไม่ได้อยากไปไหนมาไหนกับคุณนะคะคุณเล วินนี่มีการมีงานที่จะต้องทำค่ะ” จ้องหน้าคนตรงข้ามที่นั่งไขว่ห้างสบายอารมณ์คนละขั้วกับอารมณ์ของเธอในตอนนี้

“โกรธผมเรื่องอะไรครับ ผมจะได้อธิบายถูก”

“ไม่โกรธอะไรค่ะ แล้วก็ไม่ได้อยากคุยกับคุณด้วย” ก้มหน้าลงไม่อยากมองตาหวานๆ ของเขาด้วยกลัวจะใจอ่อนง่ายๆ

“หึ่...” ท่าทางพยศของหญิงสาวไม่ได้ทำให้เขาไม่สบายใจเลยสักนิด ยิ่งเธอแสดงออกถึงความรู้สึกผ่านพฤติกรรมมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งชอบจะได้ไม่ต้องเดาใจอะไรให้มากมาย

“ขำอะไรคะ”

“เปล่าครับ เอาเป็นว่าผมเข้าใจว่าคุณไม่พอใจที่ผมไม่รับสาย ไม่ได้ติดต่อกับคุณหลายวัน ผมไปธุระที่อเมริกาคนเดียวแล้วทำมือถือหายที่นั่น ผมยุ่งมากซะจนไม่มีเวลาติดต่อใครถ้าคุณไม่เชื่อผมก็ต้องขอโทษจริงๆ ครับ นี่มือถือเครื่องใหม่ของผมอยากจะเช็กอะไรก็เช็กได้เลยครับ” ล้วงโทรศัพท์มือถือราคาแพงเครื่องสีดำออกมาจากกระเป๋าของเสื้อสูทแล้วยื่นให้หญิงสาว

ดวงตาคู่สวยมองโทรศัพท์มือถือสีดำเงียบๆ ก่อนจะเบือนหน้าหนี จำได้ว่าโทรศัพท์ที่เขาใช้เป็นสีขาว หรือผู้หญิงที่รับสายคนนั้นเก็บมือถือของเขาได้แล้วเอาไปเป็นของตัวเอง หากเธอคนนั้นเป็นผู้หญิงของดาเนียลเลคงบอกกับเธอไปแล้ว เชื่อใจเขาได้จริงๆ ใช่ไหมเนี่ย ยังคงถามตัวเองวนไปวนมาอยู่ในหัว แม้จะอยากดูมือถือของชายหนุ่มมากแค่ไหนแต่เธอก็มีมารยาทมากพอที่จะไม่ทำแบบนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel