ตอนที่23. ได้สตื
“ซิ่นฮวา! คุณหนู! คุณหนูซิ่นฮวา!”
เสียงคุ้นเคยทำให้ซิ่นฮวาได้สติ นางเบี่ยงหน้าหลบใบหน้าของชายหนุ่ม ส่งเสียงขานรับออกไปทันที
“พี่จ้าวต้า!”
หญิงสาวดิ้นรนสุดแรง มือแกร่งยอมปล่อยนางโดยง่ายและร่างใหญ่โตถอยห่างออกไป ซิ่นฮวาไม่สนใจว่าทำไมชายผู้นี้ยอมปล่อยนางง่ายดายนัก แต่นางรีบผลักเขาออกแล้วก้าวเท้าออกจากห้องนี้ไปอย่างรวดเร็วไม่หันกลับมามองชายหนุ่มที่ยืนนิ่งงันในห้อง มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
จ้าวต้าได้ยินเสียงขานรับ หันขวับไปตามเสียงที่ได้ยิน ร่างเล็กโผล่ออกมาจากหลังบานประตู เส้นผมปล่อยยาวสยาย แต่เสื้อผ้ายังอยู่ครบดี
“ท่านหญิง” ยามนี้ต่อให้เสื้อผ้าที่สวมเป็นชุดบุรุษ แต่ปล่อยผมยาวเช่นนี้ ถ้าไม่ตาบอดย่อมดูออกว่านางเป็นสตรี “เป็นอะไรหรือไม่”
ซิ่นฮวาไม่กล้าพูดว่าตนเองเจออะไรมา แน่นอนว่านอกจากถูกตรวจสอบและนางต้องถูกลงโทษ ครั้งนี้อาจเป็นโทษหนักเกินกว่าจะรับไหวเป็นแน่ ซิ่นหลิง กันอี๋ ซาโม่ก็จะถูกลงโทษไปด้วย
“ไม่มีอะไร” นางยืนยัน “ทำไมพี่จ้าวต้ามาอยู่ที่นี่”
“บ่าวเห็นคุณหนูเข้ามากับกันอี๋ จึงตามเข้ามา” จ้าวต้าถอนหายใจแล้วใช้ปิ่นของตนรวบผมให้หญิงสาวอย่างรวดเร็วรีบจูงมือลงมา กันอี๋เห็นจ้าวต้าก็ตกใจนัก ไม่คิดว่าจะพบ ‘พ่อบ้าน’ ที่นี่
“ข้าจะกลับพร้อมพี่จ้าวต้า เจ้าบอกซิ่นหลิงด้วย”
จ้าวต้าจับไหล่หญิงสาวกึ่งลากกึ่งจูงออกมาจากหอนางโลมแล้วแทบจะยัดนางใส่รถม้าทันที หญิงสาวไม่พูดอะไรได้แต่นั่งก้มหน้านิ่ง ทำให้พ่อบ้านจ้าวต้าเข้าใจไปว่าหญิงสาวกำลังสำนึกผิดที่ถูกเขาจับได้ หากเรื่องนี้ได้ถึงหูของพระชายาคงได้วุ่นวายเป็นแน่ แต่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่พูดอะไร เขาจึงได้แต่อบรมสั่งสอนอย่างที่เคยทำมาตลอดตั้งแต่นางลืมตามาเป็นซิ่นฮวา
ซิ่นฮวาไม่ได้ฟังเสียงพร่ำบ่นของจ้าวต้าเลยสักนิด ไม่คิดโต้เถียงเช่นทุกครั้ง เอาเถิด ครั้งนี้เพราะพี่จ้าวต้ามาตามหานาง ทำให้นางหลุดรอดจากบุรุษแปลกหน้าผู้นั้น นางมองฝ่ามือที่ยังชื้นเหงื่อ ทั้งที่บิดาเคยพร่ำสอนหากถูกบุรุษรังแกต้องป้องกันตนเองอย่างไร แม้กระทั่งถุงหอมที่ใส่ยาสลบไว้นั้น ทว่านางตื่นตระหนกไร้สติที่จะนำสิ่งเหล่านั้นมาใช้ป้องกันตัว
นางช่าง...โง่นัก!
ที่รู้สึกโง่กว่า คือนางไม่นึกถึงชายที่นางเคยเรียกชื่อเขายามตัวเองต้องการความช่วยเหลือ! ยามที่ริมฝีปากของตนถูกบดขยี้นั้น นางไม่ได้คิดถึงชายที่นางรักเลยสักนิด
ครั้งนี้นางรู้สึกผิดต่อเทพมังกรดินจริงๆ...
นั่นไม่ใช่จุมพิตแรกของนาง!
นั่น-ไม่-ใช่-จุมพิต-แรก-ของ-นาง!
ปลายนิ้ววางบนเส้นสายของกู่เจิง กรีดนิ้วบรรเลงเสียงเพลงแหววหวาน ทว่าหญิงสาวที่มีกู่เจิงอยู่เบื้องหน้ากลับมีสีหน้าขุ่นมัว อาภรณ์ของนางเป็นสีขาวดุจไข่มุกปักลายดอกไม้เล็กๆ งดงามราวกับหยิบดอกไม้มาประดับบนผ้า นกน้อยบินวนเวียนร่าเริงเช่นเดียวกับมวลหมู่ผีเสื้อที่โบยบินใกล้ลายปักดอกไม้บนอาภรณ์ของนาง
จุมพิตแรกของนางมอบให้บุรุษผู้นั้น ในวันที่นางอายุสิบหก
ปีที่นางอายุสิบห้า ผ่านพิธีปักปิ่นเรียบร้อยแล้ว นางขอเป็นเจ้าสาวของเทพมังกรดิน เขาไม่ได้ปฏิเสธนาง อย่างน้อยนางก็คิดเช่นนั้น แต่มีเหตุผลสารพัดที่สรุปได้ว่านางและเขาไม่อาจครองรักกันได้ ในปีที่นางอายุสิบหก นางเอ่ยนามของเทพมังกรดิน เขามาปรากฏกายเบื้องหน้า ใบหน้าของเขาคล้ายยิ้มและไม่ยิ้มเช่นทุกครา
ชื่อข้ามิใช่นามที่จะเอ่ยได้พร่ำเพรื่อ’
‘ข้าทราบแล้ว’
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก แม้สีหน้าเขาไม่พอใจแต่เขามาปรากฏกายทุกครั้งที่นางเรียกขาน ตั้งแต่นางห้าขวบจนถึงเวลานี้ ปีที่แล้วเขาไม่รับคำขอร้องที่นางขอเป็นเจ้าสาวของเขา แม้ไม่ได้เอ่ยวาจาพูดเรื่องนี้อีก แต่นางไม่เคยยอมแพ้
‘ข้าจะขอของขวัญวันเกิดจากท่าน’
ได้ยินแค่นั้น แม้ใบหน้าเรียบนิ่งแต่หัวคิ้วขมวดมุ่น ‘เจ้าเป็นบุตรีคนโปรดของชินอ๋องเฟยเทียน มีอะไรที่บิดาเจ้าให้ไม่ได้รึ’
ใบหน้าหวานระบายยิ้มจนดวงตาเป็นประกาย ทำให้บุรุษเจ้าของเส้นผมสีเงินยวงต้องเบือนหน้าไปทางอื่น
‘ท่านยืนนิ่งๆ นะ อ้อ! หลับตาด้วย’
