บท
ตั้งค่า

ตอนที่20. ข้าใช้หางตามองก็ยังรู้ว่าเจ้าเป็นหญิง

“ปกติเจ้าแอบหนีไปนอกตำหนักก็แต่งกายเช่นนี้?”

“ใช่” ซิ่นฮวาพยักหน้าด้วยความมั่นใจ คลี่พัดออกโบกไปมาเลียนแบบบัณฑิต

“ข้าใช้หางตามองก็ยังรู้ว่าเจ้าเป็นหญิง” ซิ่นหลิงโคลงศีรษะไปมา “เจ้าเปลี่ยนความคิดเถิด หากท่านแม่จับได้ข้าจะลำบาก”

“ไม่ได้!” ซิ่นฮวากระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ “เจ้ารับปากข้าแล้ว”

“ข้ารับปากเจ้าเมื่อไหร่” ซิ่นหลิงกลอกตาไปมา

“หากเจ้าไม่ยอมพาข้าไป ข้าก็ให้ผู้อื่นพาไป” นางยื่นหน้าเข้าไป ใบหน้าจิ้มลิ้มเชิดหน้าขึ้นอย่างท้าทาย แววตามุ่งมั่นจริงจังในสิ่งที่ตนตั้งใจทำ

ทว่าเรื่องที่นางจะทำนั้น แสนไร้สาระยิ่ง

ซิ่นฮวาได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนตามมาด้วยคำว่า “ได้” ใบหน้าของนางจึงปรากฏรอยยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

“แต่เจ้าต้องรับปากว่าจะทำตามที่ข้าสั่งทุกอย่าง” ซิ่นหลิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่อีกฝ่ายพยักหน้าหงึกหงักแล้วเขาไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรนัก “เสร็จธุระแล้วต้องรีบกลับ ถ้าท่านแม่จับได้ เจ้าต้องรับผิดแต่เพียงผู้เดียว”

“อืม!”

ซิ่นฮวาเห็นซิ่นหลิงถอนหายใจไม่รู้รอบที่เท่าไร แต่เขายอมพานางหลบออกมาด้านหลังของตำหนัก แม้เขาไม่ได้อยู่ที่นี่หลายปี ซ้ำยังเพิ่งกลับมา แต่ราวกับทุกซอกมุมที่เคยใช้เป็นที่วิ่งเล่นหลบซ่อนตัวจะยังเป็นเช่นเดิม เมื่อออกมาถึงด้านนอก หญิงสาวเห็นม้าสองตัวและกันอี๋กับซาโม่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว นางอ้าปากค้างไม่คิดว่าซิ่นหลิงจะตามคนอื่นไปด้วยมากขนาดนี้

อย่าบอกนะว่า...รู้กันหมดแล้ว!

“เจ้าไปกับกันอี๋” ซิ่นหลิงสั่งแล้วกระโดดขึ้นหลังม้าอย่างรวดเร็ว “ข้าจะล่วงหน้าไปก่อน เจอกันที่หอนางโลมหอมหมื่นลี้”

ซิ่นฮวาเห็นซิ่นหลิงขึ้นหลังม้าแล้ว ถ้านางไปพร้อมกับกันอี๋แล้ว...

“ซาโม่ล่ะ?”

“ข้าไม่ต้องใช้ม้าหรอก” ซาโม่ยกนิ้วโป้งปัดปลายจมูกของตนอย่างเคยชิน หมุนตัวกระโจนเพียงครั้งเดียวไปไกลถึงต้นไม้ใหญ่ ซิ่นหลิงไม่รอช้ากระตุ้นม้าให้พุ่งไปรวดเร็วไม่แพ้กัน

“อ๊ะ!” ซิ่นฮวาร้องเสียงหลง ทำไมแต่ละคนดูคล่องแคล่วปราดเปรียวเช่นนี้นัก

กันอี๋อมยิ้มเห็นสีหน้าของหญิงสาวแล้วนึกเอ็นดูอยู่ในใจ นางอายุเท่ากับซิ่นหลิงซึ่งต้องเป็นเช่นนั้นเพราะทั้งคู่เป็นฝาแฝด ทว่าซิ่นหลิงดูองอาจ ในขณะที่

ซิ่นฮวาที่ยามนี้แม้แต่งกายเป็นชายแต่ดูบอบบางอ้อนแอ้นนัก

“พวกเจ้ารู้กันหมดแล้ว?” ซิ่นฮวาทำหน้ามุ่ย ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้ซิ่นหลิงจะกล้าพูดกับผู้อื่น

กันอี๋เพียงแค่พยักหน้ารับ ช่วยประคองให้ซิ่นฮวาขึ้นหลังม้าแล้วเขาก็ขึ้นตามไปซ้อนอยู่ด้านหลัง

“แบบนี้จะดีหรือ?” ซิ่นฮวาอึกอัก แต่งกายเป็นบุรุษแต่ให้นางอยู่ด้านหน้าเช่นนี้ ผู้อื่นมองมาจะคิดว่ากันอี๋เป็นคนเช่นไรกัน

“ดียิ่ง” กันอี๋หัวเราะเบาๆ “เจ้าตัวเล็ก ประเดี๋ยวตกลงไปข้าจะคว้าไม่ทัน”

ซิ่นฮวาเบ้ปากยอมให้กันอี๋คว้าบังเหียนบังคับให้ม้าเดินไปข้างหน้าไม่รีบร้อนนัก “ถึงข้าไม่เป็นวรยุทธ แต่เรื่องขี่ม้าใช่ว่าจะขี่เองไม่ได้”

“ซิ่นหลิงบอกให้ข้าคอยดูแลเจ้าจนกว่าจะไปถึงที่หมาย” เพราะอยู่ด้านหลังจึงระบายยิ้มได้เต็มใบหน้าไม่ต้องฝืนปั้นหน้านิ่ง ทั้งซิ่นหลิงและซิ่นฮวารวมทั้งซิ่นสือไม่เคยถือยศศักดิ์ แต่เขาเติบโตมากับคำสั่งสอนของบิดามารดาที่ให้ระลึกอยู่เสมอว่าตนเป็นเพียงแค่บุตรชายทหารนายหนึ่งและมารดาเป็นหญิงรับใช้ของชายาท่านอ๋อง

“ทำไมพวกเจ้าถึงตัวสูงใหญ่กว่าข้านักนะ”

หญิงสาวบ่นอุบอิบแต่กระนั้นคนที่อยู่ด้านหลังยังได้ยิน กันอี๋ไม่เอ่ยอะไร ได้แต่สูดเอากลิ่นหอมจากเรือนกายของหญิงสาวไว้เต็มปอด เขาเดินทางไปพร้อมกับซิ่นหลิงและซาโม่ ครั้งสุดท้ายที่เห็นนางก็เป็นเพียงเด็กหญิงอายุสิบสอง ห้าปีผ่านมาจากเด็กผู้หญิงคนนั้นมาบัดนี้นางกลายเป็นหญิงสาวงดงามเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทว่าดวงตาคู่นี้ของนางยังคงประกายระยิบระยับ ยามนางยิ้มหรือหัวเราะ ดวงตาจะให้ประกายแวววาวเป็นความงามที่ตรึงคนที่เผลอสบตาให้ต้องลุ่มหลงไปในดวงตาคู่นี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel