บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

“ครับนาย ว่าแต่คุณมิเชลโทรมาหานายสามครั้งแล้วนะครับวันนี้ เธอได้เรื่องที่เกิดขึ้นที่อู่ต่อเรือเข้าก็เลยเป็นห่วง นายจะให้ผมต่อสายหาเธอเลยหรือเปล่าครับ” คนถูกถามถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อได้ยินชื่อ ‘คู่หมั้น’ ของตัวเองเข้า

มิเชล คาเวล ลูกสาวแม็กไคล เจ้าพ่อคาสิโนขนาดใหญ่ที่มีสัมพันธ์อันดีต่อครอบครัวของเขามาตั้งแต่รุ่นที่ผู้เป็นพ่อของเขาดำรงตำแหน่งสูงสุด เพราะความเป็นเพื่อนรักที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันตลอดทั้งชีวิตของผู้เป็นพ่อทำให้รุ่นลูกๆ นั้นจำต้องดองกันเพื่อผลประโยชน์ที่แน่นแฟ้นและยาวนานมาโดยตลอดยี่สิบกว่าปีของธุรกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้ การหมั้นหมายที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เล็กๆ ทำให้เรียวซึเกะและมิเชลนั้นดูเหมือนเพื่อนรักกันเสียมากกว่าคนรักเหมือนอย่างที่ทั้งคู่พยายามสร้างภาพให้ใครๆ ได้เห็น

แต่ทว่าสำหรับเขาเธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดและสำหรับหญิงสาวเองเขาก็คงจะเป็นได้เท่านั้นไม่ต่างกัน ต่างฝ่ายต่างจึงให้อิสระกันและกันเพื่อเฝ้ารอสักวันที่จะได้ปลดปล่อยกันและกันให้เป็นอิสระ

“เอาไว้ก่อนก็แล้วกัน ฉันอยากพักสายตาสักหน่อย นายมีอะไจะไปทำก็ไปทำเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียว” จาเร็ตรับคำสั่งก่อนจะยอมถอยออกไปในทันที ไม่อยากคาดคั้นอะไรเจ้านายหนุ่มมากนักแม้ลึกๆ ในใจจะอดห่วงหญิงสาวอีกคนขึ้นมาไม่ได้

ทางด้านจันทร์เจ้าขาหลังจากร่วมรับประทานอาหารค่ำกับสาวใช้คนอื่นๆ หญิงสาวก็แยกตัวออกมาเดินเล่นรับลมเย็นๆ ที่สนามหญ้าที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักสักเท่าไหร่นัก หญิงสาวแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เวลานี้นั้นเต็มไปด้วยดวงดาวมากมายที่มองได้แต่ตาเท่านั้น แต่หากจะคว้ามาครอบครองมันคงจะยากยิ่ง...

ภาพของดวงดาวที่กำลังลอยเด่นของบนน่านฟ้าเมืองชิคาโก้ในตอนนี้ทำให้หญิงสาวอดคิดไปถึงใครอีกคนขึ้นมาไม่ได้ ซึ่งคนๆ นั้นก็คือเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้นั่นเอง เพราะช่วงเวลาที่รับประทานอาหารค่ำนั้นทุกๆ คนต่างก็พากันเล่าเรื่องราวของผู้ชายที่ชื่อ เรียวซึเกะ คนนั้นได้เธอได้ฟังกันอย่างไม่ขาดสาย ความยิ่งใหญ่และน่ากลัวของเขาทำให้หญิงสาวเริ่มชักไม่อยากจะอยู่ที่นี่นานมากไปกว่านี้ แต่ขืนทำแบบนั้นคงไม่ต่างอะไรกับการจุดไฟเผาตัวเองเพราะรอบๆ ด้านไม่ว่าจะหันไปมองทางไหนก็มีแต่คนของเขาอยู่เต็มไปหมด สิ่งสุดท้ายที่พอจะทำได้คงต้องรอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น..

เวลาที่จะได้ออกไปจากที่นี่ ไปจากพวกมาเฟียที่เห็นชีวิตของคนอื่นเป็นเพียงผักปลาพวกนี้ตลอดกาลได้เลยยิ่งดี ขึ้นชื่อว่ามาเฟียแล้วนั้นก็คงจะอัดแน่นไปด้วยนิสัยโหดร้ายเหมือนกับที่เธอเคยพบเจอมาไม่ผิดแน่ เสียแรงเหลือเกินที่เธอสู้คิดว่าเขาจะแตกต่าง

ใครเลยจะไปคิดว่าเธอจะหนีเสือมาปะเอาจระเข้แบบนี้ไปซะได้

เช้าวันใหม่ในสถานที่ที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนหากไม่เจอกับชาวใช้สุดสีขาวสะอาดตาก็ต้องเจอกับชายฉรรจ์ชุดดำที่พากันเดินผ่านไปมาอยู่เต็มไปหมด สำหรับจันทร์เจ้าขาแล้วนั้นภาพที่ได้เห็นชวนทำให้รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของเจ้าของคฤหาสน์หลังงามหลังนี้ขึ้นมาไม่ได้จึงรวบรวมความกล้าเอ่ยถามมาเรียถึงได้รู้ว่าเรียวซึเกะคือมาเฟียที่มีอายุน้อยที่สุดอีกทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการคาสิโนที่มีรายได้ในแต่ละปีเป็นมูลค่ามากมายมหาศาลอีกด้วย

ยิ่งได้รู้ก็เลยยิ่งเข้าใจถึงความใหญ่โตของเขา ไหนจะการรักษาระดับความปลอดภัยอย่างดีเยี่ยม ไม่แปลกใจเลยที่ทุกๆ คนจะมีระเบียบและเฝ้าระวังภัยให้กับเขาตลอดเวลาแบบนี้!!

“มีอะไรให้ฉันช่วยบ้างรึเปล่าคะมาเรีย ถ้ามีก็บอกได้เลยนะคะฉันอยากช่วยค่ะ”

จันทร์เจ้าขาร้องถามหญิงชราที่ดูเหมือนจะเป็นมิตรมากกว่าสาวใช้คนอื่นๆ ที่ต่างก็พากันเชิดหน้าใส่กันทุกทีที่พบหน้า

“ถ้าอย่างนั้นคุณจันทร์เจ้าไปทำความสะอาดห้องหนังสือก็ได้ค่ะ แต่ระวังอย่าไปหยิบแตะข้าวของภายในห้องนั้นเชียวนะคะ เพราะเจ้านายไม่ชอบให้ข้าวของในห้องนั้นถูกเคลื่อนที่น่ะค่ะ”

หญิงสาวพยักหน้ารับรู้ก่อนจะสอบถามถึงสิ่งที่ควรทำเมื่อไปถึงอย่างละเอียด หลังจากนั้นก็เดินมาจนถึงที่หมายตามที่หัวหน้าแม่บ้านผู้ใจดีเขียนแผนที่ให้มาจนถึงที่หมาย..

ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเดินเข้ามาด้านใน ตรงเบื้องหน้าของเธอในตอนนี้คือห้องหนังสือที่มีขนาดใหญมากกว่าห้องที่เธอพบกับเรียวซึเกะค่อนข้างมาก อีกทั้งข้างในนีก็ยังหนาแน่นไปด้วยหนังสือหายากที่เคยได้เห็นผ่านอินเตอร์เน็ตมาแบบผ่านๆ เท่านั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel