บทที่ 5
ด้วยความเป็นคนที่รักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้วทำให้ห้องๆ นี้กลายเป็นสวรรค์ของเธอไปในทันที หญิงสาวค่อยๆ ทำความสะอาดทุกๆ ซอกทุกๆ มุมอย่างระวังให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ก่อนขั้นตอนสุดท้ายจะมาถึงเรียวขาเล็กๆ จึงค่อยๆ ก้าวขึ้นบันไดไม้เพื่อที่จะไปเช็ดขอบชั้นด้านบนที่อาจจะมีฝุ่นจับตามคำบอกเล่าของมาเรียและก็เป็นไปตามคาดเรียวนิ้วจึงค่อยๆ เช็ดถูไปเรื่อยๆ จนไม่ได้สังเกตุเลยว่ามีใครอีกคนกำลังย่างกายเข้ามาใกล้ก่อนจะชะงักไปนานเมื่อได้เห็นบางสิ่งที่กำลังปรากฏต่อสายตาทันทีที่เดินเข้ามาด้านใน
ภาพของเรียวปลีกน่องขาวเนียนละเอียดรวมไปถึงกางเกงชั้นในสีขาวนวลที่ปรากฏทุกครั้งเมื่อลมเบาๆ พัดผ่านกระโปรงบานสีครีมทำเอาเรียวซึเกะแทบจะหยุดการหายใจไม่ชั่วขณะไม่คิดเลยว่าการเดินเข้ามาในห้องนี้เพื่อที่จะหาหนังสือไปอ่านแก้เครียดจะทำให้เขาได้พบเห็นอะไรแบบนี้เข้า
นี่มันจงใจชั่วกันชัดๆ
มาเฟียหนุ่มคำรามก้องภายในใจก่อนจะเบือนหน้าหนีทำท่าจะเดินกลับออกไปอย่างเงียบเชียบแต่เมื่อวกกลับมาคิดดูแล้วนี่มันห้องของเขา ทุกๆ ตารางนิ้วของที่นี่ล้วนแล้วแต่เป็นสมบัติของเขาทั้งสิ้น คนที่สมควรจะออกไปมันก็ต้องเป็นเธอสิไม่ใช่เขา!!
“นั่นคุณขึ้นไปทำบ้าอะไรบนนั้น!!!”
เพราะจู่ๆ เสียงตะโกนก้องของใครบางคนก็ดังขึ้นทำเอาคนที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการทำความสะอาดชั้นหนังสือสะดุ้งสุดตัว เพราะความตกใจก่อนจะก้าวพลาดส่งต่อให้ร่างเล็กร่วงหล่นลงมาในทันทีที่เริ่มขยับ เสียงหวีดร้องดังขึ้นก่อนจันทร์เจ้าขาจะหลับตาลงเตรียมใจรับกับความเจ็บปวดเมื่อร่างกายหล่นลงพื้นพรมด้านล่าง ทว่าทุกๆ สิ่งกลับเงียบสงัดไม่มีแม้แต่จะเจ็บปวดใดๆ ให้ได้รู้สึก และด้วยความสงสัยหญิงสาวจึงรวบรวมความกล้าลืมตาขึ้นก่อนจะพบกับใบหน้าของใครอีกคนที่กำลังอุ้มเธออยู่เป็นอย่างแรก...
“อยากตายนักหรือไง!! จู่ๆ ถึงได้กระโดดลงมาแบบนั้น” เขาว่าพร้อมทั้งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นทำเอาคนที่กำลังตกตะลึงเพราะไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะรับเธอเอาไว้ได้ทันต้องรีบยกมือขึ้นกอดคอแกร่งเอาไว้เพราะกลัวจะตกลงไป
“ขอโทษค่ะ...ฉันเพียงแต่ตกใจแล้วเกิดก้าวขาพลาด ขอบคุณคุณมากนะคะที่ช่วย และถ้าคุณจะช่วยวางฉันลง...” มือหนาค่อยๆ วางร่างเล็กลงราวกับเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังกระชับกอดเธอเอาไว้แน่นอยู่แทนที่จะปล่อย สองสายตาประสานกันอยู่นานก่อนเสียงเข้มจะเป็นฝ่ายเริ่มต้นบทสนทนาขึ้นมาอีกครั้ง...
“เรื่องนั้นลืมไปมันเถอะ!! ว่าแต่คุณยังไม่ได้ตอบคำถามของผมเลยว่าเข้ามาทำอะไรที่นี่ในห้องนี้!!”
“ฉันแค่เข้ามาทำความสะอาดค่ะ และตอนนี้ทุกอย่างก็เสร็จหมดแล้ว ถ้ายังไงฉันขอตัวกลับเช้าไปช่วยงานในครัวก่อนนะคะ” จันทร์เจ้าขาเอ่ยตอบไปตามความจริงก่อนจะเดินเลี่ยงร่างกำยำที่ยังคงยืนนิ่งไม่ยอมขยับไปไหนทำท่าจะออกไปเงียบๆ และไม่กลับเช้ามาในห้องๆ นี้อีกไปชั่วชีวิตแต่ก็ยังไม่ทันจะได้ทำตามใจเสียงเข้มๆ จากคนเอาแต่ใจกลับดังขึ้นตามหลังมาซะก่อน
“เดี๋ยวก่อน!!”
“คะ คุณมีอะไรรึเปล่าคะ” คนถูกเรียกย้อนถามขึ้นทันทีที่หันกลับมาเผชิญหน้ากับเขาอย่างคนไม่มีทางเลือกมากนัก
“อันที่จริงตอนนี้ผมกำลังต้องการคนทำความสะอาดห้องทำงานอยู่พอดี คุณเองก็ว่างอยู่นี่! ตามผมไปที่ห้องทำงานก็แล้วกัน” นั่นคือคำสั่งที่ไม่อาจขัดขืนได้เลยสักนิดเพราะทันทีที่พูดจบร่างสูงก็เป็นฝ่ายเดินดุ้มๆ ออกไปจากห้องราวกับว่าเขาไม่ต้องการให้เธอได้ทันมีเวลาเอ่ยปฏิเสธยังไงยังงั้น
