บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

“ได้ค่ะ” ศรัณเอ่ยรับอย่างกล้ำกลืนพร้อมกับสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ผิดกับคริสที่ยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ ก่อนจะหยิบไอแพดออกมาแล้วเปิดรูปชุดแต่งงานที่เลือกไว้ก่อนหน้าให้ศรัณช่วยดู ก่อนจะแอบหัวเราะอย่างสะใจอยู่ข้างๆ ที่ได้ตอกย้ำให้ศรัณรู้ว่าเทวาคือของเธอแต่เพียงผู้เดียว

ที่ทำแบบนี้เพราะคริสมองแววตาของศรัณขณะที่ทอดมองไปยังเทวาออก ว่าเด็กสาวปลื้มคนรักของเธอมากขนาดไหน ยิ่งเธอกับเทวากำลังจะแต่งงานกันในเร็วๆ นี้ด้วยแล้ว คริสก็รู้สึกว่าเธอชนะ ชนะผู้หญิงทุกคนที่ปลื้มคนรักของเธออยู่ เพราะสุดท้ายเทวาก็เลือกเธอ

ศรัณเลือกแบบชุดแต่งงานที่คิดว่าเหมาะสมกับคริส เธอขอบคุณเด็กสาวก่อนจะขอตัวกลับ และเมื่อเข้ามานั่งในรถได้คริสก็จัดการลบรูปแบบชุดแต่งงานที่ศรัณได้เลือกให้ออกจากอัลบั้มทันที

“ใครจะไปเอาแบบที่แกเลือกให้กัน ไม่มีทาง” น้ำเสียงตึงๆ ของคริสเอ่ยขึ้นกับตัวเอง ต่อให้แบบชุดแต่งงานชุดนั้นจะเป็นหนึ่งในแบบที่เธอหมายตาเอาไว้ก็ตาม

และเมื่ออยู่ตามลำพัง จู่ๆ น้ำตาของศรัณก็ไหลอาบแก้ม เธอร้องไห้ทั้งๆ ที่ไม่มีเสียง มันเจ็บจนพูดไม่ออก ยิ่งรู้ว่าเทวากับคริสกำลังจะแต่งงานกัน ศรัณก็รู้ใจตัวเองว่าเธอคิดยังไงกับเทวา

เธอไม่ควรคิดแบบนั้นกับชายหนุ่ม ไม่ควรแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ แต่เธอก็ห้ามความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ ในเมื่อมันรักไปแล้ว แต่เธอก็ต้องตัดใจใช่ไหม ทำยังไงถึงจะสำเร็จ ศรัณก็ยังหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้

“ศรัณ”

“ค่ะ” เสียงเรียกของเทวาทำให้ศรัณที่นั่งก้มหน้าร้องไห้ถึงกับสะดุ้ง

“เป็นอะไร นั่นร้องไห้หรือเปล่า”

“ปะ...เปล่าค่ะ” ศรัณรีบปาดน้ำตา พร้อมสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะฝืนส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม พร้อมเอ่ยถามออกไป

“อาหนึ่งกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”

“ตะกี้นี้”

“วันนี้อาคริสแวะมาที่บ้าน”

“อย่างนั้นเหรอ” เทวาแปลกใจนิดหน่อยที่คริสแวะมาตอนที่เขาไม่อยู่ รวมถึงกังวลว่าเธอมาเพื่อพูดเรื่องแต่งงานกับศรัณหรือเปล่า

“ศรัณยินดีเรื่องแต่งงานด้วยนะคะอาหนึ่ง”

“ศรัณรู้แล้วอย่างนั้นเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น แต่เทวากลับไม่ได้รู้สึกยินดีอย่างที่ควรจะเป็น เขาตั้งใจจะค่อยๆ บอกศรัณเรื่องแต่งงาน แต่คงไม่ทันแล้วสินะ

“ค่ะ...อาคริสเป็นคนบอก ถ้าอาหนึ่งมีอะไรให้ศรัณช่วยก็บอกนะคะ ศรัณเต็มใจ” น้ำเสียงของศรัณสั่นเครือเล็กน้อย ก่อนจะสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ เพื่อไล่ความรู้สึกมากมายให้ออกไป

เทวาพยักหน้ารับรู้ แต่ก็คงไม่ได้ให้ศรัณช่วย เพราะคริสขอเป็นคนจัดการเรื่องงานแต่งงานด้วยตัวเองทั้งหมด ซึ่งเขาก็ยกหน้าที่นั้นให้เธอ

หลังจากนั้นเทวาก็กลับออกไปจากห้องหนังสือ ศรัณใช้จังหวะนั้นหยิบใบสมัครสอบชิงทุนออกมานั่งมองอย่างชั่งใจ หากเธอสอบขอทุนได้ด้วยตัวเองขึ้นมาก็น่าภูมิใจมากกว่าจริงไหม

แต่เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ศรัณตัดสินใจแบบนี้คืออะไรเธอนั้นรู้อยู่แก่ใจ งานแต่งงานของเทวาและคริสเธอคงเลี่ยงที่จะไม่ไปร่วมแสดงความยินดีคงไม่ได้

หากสอบชิงทุนได้ขึ้นมาเธอก็จะไปอยู่ที่ไกลๆ ไม่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังนี้ จะได้ไม่ต้องทนเห็นภาพบาดตาบาดใจ เมื่อตัดสินใจแบบนั้นศรัณจึงกรอกข้อมูลลงไปบนใบสมัครทันที ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอยังคงลังเล

และวันแรกที่ไปโรงเรียน แสงดาวก็ได้รู้ว่าศรัณสมัครสอบชิงทุนในครั้งนี้ด้วย เธอร้องตะโกนออกมาอย่างดีใจที่จะมีเพื่อนติวหนังสือ

“ศรัณเลือกทุนประเทศอะไร สวิสฯ ใช่ไหม”

“ใช่” คนถูกถามพยักหน้ารับ

“ส่วนเราก็ญี่ปุ่น โอ้ย...แค่คิดก็มีความสุข” ใบหน้าของแสงดาวนั้นยิ้มแย้มมีความสุขอย่างที่พูดไม่มีผิด แต่ทว่าพอหันมามองหน้าศรัณ กลับเห็นว่าเพื่อนนั่งซึม จึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น

“ศรัณเป็นอะไร”

“เราแค่ลังเลนิดหน่อย”

“ลังเลเรื่องสอบชิงทุนนะเหรอ”

“อืม...” ศรัณเอ่ยรับแค่นั้น แต่ทว่าแสงดาวกลับคิดไปอีกอย่าง

“ศรัณเคยบอกเองไม่ใช่เหรอว่าอยากไปเรียนต่อที่สวิสเซอร์แลนด์นะ ต่อให้อาหนึ่งของศรัณจะรวยร้วยรวย แต่เราว่าการสอบชิงทุนได้เองมันน่าภูมิใจดีออก” คำพูดของแสงดาวทำให้ศรัณฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ ใช่เธอต้องเติบโตและต้องยืนได้ด้วยตัวเอง ต่อให้จะเหลือเวลาอีกหกปีกว่าที่เธอจะอายุครบยี่สิบห้า ซึ่งหากวันนั้นมาถึงเมื่อไหร่การเป็นเด็กในอุปการะของเทวาก็จบลงทันที

ก่อนจะถึงวันนั้นเธอต้องแข็งแรงพอที่จะอยู่ได้ด้วยตัวเอง เพราะอีกไม่นานเทวากับคริสก็จะแต่งงานกัน และคงมีลูกน่ารักๆ ในเวลาไม่นาน เธอเป็นแค่คนนอกก็ต้องเจียมตัวสิถึงจะถูก

“งั้นเรามาตั้งใจอ่านหนังสือกันเถอะแสง”

“โอเค” แสงดาวรีบเอ่ยรับทันทีเช่นกัน แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น เพราะหากเธอสอบชิงทุนได้ขึ้นมาจริงๆ ที่บ้านคงภูมิใจมากแน่ๆ ก่อนจะหันมาทำตาซึ้งใส่ศรัณแล้วเอ่ยขึ้น

“แต่ถ้าเกิดเราสองคนสอบชิงทุนได้ขึ้นมา ต่อไปข้างหน้าก็ต้องอยู่ไกลกันมากๆ ถึงตอนนั้นเรายังเป็นเพื่อนกันใช่ไหม” จู่ๆ แสงดาวก็เปลี่ยนโหมดอย่างกะทันหัน ทำเอาศรัณปรับอารมณ์ตามแทบไม่ทัน

“ทำไมถามแบบนี้ละ”

“ก็เรากลัวศรัณจะลืมเรานี่”

“ใครจะไปลืมเพื่อนดีๆ อย่างแสงได้ลงคอกัน อีกอย่างเราสองคนต้องสอบชิงทุนให้ได้ก่อน ค่อยมาเครียดเรื่องนี้” เอ่ยจบศรัณก็ดีดมะกอกตรงหน้าผากของเพื่อนรักไปหนึ่งครั้งเพื่อเรียกสติ

“นั่นนะสิเนอะ...ฮา” แสงดาวหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ นึกตลกตัวเองที่คิดเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหน ทั้งๆ ที่ตอนนี้ยังอยู่แค่ขั้นตอนการสมัครชิงทุนเท่านั้นเอง ก่อนจะลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ แม้ศรัณจะดีดเบาๆ แต่มันก็เจ็บจี๊ดนี่นา

“อยากรู้จังว่าจะสอบอะไรบ้าง” สีหน้าของศรัณเครียดเล็กน้อย

“แน่ๆ คือภาษา นอกนั้นก็น่าจะพื้นฐานทั่วไปแหละ” แสงดาวคาดการณ์ ถึงยังไงทั้งคู่ก็ต้องเตรียมตัวให้มาก นั่นเพราะมีนักเรียนมาสมัครเพื่อชิงทุนครั้งนี้ไม่น้อยเลย แต่เธอทั้งสองคนต้อง ฝ่าฟันไปให้ได้ เพราะทุนแต่ละประเทศรับเพียงแค่ห้าคนเท่านั้น

“แต่เมื่อกี้อาจารย์บอกว่าทุนสวิสฯ มักจะมีข้อสอบพิเศษแนบท้าย” นั่นเพราะตอนที่ศรัณเอาใบสมัครสอบชิงทุนไปส่งที่ห้องอาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ได้พูดทำนองนี้ออกมาจริงๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel