ฤทธิ์รักภรรยาวัยกระเตาะ

50.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
32
บท
12.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

อุบัติเหตุเมื่อสิบปีก่อน พรากคำว่าครอบครัวไปจากชีวิตของ..ศรัณ เด็กสาวที่เวลานั้นอายุเพียงแค่สิบขวบต้องสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างไม่มีวันกลับ ในขณะที่คู่กรณีอย่างเทวาเข้ามาช่วยดูแลและรับอุปการะเธอ และนั่นก็ทำให้หนุ่มใหญ่อย่าง เทวา ต้องมาเสียเด็กเอาตอนใกล้สี่สิบ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักผู้ชายอบอุ่นรักหวานๆโรแมนติก

บทที่ 1

ผ่านมาสิบปีกับการสูญเสียที่ไม่อาจหวนคืน

ผ่านมาสิบปีกับชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป

แต่ทว่าเป็นสิบปีที่ทำให้ศรัณนั้นเติบโตขึ้นได้มาก แม้ตอนนี้จะอายุเพียงสิบเก้าแต่เธอก็เข้มแข็งและดูแลตัวเองได้ดี แรกๆ ที่ต้องสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างไม่มีวันกลับ และตัวเธอเองก็ยังอยู่ในรถคันเกิดเหตุด้วย

แม้ตอนเกิดเหตุเธอจะอายุเพียงแค่เก้าขวบ แต่เธอกลับเกิดความเครียด หว้าเหว่และรู้สึกโดดเดี่ยว มองไปทางไหนก็เหลือเพียงเธอคนเดียวบนโลกใบนี้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันหนักเกินกว่าที่เธอในเวลานั้นจะตั้งรับได้ทัน

ศรัณเกิดอาการซึมเศร้า อาการของเธอร้ายแรงถึงขนาดถูกพาไปพบจิตแพทย์เด็ก หนำซ้ำศรัณยังไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนให้พึ่งพิง ทำให้เทวาจำเลยในอุบัติเหตุที่พรากลมหายใจของพ่อและแม่ศรัณไปอย่างไม่มีวันกลับ ตัดสินใจที่จะรับอุปการะเธอ

“อุ๊ย...ขอโทษค่ะ” เสียงอุทานของศรัณดังขึ้นทันที ที่เปิดประตูห้องหนังสือเข้าไปแล้วเจอกับภาพที่ไม่ควรเจอเข้า ก่อนจะรีบหันหลังให้

เพราะการมาแบบพรวดพราดของเธอ ทำให้ชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังทำกิจกรรมอันเร่าร้อนบนโต๊ะดีดตัวออกห่างจากกันแทบจะทันที แต่ถึงอย่างนั้นคริสก็ยังคงนั่งอยู่บนตักของเทวา

“ตายจริง เข้ามาได้ยังไงเนี่ย” คริสอุทานออกมาอย่างหัวเสียเล็กๆ นั่นเพราะถูกขัดจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มที่กำลังหวานชื่นกับคนรัก หากศรัณไม่เข้ามาขัดเสียก่อน ป่านนี้เธอกับเทวาคงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว

คริสกระชับเสื้อผ้าที่แยกห่างออกจากกันให้เข้าที่เข้าทาง ผิดกับเทวาที่ทุกอย่างบนตัวเขานั้นยังคงเรียบร้อยดี แค่เสยผมนิดหน่อยทุกอย่างก็ดูปกติ

“จะไปไหนศรัณ” พอเห็นศรัณหันหลังพร้อมทำท่าจะเดินกลับออกไป เสียงของเทวาก็เอ่ยถามขึ้น นั่นเพราะไม่อยากให้เด็กสาวเข้าใจอะไรผิด อันที่จริงเขาไม่อยากทำอะไรประเจิดประเจ้อแบบนี้ให้ศรัณเห็น

“เอ่อ...จะกลับห้องค่ะ” เสียงสดใสของสาวรุ่นเอ่ยตอบ แต่ยังไม่ยอมหันกลับมามองหน้าคนถามแต่อย่างใด ใบหน้าสวยเห่อร้อนเพราะความอาย

“ไม่ต้อง”

“หนึ่ง” คริสเอ่ยเรียกชายหนุ่มขึ้นอย่างผิดคาด เพราะคิดว่าเขาจะให้ศรัณรีบๆ กลับห้องไปเสียอีก จากนั้นก็เริ่มกิจกรรมแสนเร่าร้อนกันใหม่ นี่กระไรกลับทำตรงกันข้ามกับที่เธอหวังเสียได้

“เอาเป็นว่าวันนี้คริสกลับก่อนดีกว่านะครับ”

“อะไรนะคะหนึ่ง” น้ำเสียงตกใจของคริสดังขึ้น เมื่อจู่ๆ เธอก็ถูกเทวาเทแบบไม่ได้ตั้งรับเช่นนี้ ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่คนต้นเรื่องอย่างศรัณแวบหนึ่ง แล้วหันมาส่งยิ้มหวานให้เทวาเพื่อร้องขอ แต่ทว่าชายหนุ่มกลับไม่ใจอ่อน

“ผมอยากให้คุณกลับบ้านก่อนคืนนี้” เทวาเอ่ยบอกออกไปอีกครั้ง คริสจึงยกแขนขึ้นมาคล้องลำคอของชายหนุ่มไว้

“คริสขอค้างด้วยไม่ได้หรือคะ” น้ำเสียงออดอ้อนเอ่ยขออย่างไม่มีความเอียงอายใดๆ นั่นเพราะเธอเคยนอนค้างที่บ้านของเทวามาแล้วหลายต่อหลายครั้ง นอนอีกสักครั้งจะเป็นอะไรไป

ใครๆ เขาก็รู้กันทั้งนั้นว่าเธอกับเขารักกัน แถมยังเหมือนคู่หมั้นกันกลายๆ อีกด้วย แม้จะไม่มีพิธีหมั้นหมายอย่างถูกต้องตามธรรมเนียม แต่ก่อนที่พ่อของเทวาจะเสียชีวิตก็เคยพูดทาบทามเธอกับครอบครัวไว้

ถ้าไม่ติดว่ามีเหตุการณ์ครั้งใหญ่เมื่อสิบปีก่อนเกิดขึ้น ป่านนี้เธอกับเทวาก็คงได้แต่งงานกันไปนานแล้ว เธอเกลียดเหตุการณ์ครั้งนั้นเพราะมันทำให้งานแต่งงานของเธอถูกเลื่อนแล้วเลื่อนอีก โดยเทวาให้เหตุผลว่าเขาอยากทุ่มเทเวลาเพื่อดูแลศรัณอย่างเต็มที่

เต็มที่มาถึงสิบปีก็ยังไม่ยอมเลิกดูแล จากเด็กผู้หญิงตอนนี้ศรัณก็โตเป็นสาวสะพรั่ง จากเด็กหน้าตาอมทุกข์ก็สดใสขึ้นจนเธอหมั่นไส้ เวลาที่ผ่านไปพลอยทำให้ระยะเวลาที่เธอกับเทวาคบหากันเกินกว่าสิบปีแล้วเช่นเดียวกัน เธอทนรอเขาขอแต่งงาน รอจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว

“วันหลังดีกว่า” เทวาก็ยังคงยืนกรานคำพูดเดิม

“โอเคค่ะ วันหลังก็วันหลัง งั้นวันนี้คริสกลับก่อนนะคะ” แม้จะอยากดื้อดึงแต่คริสก็รู้นิสัยของเทวาดีว่าเขาเป็นคนแบบไหน ขืนดันทุรังเธอนั่นแหละจะมีแต่เสียกับเสีย ทั้งเสียหน้า เสียภาพลักษณ์และเสียความรู้สึกด้วย รอให้เธอแต่งงานกับเขาก่อนแล้วค่อยเผยตัวตนออกมาก็ไม่สาย

“ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ แต่ทว่าคริสกลับยังไม่ยอมลงไปจากตักของชายหนุ่ม หนำซ้ำยังโน้มใบหน้าลงไปมอบจูบร้อนๆ ให้เทวา ซึ่งเป็นฉากจูบที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของศรัณ ชนิดที่ว่าเธอหลบสายตาไม่ทันเสียด้วย

และเมื่อถอนจูบออก คริสจึงขยับลงมาจากตักของคนรักหนุ่ม แล้วเดินตรงเข้ามาหาเด็กสาวที่เธอนั้นอยากจะเขี่ยให้ออกไปพ้นๆ จากชีวิตของเทวาใจจะขาด

เพราะยิ่งโตศรัณก็ยิ่งฉายแววความสวย แม้เทวาจะยืนกรานว่าไม่เคยคิดอะไรเป็นอื่นกับเด็กในอุปการะ แต่น้ำตาลใกล้มดอะไรมันก็ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ เธอจึงอยากตัดไฟเสียแต่ต้นลม

“อาไปก่อนนะคะหนูศรัณ บายค่ะ”

“สวัสดีค่ะอาคริส” ศรัณยกมือไหว้คริสพร้อมส่งยิ้มให้ แต่ทว่าคริสกลับเมินใส่ก่อนจะเดินผ่านเธอออกไป ศรัณลอบถอนหายใจออกมานิดหน่อย เพราะรู้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับคริสดูไม่ราบรื่นสักเท่าไหร่

หากวันไหนที่เทวากับคริสแต่งงานกันขึ้นมา เธอก็คงโตพอที่จะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น แม้การเป็นเด็กในอุปการะของเทวาจะเหลืออีกหกปี แต่เขาก็คงไม่ว่าอะไรหากเธอจะขอออกไปดูแลตัวเอง

“มีอะไรหรือเปล่า” คำถามของเทวาช่วยดึงสติของศรัณให้กลับคืนมา

“พอดีศรัณมีรายงานต้องทำส่งอาจารย์น่ะค่ะ เลยจะเข้ามาหาข้อมูลที่ห้องหนังสืออาหนึ่ง แต่ไม่คิดว่า...” ยังไม่ทันที่ศรัณจะเอ่ยจบประโยค เสียงของเทวาก็แย้งขึ้น

“เป็นเด็กเป็นเล็กคิดเลยเถิดไปถึงไหน...ช่างเถอะๆ ว่าแต่รายงานวิชาอะไร”

“แปลข่าวภาษาอังกฤษนะคะ ศรัณไม่อยากหาข่าวในกูเกิ้ล แต่อยากแปลข่าวเก่าๆ จากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษที่อาหนึ่งเก็บไว้มากกว่า” ศรัณเอ่ยบอก เธอชอบเรียนภาษาต่างประเทศมาก โดยเฉพาะภาษาอังกฤษเพราะคิดว่ามันสำคัญในการสื่อสาร

ปีนี้ศรัณ อายุครบสิบเก้า แต่ทว่ากลับยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก สาเหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเก้าขวบ ทำให้เธอต้องเข้ารับการรักษาเรื่องสุขภาพจิต นั่นทำให้ศรัณต้องหยุดเรียนไปถึงหนึ่งปีเต็ม

“งั้นก็เข้ามาเอาไปสิ”

“ขอบคุณค่ะ” เอ่ยรับเสร็จ ศรัณก็เดินไปยังมุมเก็บหนังสือพิมพ์ฉบับภาษาอังกฤษที่เทวาวางไว้ แม้ตอนนี้หนังสือพิมพ์จะเป็นสิ่งที่หายาก แต่คนชื่นชอบอ่านข่าวสารผ่านหนังสือพิมพ์มากกว่าโซเชียลอย่างเทวาก็ยังคงมีอยู่ นั่นทำให้ชายหนุ่มมีหนังสือพิมพ์หลายร้อยฉบับ เรียกได้ว่าเขาเก็บสะสมไว้ก็คงไม่ผิดนัก

“ชอบภาษาอังกฤษมากหรือเรา”

“ค่ะ...ภาษาจีนกับเกาหลีศรัณก็ชอบนะคะ” ขณะนั่งเปิดหนังสือพิมพ์เพื่อหาข่าวที่สนใจศรัณก็เอ่ยตอบชายหนุ่มขึ้น

“ชอบเพราะจะได้เข้าใจตอนไอดอลเขาคุยกันใช่ไหม”

“อาหนึ่งรู้จักคำว่าไอดอลด้วยเหรอคะ” ศรัณหันมาถามชายหนุ่มอย่างแปลกใจ นั่นเพราะไม่คิดว่าเทวาจะเข้าใจคำว่าไอดอลด้วย ส่วนชายหนุ่มเองก็ไม่ได้อยากเข้าใจนักหรอก แต่ที่ต้องทำความเข้าใจเพราะจะได้รู้ว่าวัยรุ่นสมัยนี้ฮิตหรือชอบอะไรกัน นั่นเพื่อจะได้คุยกับศรัณได้เข้าใจต่างหาก

“รู้สิ ถึงอาจะแก่แต่อาก็รู้ทันโลกว่าเขาไปไหนต่อไหนกัน”

“ใครบอกว่าอาหนึ่งของศรัณแก่” เอ่ยจบศรัณก็ส่งยิ้มให้เทวา น่าแปลกเพราะมันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของเทวาเต้นไม่เป็นจังหวะ ทั้งๆ ที่เขาน่าจะชินกับรอยยิ้มของศรัณมากกว่าใคร