4
โชคดีที่อัจฉรานรีให้เธอแยกพักได้อีกห้อง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องที่ไม่เห็นกลับมานอนเมื่อคืนที่ผ่านมา
ควานหากุญแจห้องในกระเป๋าเล็กๆที่ทำซ่อนไว้ในชุดคอสเพลย์แล้วจิ้มๆแหย่ๆเปิดประตูจนเข้าไปได้ในที่สุด ก็ยืนตัวสั่นเป็นลูกนกตกน้ำพิงประตูครู่เดียวแล้วรีบอาบน้ำชำระล้างร่างกายเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เพื่อออกเดินทางกลับไปก่อน แล้วค่อยส่งข้อความบอกอัจฉรานรีว่าต้องการไปเร่งทำรายงานกับเพื่อนในกลุ่ม
เก็บเสื้อผ้าจนเรียบร้อย ประตูห้องของเธอก็ถูกทุบปังๆคล้ายคนทุบอยากให้มันพังลงตรงนั้น แพรไหมวางมือจากของแล้วตรงไปที่ประตู ถามด้วยใจเต้นระรัวเหมือนกลองรบ
“ใครคะ”
ที่ด้านหน้าห้องเงียบไปครู่ ค่อยส่งเสียงตอบ “พี่เอง”
“พี่เอพริล…” ครางชื่อคนมาเรียกเพราะจำเสียงได้มั่น เปิดประตูออกให้ อัจฉรานรีมองสำรวจเธอทั้งตัวด้วยสายตาจับผิด ถามเสียงกระด้าง
“หายไปไหนมาทั้งคืน พี่เรียกก็ไม่เปิดประตู
“แพร...แพรปวดหัวค่ะ ไปบอกพี่เอพริลว่าจะขอกลับห้องมาพักก่อนแต่ก็หาไม่เจอ” แพรไหมโป้ปดไปครึ่งๆหลบตาไปพลาง ใจเต้นระทึกกลัวถูกจับได้
“อ้อ...อย่างนั้นเหรอ” อัจฉรานรีครางรับแต่สายตายังสำรวจหญิงสาวไม่วางใจง่ายๆ แพรไหมอึดอัดเล็กน้อย ค่อยบอกออกไปด้วยน้ำเสียงเกรงๆ
“แพรว่าจะขอกลับก่อน ได้ไหมคะ”
“ทำไมยะ!” กระชากเสียงถาม ตาขุ่นใส่ทันที
“งานแพรเร่งส่งน่ะค่ะพี่เอพริล พรุ่งนี้แล้วด้วยกลัวไม่ทันค่ะ”
อัจฉรานรีหรี่ตาลงคิดครู่หนึ่ง เสียงอ่อนลงหน่อย “แล้วแกจะออกไปยังไง ที่นี่ห่างจากถนนเส้นหลักตั้งไกล”
ได้ยินคำถามคล้ายจะอนุญาตกลายๆค่อยสบายใจ บอกออกไปอย่างที่วางแผนคร่าวๆเอาไว้ตอนอาบน้ำ “ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวแพรนั่งรถตู้กลับได้ค่ะพี่เอพริล”
“ดี กลับไปก็ดี”
คิดอะไรขึ้นได้ก็ไล่ส่ง แล้วหาที่นั่งในนั้น กระแทกตัวนั่งเปรยอย่างเสียอารมณ์ “นี่! รู้ไหมว่าคุณวัตพานังผู้หญิงชั้นต่ำที่ไหนก็ไม่รู้ไปนอนในบ้านพักริมหาดของเขา”
แพรไหมสะดุ้งหน่อยๆ อย่างวัวสันหลังหวะ อึกอักตอบ “มะ...ไม่ทราบค่ะ”
คนถามตวาดกลับ “พี่แค่อยากระบาย ไม่ได้ถามเพื่อให้มาตอบ”
เมื่อคืนนี้อัจฉรานรีอ่อยเขาสุดฤทธิ์ แต่วิษุวัตดันไล่ให้เธอกลับห้องไป แล้วทำเป็นอ้างว่าเหนื่อยมาจากการเดินทาง คิดแล้วมันน่านัก
“พี่กับคุณวัต เราตกลงคบกันแล้ว แต่เขาก็ยังเจ้าชู้ไม่เลิก พี่ไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วนะแพร”
แพรไหมหน้าซีดเผือด กังวลใจเหลือเกินว่าจะเป็นตัวการทำลายความรักของคนอื่น ได้แต่เงียบเอาไว้ บอกตัวเองว่าไม่ควรเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาเลย ไม่ควรเลย ในเมื่อมันเลยเถิดมาขนาดนี้เธอก็จงหลีกหลบไปเสีย ส่วนผู้ชายน่ะมีแต่ได้กับได้ เรื่องเมื่อคืนคงไม่ยากที่เขาจะผ่านเลยมันไป เธอจะไม่ไปขอให้เขารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น
แต่คนที่กำลังอารมณ์เสียไม่ทันมอง มัวแต่เข่นเขี้ยวอาฆาตอยู่ “อย่าให้จับได้นะ แม่จะจิกหัวตบมันประจานกลางตลาดเลยคอยดู”
นึกถึงที่มีเพื่อนเอามาเล่าแล้วยิ่งแค้น เมื่อคืนเธอรึควงเขาเดินทั่วงาน แต่วิษุวัตขอกลับไปพักผ่อนที่ห้องส่วนตัว นั่นน่ะคล้ายบ้านหลังเล็กๆที่เขาสร้างเอาไว้โดยมีสวนขนาดย่อมล้อมรอบ ทั้งยังบรรยากาศดีสุดๆเมื่อเปิดด้านหลังไปก็เจอกับหาดพอดี
ไม่ค่อยมีใครได้รับอนุญาตเข้าไปในนั้นหรอก เธอเองก็เช่นกัน
วิษุวัตเป็นบุตรชายของคุณแปร เพื่อนนักธุรกิจของมารดาอัจฉรานรี ทั้งสองสนิทกันในเรื่องของงานเสียส่วนใหญ่ ครั้งที่ได้รับการแนะนำให้ได้รู้จักกับวิษุวัต อัจฉรานรีก็ชอบเขาในทันที ใครบ้างจะไม่ชอบผู้ชายที่เพียบพร้อมไปด้วยหน้าตาและฐานะอย่างเขา
วิษุวัตเรียนจบจากต่างประเทศ เขาเกิดและเติบโตในต่างแดน แต่พูดภาษาไทยได้ชัดเจน เพิ่งกลับมาช่วยกิจการของมารดาได้ไม่ถึงสามปีมานี้เอง
“แพรไปนะคะ”
แพรไหมบอกเสียงเบาขัดความคิดของอัจฉรานรี แล้วเดินหิ้วกระเป๋าออกไปตามถนนเลียบหาดไปเรื่อยๆจนถึงเส้นหลักแล้วถามเอากับคนแถวนั้นจนรู้ที่รอรถหาจนเจอนั่งรอที่นั่นไม่นานก็ได้นั่งรถกลับในเวลาต่อมา
เสียงดังเอะอะโวยวายที่ด้านนอกปลุกวิษุวัตให้ตื่น ชายหนุ่มควานมือหาร่างเย้ายวนข้างกายแต่กลับพบกับความว่างเปล่าผ้าปูที่นอนเย็นเฉียบแต่ยังปรากฏรอยยับย่นบนนั้นยืนยันความสงสัยของเขาว่าเมื่อคืนไม่ได้แค่ฝันไป ฝันตามภาษาผู้ชาย เพราะเมื่อคืนเขาดื่มไปเยอะอยู่ ไม่ได้เมามายอะไรนัก แต่ก็มึนๆใช้ได้เลยล่ะ และคนที่นอนเคียงข้างกับเขามาตลอดคืนหายไปไหน สายตาคมกวาดมองรอบๆเตียง ปรากฏแต่เสื้อผ้าของเขา แล้วจึงดันตัวลุกนั่ง สายตาครุ่นคิดครู่หนึ่งค่อยพากายเปลือยตรงไปที่ห้องน้ำ ในใจนึกคาดหวังให้ได้เจอกับเธอคนเมื่อคืนในนั้น แต่กลับมีแต่ความว่างเปล่ามาแทนที่
จัดแจงอาบน้ำแต่งตัวใหม่จนเรียบร้อย และตั้งใจออกตามหาแม่สาวตัวจ้อยคนเมื่อคืน เขาจำได้มั่นว่าเธอชื่อ ‘แพร’
‘แพร’ อะไรสักอย่าง เธอที่มากับคณะของอัจฉรานรีและอาภา เพื่อนของมารดาของเขา
เขาถูกใจเธอตั้งแต่เห็นชุดที่ใส่นั่นแล้ว พออัจฉรานรีเรียกให้มาทำความรู้จักกันที่โต๊ะ ได้เห็นหน้าค่าตายิ่งชอบ แววตาขัดกับการแต่งตัวจนเขานึกขำ เทียบแล้วเหมือนเอาเด็กอนุบาลมาใส่ชุดดาราเอวี ไม่ได้มีแววตามั่นใจในนั้นเลยสักนิด ดูประหม่า หวาดหวั่น แต่ที่มายืนรอเขาตรงหน้าบ้านก็ทำเอาความคิดพวกนั้นมลายหายไป วิษุวัตคับข้องใจนัก
