24
“เดี๋ยวสิ ฉันหิว นายกินข้าวหรือยังอ่ะ” พอเห็นเขาเดินหนีก็แกล้งตามตอแยไม่เลิก สนุกดีจะตายนาน ๆ จะได้เห็นนายนี่อายเป็นสักครั้งถ้าไม่นับเรื่องความเจ้าชู้ปากร้ายเฮียไตรของคนที่นี่ก็ไม่เลวนักหรอก......แต่เอิ่ม......ฉันจะมาชื่นชมไอ้บ้านี่ทำไมวะเนี่ย............
“ก็จะมาตามไปกินอยู่นี่ไง” ไตรเทพที่ตอนนี้หน้าตาเข้มขึ้นหูแดงลามไปถึงลำคอที่เสื้อแบะออกเพราะปลดกระดุมถึงสองเม็ด เขาเพิ่งจะหาเหตุผลให้ตัวเองได้อย่างเหมาะเจาะ......ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องเอายัยแม่มดมาอยู่ใกล้ตัวและต้องคอยสอดส่ายสายตามองหาอยู่ร่ำไป แต่มั่นใจว่าไม่ใช่อย่างที่ยัยนั่นกล่าวหาแน่ ๆ
คู่สามีภรรยานั่งกินอาหารด้วยกันที่ห้องเล็กชั้นล่างทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบง่ายไม่เหมือนคู่นอนบางคนของเจ้านายที่ไม่ยอมเยี่ยมกรายมาปะปนกับพนักงานคนอื่นเด็ดขาดทุกอย่างต้องส่งถึงเตียงนอนเท่านั้น
“อืม....ฉันว่าอาหารที่นี่อร่อยนะแต่มันไม่ค่อยหลากหลายนายว่าป่ะ” นับดาวดูเมนูไปด้วย หล่อนสังเกตทุกอย่างและมีแผนจะพัฒนาให้ดีขึ้นตามนิสัยที่ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ถึงแม้ว่าไม่ได้จบด้านบริหารมาแต่คิดว่าผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นที่ปรึกษาได้....งานนี้หล่อนมีแต่กำไรเห็น ๆ ได้ทั้งความรู้ประสบการณ์และที่สำคัญคือเงินเดือนสูงลิบลิ่ว....
“เธอว่าลูกค้าเลือกมาเที่ยวที่นี่เพราะพวกเขาตั้งใจมากินอาหารหรือว่าต้องการอะไรกันแน่” ไตรเทพถามอย่างชวนคิดเหมือนกำลังสอนงานมากกว่าไม่ได้ตั้งใจด่าว่าเหมือนทุกครั้ง
“อืม...มันก็จริงนะ” หญิงสาวนึกภาพบรรดาผู้ชายหลายวัยที่เข้ามาดื่มกินร้อยทั้งร้อยไม่น่าจะตั้งใจมาที่นี่เพราะอาหารรสเด็ดแน่นอน
“แต่ว่าถ้ามีเอาไว้มันก็ดีใช่ป่ะล่ะ”
“ตามใจอยากทำอะไรก็ทำ อย่าให้เจ๊งก็พอ” ชายหนุ่มบอกอย่างใจกว้างเพราะตอนนี้อารมณ์ดีเกินกว่าจะชวนใครทะเลาะ
“แหม.....ฉันก็อยากได้โบนัสเหมือนกันนะ ใครจะปล่อยให้เจ๊ง”
“งก !...” ปากว่าเขาแต่ดวงตาเหมือนยิ้มได้ ถึงแม้ยังมีความคลางแคลงใจในตัวยัยแม่มดอีกหลายเรื่องแต่ที่แน่ ๆ เขาชอบคนที่กระตือรือร้นสนใจใฝ่รู้แบบเจ้าหล่อนนี่แหละ.....
นับดาวยังมีอีกหลายเรื่องที่นำมาพูดคุยกับเขาและก็ไม่ผิดหวังเพราะบางครั้งบางมุมหล่อนก็คิดไม่ถึงเหมือนได้เปิดหูเปิดตาให้กว้างขวางหล่อนคิดว่าความรู้และประสบการณ์ของนายไตรเทพนี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ จนกระทั่งเขาแยกไปทำงานในห้องซึ่งหล่อนก็ไม่รู้ว่างานอะไรแต่ไม่น่าจะเกี่ยวกับที่ผับแห่งนี้ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกที่เขาจะมีธุรกิจอื่นด้วยหล่อนยอมรับว่ามองเขาผิดไปนึกว่าเป็นประเภทไม่เอาไหนเสียอีก
หญิงสาวนั่งทำงานจนเริ่มจะรู้สึกง่วงนิด ๆ เพราะเลยเวลานอนของหล่อนมาแล้ว แต่ก็มีอันที่จะทำให้ตาสว่างขึ้นมาได้ด้วยฝีมือของลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ของเฮียไตร
“ซ้อนมป่ะ” เข้ที่นั่งเงียบ ๆ เฝ้าซ้อคนสวยของเฮียอยู่ในมุมหนึ่งของห้อง จู่ ๆ ก็เอ่ยถามอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“หืม...อะไรเข้” นับดาวที่ยังไม่ค่อยคุ้นชินกับหนุ่มร่างยักษ์คนนี้สักเท่าไหร่ถึงกับรวบคอเสื้อกำเอาไว้แน่น
“เอ่อ...เข้หมายถึงซ้ออยากดื่มนมหรือเครื่องดื่มอะไรไหมครับ”
“ตกใจหมดเลยเข้....ขอบใจมากฉันไม่รับหรอก”
“ไอ้เข้ ! ทำอะไรของมึง” ไตรเทพที่เดินลงมาด้านล่างเพราะได้เวลาต้องกลับบ้านทันได้เห็นนับดาวทำท่าทางตื่น ๆ คิดว่าต้องเป็นไอ้เข้แน่ ๆ
“เปล่าเฮีย เข้แค่ถามเรื่องนมซ้อ”
“ไอ้เหี้ยเข้ !” ชายหนุ่มตาลุกวาบตีนกระดิกยิก ๆ หากลูกน้องไม่ดีดตัวหลบพร้อมกับรีบรามือเอาไว้ก่อนมันโดนแน่.....
“เดี๋ยวเฮีย เข้แค่หวังดีกลัวซ้อหิวอ่ะ” ผู้ชายตัวใหญ่ใจน้อยบ่นกะปอดกะแปดทำตาปริบ ๆ
“นายอย่าไปว่าเข้เลย ฉันเข้าใจผิดเองแหละ” นับดาวช่วยไกล่เกลี่ยเพราะคนที่ปรารถนาดีไม่ควรได้รับการตำหนิติเตียนให้เสียกำลังใจปัญหาของเข้ก็แค่การใช้ภาษาไทยผิด ๆ ถูก ๆ เท่านั้น
“ใช่ ๆ ๆ ซ้อพูดถูก” ผู้ชายตัวใหญ่พยักหน้ารัว ๆ ราวกับเด็กน้อยแถมยังยิ้มกว้างที่ซ้อช่วยปกป้อง พลางคิดในใจแบบนี้ไอ้เข้ได้เลื่อนเป็นคนสนิทของซ้ออีกคนแน่ ๆ
ไตรเทพถอนหายใจส่ายหน้าระอาใจกับความล้นเกินของลูกน้องตัวเองแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากชักชวนนับดาวพากันกลับบ้านที่เมืองกาญจน์ก่อนที่มันจะดึกไปกว่านี้เพราะเวลาเดินทางแค่ชั่วโมงเดียวในช่วงดึกถนนโล่งทำให้ คุณนายตรีเนตรขอร้องให้ทั้งคู่กลับมานอนที่บ้านไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นหายไปทั้งพ่อและแม่ หลานรักของท่านอาจจะเสียใจ.......
“นี่นายไปอาบน้ำก่อนเลย” นับดาวปล่อยผ่านไม่ได้ที่จู่ ๆ พ่อเจ้าประคุณก็ล้มตัวลงนอนน้ำท่าไม่ยอมอาบจะซกมกไปไหนเพราะต้องนอนร่วมเตียงจะไม่เกี่ยวก็ไม่ได้
“เหนื่อย”
“เหนื่อยก็ต้องไปอาบน้ำก่อน ไม่อย่างนั้นไปนอนโน้นเลย” หญิงสาวชี้มือไปที่ว่างข้างเตียง
“บ่นอย่างกับแม่” ชายหนุ่มงอแงไม่ได้เหนื่อยนักหนาหรอกเพราะเขามันนอนดึกจนเคยชินแล้ว แต่แค่เหงาปากอยากชวนทะเลาะก่อนนอนสักนิดสักหน่อยเผื่อฟลุค......อืม...นี่กูรออะไรวะ......
“ไม่ต้องพูดมากไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย ติ๊ดตี่ยังรู้หน้าที่กว่านายอีก” ความรู้สึกดี ๆ ที่มีมาทั้งวันเป็นอันหดหายเกือบหมดเมื่อนายไตรเทพกลับมาเป็นคนเดิมอีกแล้วหรือว่าจะต้องพาไปรดน้ำมนต์สักทีถึงจะดีถาวรไม่ใช่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแบบนี้
“อาบน้ำให้หน่อยดิ” พูดเบา ๆ แต่เร็วปรื๋อ....กระดากปากอยู่เหมือนกันอุตส่าห์ประกาศโต้ง ๆ ว่าไม่ต้องการหล่อนแล้วจะกลืนน้ำลายตัวเองมันก็มีเขินกันบ้างแหละ....
