ตอนที่ 6 โรคจิต
ตอนที่ 6
------------------
เอี๊ยดดด!! รถหรูดับเครื่องลงด้วยฝีมือเจ้าของรถ ขนาดที่ขับออกจากห้างได้ไกลพอสมควร
ปึก!!
"ไอ้เลว กล้าดียังไงถึงทำแบบนี้กับฉัน" พิมพ์มาดากัดฟันแน่น ก่อนจะฟาดฝ่ามือลงบนพวงมาลัยรถ
"ฉันจะทำไงกับฆาตกรอย่างนายดี" แต่แล้วก็รีบสลัดความแค้นออกจากหัวแล้วหาทางกำจัดหมอชาร์ลออกจากโรงพยาบาล
"หรือจะบอกคุณพ่อไปตรงๆ" ใช่นี่น่าจะเป็นทางที่ช่วยเธอได้
"แต่คุณพ่อต้องไม่เชื่อแน่เลย" นอกจากจะไม่มีข่าวการตายที่โรงแรมคืนนั้น หลักฐานอย่างอื่นก็ไม่มีสักอย่าง นอกจากลมปากของตัวเธอเอง แล้วแบบนี้มันจะน่าเชื่อถือยังไงกัน
พรึ่บ!
"นาย บังอาจมากที่มาสร้องรอยบ้าๆนี่บนตัวฉัน!!" ก่อนที่ร่างบางจะเปิดกระจกส่องดูรอยตามลำคอที่เกิดจากร่างสูง รอยไม่ได้มีแค่ตามลำคอแต่มันยังลามไปจนถึงเนินอกยิ่งร่างบางเห็นอย่างนั้นก็ยิ่งหัวฟัดหัวเหวี่ยงขึ้นมาอีกครั้ง
"โอ๊ยยยย!! ไอ้หมอบ้า นายต้องไม่ตายดีแน่"
.
.
.
ครืดด ครืดด~
"หึ คิดว่าฉันจะโง่ไปให้นายปู้ยี้ปู้ยำฉันรึไง" พิมพ์มาดาแสยะยิ้มออกมาเมื่อก้มมองโทรศัพท์มือถือที่ชาร์ลส่งโลเคชั่นนัดหมายมา
สองเท้าก้าวลงจากรถเข้าไปในตัวบ้านโดยมีคนขับรถของสมบูรณ์ยืนรอเพื่อเอารถของเธอไปจอดที่ประจำ
ตึก!
ตึก!
"พิมพ์มาแล้วเหรอลูก ดีจัง" วารีเอ่ยเรียกลูกสาวเอาไว้ พร้อมลุกขึ้นออกจากห้องอาหารเพื่อไปพาพิมพ์มาดามารับประทานอาหารด้วยกัน
"ค่ะแม่"
"ไปทานข้าวด้วยกันสิจ๊ะ" วารีสำรวจชุดลูกสาว แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมานอกจากชวนให้เข้าห้องอาหาร
"ไม่อ่ะ พิมพ์ไม่หิว" ร่างบางตอบกลับไปตามสไตล์ของเธอ
"ไปนั่งทานนิดๆหน่อยๆก็ได้..."
"...วันนี้คุณพ่อมีแขกด้วย อย่าเสียมารยาท"
"แต่พิมพ์ไม่อยากไปนี่คะ" พิมพ์มาดาบอกวารีตามตรง ยิ่งเป็นแขกของคุณพ่อ เธอยิ่งเบื่อหน่ายก็เพราะพวกหุ้นส่วนสาขาต่างๆ ชอบแวะเวียนมาประจบประแจงถึงที่ ดูก็รู้ว่าแต่ละคนมาเพื่อผลประโยชน์กันทั้งนั้น
"ไปเถอะค่ะ เชื่อคุณแม่นะคะ" ว่าแล้ววารีก็ลากมือลูกสาวทันที
"มาแล้วเหรอ วันนี้ทำไมถึงกลับบ้านเร็วได้" สมบูรณ์ทักพิมพ์มาดาด้วยประโยคแปลกใหม่ ก็ปกติแล้วลูกสาวตัวดีคนนี้มักจะกลับดึกดื่นหรือเกือบเช้าเป็นประจำ
"กลับเร็วบ้างไม่ได้เหรอคะ..." ก่อนจะเหลือบไปเห็นบางอย่าง
"...อึก!" พิมพ์มาดายืนนิ่งมองไปที่โต๊ะอาหารที่มีร่างสูงนั่งมองหน้าเธออยู่ อะไรกันในเมื่อเขาเพิ่งจะส่งสถานที่นัดหมายมาให้เธอ แต่ทำไมเขาถึงได้มานั่งร่วมโต๊ะอาหารกับพ่อแม่เธอได้
"ไม่สบายเหรอ" สมบูรณ์เอ่ยออกมาอย่างสงสัย
"คะ!?"
"ใส่เสื้อคอเต่า เป็นไปได้ไง" ก่อนจะส่ายหน้าออกมาเมื่อมองชุดที่ลูกสาวสวมใส่
"พิมพ์จะแต่งตัวเรียบร้อยบ้างไม่ได้เหรอคะ"
"พายุจะเข้ามากกว่า"
"คุณพ่อ!!"
"คุณ!! อย่าแซวลูกสิคะ..."
"...มาค่ะ มานั่งข้างแม่ดีกว่า"
พรึ่บ!
"..." พิมพ์มาดาไม่ได้สนใจอย่างอื่น นอกจากจ้องหน้าคนตรงกันข้ามอย่างเอาเรื่อง
"อ๋อ คุณหมอชาร์ลแขกคุณพ่อน่ะ..."
"...วันนี้คุณพ่อมีเอกสารเร่งด่วนที่ต้องปรึกษาคุณหมอชาร์ล"
"..." ร่างบางนั่งฟังนิ่ง
"โชคดีคุณหมอเขาว่างพอดี ไม่มีเคสผ่าตัด"
"..." ส่วนอีกคนก็นิ่งไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาเช่นกัน
"คืนนี้ก็เลยต้องรบกวนคุณหมอชาร์ลมานอนที่นี่น่ะ"
"หะ!?"
"เป็นอะไรยัยพิมพ์ ทำไมต้องตกใจเสียงดังขนาดนั้น" สมบูรณ์หันไปดุลูกสาวทันที
"เอ่อ...เปล่าค่ะ"
"งั้นทานข้าวกันต่อเถอะ"
"แต่มันจะดีเหรอคะ ให้คนนอกมานอนที่บ้าน"
"อะไรกัน คนกันเองทั้งนั้น ทีเรายังพาพวกอาร์เธอร์มานอนบ้านเป็นประจำเลย" สมบูรณ์เอ่ยออกมา คำพูดของเขาทำให้อีกคนที่นั่งฟังอยู่รู้สึกบางอย่างขึ้นมา
"มันไม่เหมือนกัน" พิมพ์มาดาเถียงต่อ
"ทานข้าว อย่าเสียมารยาทยัยพิมพ์!!"
"ก็ได้ค่ะ" สุดท้ายร่างบางจึงจำใจยอมสงบปากลง ไม่เอ่ยอะไรต่ออีก
เวลาผ่านไปจนกระทั่งทุกคนรับประทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย สมบูรณ์จึงหันไปเอ่ยกับร่างสูง
"จะว่าไป คุณหมอชาร์ลรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนหมอที่ผมเคยเห็นเลยนะ"
"ยังไงครับ" เสียงทุ้มถามกลับไป
"จริงค่ะ พิมพ์เห็นด้วย หน้าตาเหมือนหมอโรคจิตมากกว่า"
"ยัยพิมพ์!!" สมบูรณ์และวารีตวาดลูกสาวเสียงดังลั่น
"ก็มันจริงนี่คะ"
"ดูคุณพิมพ์ไม่ค่อยชอบผมเลยนะครับ" ชาร์ลเอ่ยออกมา
"ไม่ได้สนิทกัน อย่ามาเรียกชื่อเล่นฉัน"
"ยัยพิมพ์!! หยุดก้าวร้าว ขอโทษคุณหมอชาร์ลซะ!!"
"..." แต่พิมพ์มาดาไม่สนใจนั่งกอดอกตัวเองนิ่ง
"ยัยพิมพ์!!"
"ไม่เป็นไรครับ" ชาร์ลจึงเอ่ยกลับไป
"งั้นผมต้องขอโทษแทนยัยพิมพ์ด้วย ยัยพิมพ์เป็นลูกคนเดียว ดื้อเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ แล้วละครับ...."
"...ผมว่าผมไปรอที่ห้องทำงานก่อนดีกว่า เดี๋ยวหมอชาร์ลตามผมมานะ"
"ครับ"
"ตามสบายนะคะคุณหมอชาร์ล" วารีหันไปเอ่ยกับชาร์ลก่อนจะเดินตามสามีออกไป
"คุณจะเล่นสงครามประสาทกับฉันรึไง!!" ทันทีที่ทุกคนออกไปกันหมด ร่างบางหันมาแวดใส่หมอชาร์ลทันที
"..." เขาสบตาไม่พูดอะไร
"ออกไปจากบ้านฉัน"
"..."
"ได้ยินที่ฉันพูดไหม!!"
"ฉันมาตามข้อเสนอ"
"หึ ที่นี่มันบ้านฉัน คุณจะทำอะไรฉันได้" ร่างบางส่งยิ้มให้ชาร์ลอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินออกจากห้องอาหารขึ้นบันไดไปห้องนอนตัวเอง
ปัง!!
"ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ นี่มันในบ้านฉันน่ะ จะทำไรได้" แต่ก็ไม่วายป้องกันตัวเองด้วยการกดล็อคประตูห้องนอนไว้แน่น
พิมพ์มาดาที่จัดการทำธุระตัวเองเรียบร้อย ก่อนจะมานอนเล่นโทรศัพท์มือถือแก้เหงาบนเตียงเพราะปกติของสาวชอบปาร์ตี้อย่างเธอคงไม่มานอนนิ่งๆอย่างงี้ จนเวลาผ่านไปพักใหญ่ ร่างบางจึงค่อยๆ หลับตาลงและหลับไปในที่สุด
.
.
.
@เวลาตีหนึ่ง
ร่างสูงล้วงลวดเหล็กในกระเป๋าเสื้อนอนที่เตรียมการมาอย่างดี ก่อนจะใช้มันงัดแงะประตูห้องนอนลูกสาวเจ้าของบ้าน
พึ่บ! เสียงประตูถูกปิดอย่างเบามือที่สุด พร้อมชาร์ลที่มาปรากฏตัวในห้องนอนพิมพ์มาดาเรียบร้อยแล้ว
ตึกตึก...ก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้าไปยืนปลายเตียงนอน พิมพ์มาดานอนหลับโดยไม่รู้ว่ามีใครกำลังยืนจ้องเธออยู่
พรึ่บ!! ชาร์ลเอื้อมมือดึงผ้าห่มออกจากร่างบาง เผยให้เห็นคนใต้ผ้าห่มที่นอนหลับไม่รู้ตัว แสงสว่างจากด้านนอกสะท้อนเข้ามาในห้องนอนทำให้ชาร์ลสามารถมองร่างบางอย่างชัดเจน พิมพ์มาดาในชุดนอนกระโปรงสีเนื้อแนบผิว แอร์เย็นๆตกลงมาสัมผัสกับผิวทำให้ร่างบางขยับตัวเล็กน้อย
"หนาว~" เธอพึมพำออกมาก่อนจะลืมตาขึ้น ทว่าเงาจากปลายเตียงทำให้พิมพ์มาดารีบลุกขึ้นนั่งทันที
"นาย!!"
"ฉันบอกว่าไง ห้ามเรียกฉันแบบนั้น"
"เอ่อ...คุณเข้ามาได้ไง" ร่างบางดึงผ้าห่มกลับมาพันตัวอีกครั้ง
พึ่บ! ร่างสูงไม่ตอบแต่กลับชันเข่าข้างหนึ่งบนเตียง
"จา..จะทำอะไร!!" เสียงสั่นๆ ของพิมพ์มาดาเอ่ยออกมา มือบางกำผ้าปูที่นอนแน่น
"ฉันบอกไปแล้ว"
"แต่นี่มันในบ้านฉันน่ะ"
"เธอเสนอเอง"
"อึก!!" เป็นอีกครั้งที่ร่างบางถึงกับเถียงไม่ออก ได้แต่ตั้งสติกับเหตุการณ์ตรงหน้า แล้วจะหาวิธีไหนเอาตัวรอดจากน้ำมือหมอโรคจิตนะพิมพ์มาดา!!
