ตอนที่ 1 ไม่ถูกชะตา
ตอนที่ 1
------------------
“อีกสิบนาทีงานจะเริ่มแล้ว พิมพ์ว่าเราไปนั่งกันดีกว่า” พิมพ์มาดาเอ่ยชวนเพื่อน ๆ และผู้ใหญ่ทุก ๆ คน ก่อนที่เธอจะเดินนำเข้าไปในงานโดยมีอาร์เธอร์เดินตามเข้ามาติด ๆ ส่วน เอเดน คลาส และพายุตามเข้ามาทีหลัง
แชะ!
และภาพอาร์เธอร์และพิมพ์มาดาก็ถูกกดชัตเตอร์รัว ๆ พร้อมเสียงซุบซิบไปไหนทิศทางเดียวกัน
‘เหมาะกันเนอะ คู่นี้’
“หึ” พิมพ์มาดาถึงกับหลุดหัวเราะออกมา
“หัวเราะอะไร” เสียงเรียบถามขึ้น
“ขำน่ะ มีแต่คนเชียร์พิมพ์กับเธอร์”
“ไร้สาระ”
“พิมพ์ก็ว่างั้น…” ก่อนที่พิมพ์มาดาจะหันมามองอาร์เธอร์ “ไม่เห็นจะเหมาะกันตรงไหน ฝังใจกะรักเก่างี้ พิมพ์ไม่เอาหรอก”
ฟึ่บ!
“เฮ้ย! พิมพ์ขอโทษ เผลอพูดอีกแล้ว” พิมพ์มาดารีบเข้าไปคล้องแขนอาร์เธอร์อย่างขอโทษพร้อมซบไหล่อย่างสำนึกผิด แต่ภาพที่นักข่าวได้กลับเป็นภาพคู่รักกำลังออดอ้อนกัน
“อย่าเผลอพูดบ่อยล่ะ เดี๋ยวจะหนีกลับบ้านซะเลย” อาร์เธอร์ตบไหล่เตือน ๆ แล้วทั้งคู่พากันไปนั่งลงในที่ที่จัดเตรียมไว้
“ชิ!” พิมพ์มาดาหลุดเสียงไม่พอใจ
“เป็นไรพิมพ์!?” อาร์เธอร์ที่นั่งข้าง ๆ ถามขึ้นมาเพราะมั่นใจว่าเสียงนั่นไม่ใช่ทำใส่เขาแน่ ๆ
“เปล่า แค่รู้สึกไม่ถูกชะตากับใครบางคนน่ะ”
“ใคร!?” อาร์เธอร์มองหาคนที่ทำให้พิมพ์มาดาคนที่อารมณ์ดีสามารถหงุดหงิดได้
ทว่า...
อาร์เธอร์ต้องหันกลับมาสนใจพิมพ์มาดาแทนเพราะเธอกลับออดอ้อนหนักกว่าเดิม จากที่ปล่อยแขนเขาไปนานแล้ว แต่กลับสอดแขนกอดเขาใหม่
“อย่าสนใจเลยเธอร์ รอดูกระเป๋าที่พิมพ์ออกแบบดีกว่า” พูดจบเธอก็เอาหน้าถูไถไปตามแขนหนาของเพื่อน
“ยัยพิมพ์!! คิดว่าอยู่กันสองคนรึไง” คลาสเอ่ยแทรกขัดท่าทางออเซาะ
“ขี้อิจฉา”
“โอ้ หลงตัวเองชะมัด ให้เธอถูแขนแบบนั้น เรียกน้อง ๆ เด็กเสิร์ฟมาแทนยังดีเสียกว่า” คลาสหยอกล้อพิมพ์มาดา ยิ่งเห็นสีหน้าเอาเรื่องของเพื่อนสาวก็ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่
“นี่!! ไอ้เพื่อนบ้า”
“พอ ๆ ไอ้คลาส มึงอย่าแกล้งเจ้าของงานดิวะ” เป็นเอเดนที่พูดขึ้นปราม ไม่อย่างนั้นคู่นี้ไม่สงบศึกให้กันง่าย ๆ แน่
“ฮ่า ๆ แกล้งยัยนี่สนุกจะตายไป”
“หึ” อาร์เธอร์ที่นั่งฟังเพื่อนเถียงกัน ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ อายุจะเข้าเลขสามกันอยู่แล้วยังทำตัวเหมือนเด็กสามขวบกันอยู่เลย
.
.
.
เสียงทำนองเพลงเข้ากับจังหวะเหล่านางแบบที่ต่างเดินพรีเซนต์กระเป๋าแบรนด์พิมพ์มาดา เจ้าของงานเผยรอยยิ้มด้วยความภาคภูมิใจกับความสำเร็จกับงานชิ้นนี้ที่ตั้งใจทำสุด ๆ
“ไหนน้องนารามึงวะ ยังไม่เข้ามาอีกหรอ” สายตาเอเดนจับจ้องนางแบบบนเวทีแต่กลับเอ่ยถามคลาสถึงคู่หมั้นที่แม่สร้างพรมลิขิตขึ้นมาในงานนี้
“ถามกู?” คลาสหันไปมองอย่างเอาเรื่อง
“อ้าว คู่หมั้นมึง” เอเดนเอ่ยต่อ
“มึงจะถามทำไม?”
“ก็กูอยากเห็นนี่ จะสวยอย่างที่แม่มึงประกาศไหมวะ”
“กูด้วย อยากเห็น” พายุเสริมขึ้นกระตุ้นอาการหัวเสียของคลาส
“พอ ๆ ดูนางแบบบนเวทีสบายตากว่าเยอะ” คลาสนั่งส่ายหน้าเบา ๆ ทำใจแล้วจ้องมองหาเหยื่อสำหรับคืนนี้ ไม่แคร์พรมลิคงลิขิตที่แม่สร้างเรื่องให้
จวบจนถึงชุดฟินนาเล่ของแบรนด์ นางแบบคนสำคัญของพิมพ์มาดาที่เธอตั้งใจเลือกเพื่อให้ตรงกับกระเป๋าคอลเลคชั่นของเธอ ทุ่มเงินค่าตัวเพื่อขอคิวนางแบบชื่อดังจากอเมริกามาเดินในคืนนี้
“รอดูนางแบบของพิมพ์ เขาเหมาะสมกับคอลเลคชั่นนี้มากเลย” พิมพ์มาดาหันไปกระซิบบอกสี่หนุ่ม
“ถ้าสวยจริง คนนี้กูจอง” คลาสหันไปบอกเอเดนเพื่อบอกจุดประสงค์และให้เอเดนหลบทางให้
“ได้ไง ของอย่างนี้ขึ้นอยู่กับผู้หญิงสิวะ”
“...” คลาสยักไหล่ไม่แคร์ อะไรที่อยากได้ก็ต้องได้
“พนันกันไหม ถ้าเธอเลือกมึง มึงจะขออะไรก็ได้อย่างหนึ่งแต่ถ้าเลือกกูมึงก็ต้องให้ตามที่กูขอ” เอเดนที่มีนิสัยชอบการพนันเป็นชีวิตจิตใจก็ท้าพนันทันที
“...” คลาสเงียบ ส่วนพายุ อาร์เธอร์ส่ายหน้าเอือม ๆ กับสองคนนี้ที่ยังไม่เลิกนิสัยเดิมกันสักที
“มึงไม่กล้า” เอเดนกระตุ้นต่อ
“ตกลง!!” ความปากไวทำให้คลาสตอบตกลง ถึงแม้จะรู้ว่าไม่เคยมีใครชนะการพนันคนอย่างเอเดนได้ แต่ศักดิ์ศรีมันค้ำคอ!!
“พวกมึงหยุดความคิดชั่ว ๆ สักพักได้ไหมวะ” พายุกระซิบเตือน
“อย่าคุยกันสิ เธอจะออกมาแล้ว” พิมพ์มาดาได้ยินสิ่งที่คลาสและเอเดนพูดกันไม่ค่อยชัดเพราะเธอนั่งถัดไปไกลสุด ส่วนอาร์เธอร์ที่นั่งข้างพายุได้ยินทุกอย่างแต่ไม่ได้เล่าหญิงสาวคนเดียวของกลุ่มฟัง ได้แต่เอือม ๆ เพราะเขารู้บทเรียนของผู้ชายเจ้าชู้ดีกว่าใคร
แต่เพื่อนเขาทำนิสัยนี้คงไม่ผิดหรอกเพราะพวกมันยังครองสถานะโสดอยู่ จะมีใคร มองใคร ลากใครขึ้นเตียงก็ไม่ผิด หากตกลงกันเข้าใจ
เมื่อนางแบบชุดฟินนาเล่ปรากฏตัวกลางเวทีด้วยชุดราตรีคล้องคอสีแดงสดเปิดโชว์แผ่นหลังผิวขาวเนียนอมชมพู กระโปรงผ่าสูงขึ้นมาถึงต้นขา โชว์เรียวขายาวสวยเข้ากับรองเท้าส้นสูงเเก้วใส ๆ ส่งให้นางแบบงดงามราวเจ้าหญิง ขณะเดียวกันก็ดูเซ็กซี่เย้ายวนและเฉิดฉายเด่นสง่าบนเวทีพร้อมกับเดินถือกระเป๋าคอลเลคชั่นสีพาลเทสที่เหมาะสมกับนางแบบอย่างที่เจ้าของงานประกาศไว้ แม้แต่สาว ๆ ที่มาร่วมงานยังละสายตาจากนางแบบไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงหนุ่ม ๆ ไม่ว่าวัยไหนต่างตะลึงค้างกับออร่าความงามที่เปล่งประกายเด่นที่สุดในงานนี้
“เชี่ย!! โคตรสวย” ทันทีที่คลาสเห็นนางแบบก็เผลออุทานคำหยาบออกมา ยิ่งเรียกให้ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังนางแบบ
“เออวะ สเปกกูเลย” เอเดนเองก็ไม่สามารถละสายตาได้ ซึ่งพายุที่มองอยู่ก็เห็นด้วยกับพวกเพื่อน ๆ
“ลิ!”
ทันทีที่อาร์เธอร์เรียกชื่อหญิงสาว ทุกคนหันหน้ามามองด้วยท่าทีสงสัย นาน ๆ อาร์เธอร์จะมองผู้หญิงตาค้างแบบนี้
“มึงพูดไร?” คลาสถามพร้อมทำหน้างุนงง
“อย่าบอกนะว่า” พายุที่เริ่มจะเดาออกคนแรก
“คนนี้เหรอวะ” ตามด้วยเอเดนที่เริ่มจะเข้าใจ
“พวกมึงรู้จักน้องเขาด้วยเหรอ” คลาสก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
เพี๊ยะ!!
โอ๊ยยย!!
“ไอ้เดนตบหัวกูทำไมเนี่ย แม่ง!! สาว ๆ เห็นเปล่าวะ”
“ไอ้นี่! ยังจะห่วงหน้าตาอีก” เอเดนอดที่จะบ่นไม่ได้ “มึงคิดดี ๆ ลิชื่อใคร” ก่อนจะให้เพื่อนใช้ความคิด
“ใครวะ ชื่อเมียเก่ามึงเหรอ”
“มึงเงียบไปเลย” เอเดนส่ายหน้าอย่างรำคาญ อาการอาร์เธอร์ชัดขนาดนี้ยังมองไม่ออก
ส่วนพิมพ์มาดาก็ได้แต่ยิ้มภูมิใจกับผลงานของตัวเอง ต่างจากคนที่นั่งข้าง ๆ ที่เริ่มจะกระวนกระวายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เข้าใจว่าภาพที่เห็นเป็นความจริงหรือความฝัน
