บทที่1.จบตอน
“น้องปายจ๊ะพรุ่งนี้มีจัดเลี้ยงที่รีสอร์ตนะคะ น้องปายกับพี่ปัทออกงานนะ อะนี่รายการของเบรก”
นริน ผู้จัดการสาวเดินมาบอกพร้อมกับยื่นรายการของที่จะต้องจัดให้กับแขกในงาน นอกจากจะทำขนมออกหน้าร้านแล้ว ทางร้านยังมีรับงานจัดเลี้ยงจัดเบรกให้กับหน่วยงานต่างๆ ด้วย บางครั้งหน่วยงานบางแห่งก็มาใช้สถานที่ของรีอสร์ตที่อยู่ติดกันกับร้านซึ่งเป็นรีสอร์ตของเจ้าของร้านนั่นเอง เรียกได้ว่าเม็ดเงินไม่กระเด็นไปไหนเลย
“ได้ค่ะพี่ริน”
“อย่าให้ขาดตกบกพร่องนะ งานนี้งานใหญ่เพราะนักธุรกิจใหญ่ระดับประเทศมากันหลายคน และโชคดีมากๆ ที่รีสอร์ตเราได้รับเกียรตินี้ น้องปายทำสุดฝีมือเลยนะ จัดให้เลิศสุดติ่งไปเลย”
“ได้ค่าคุณริน รับรองสุดจัดปลัดบอก”
“จ้า.. ถ้าปลัดไม่บอกเดี๋ยวจะให้พี่ปัทไปบอกปลัดเอง”
“ได้ค่ะ เพราะปลัดหล่อมาก พี่ปัทเต็มใจไปหาปลัด อิอิ” ปัทมาหัวเราะคิกคักชอบใจ
“เอาล่ะๆ คุยนานไม่ได้เดี๋ยวรินต้องไปทำงานต่อ อย่าลืมนะจ๊ะ ของทุกอย่างต้องเป๊ะต้องปัง”
“ค่ะ” ไปรยากบปัทมารับคำแล้วหันมาทำหน้าที่ของตนต่อ
เมื่อเลิกงานแล้วไปรยาก็ขี่รถจักรยานยนต์คันเก่าซึ่งได้มาจากป้าประนอมกลับบ้าน โชคดีที่เธอพามันเข้าอู่แล้วก่อนขี่มาทำงานเมื่อวานนี้วันนี้มันจึงไม่เกเร ไปรยาขี่ ไอ้แก่ ชื่อจักรยานยนต์คันเก่งที่ป้าประนอมใช้มานานร่วมสิบปีกลับบ้านตามปกติด้วยความสุขใจเมื่อนึกถึงหน้าลูกชายที่รออยู่บ้าน ชีวิตของเธอดำเนินไปเรื่อยๆ อย่างเรียบง่ายแม้ในช่วงปีแรกที่มาอยู่จังหวัดเล็กๆ ทางภาคตะวันตกแห่งนี้จะลำบากอยู่บ้างเพราะไม่คุ้นชินกับสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยและไร้ญาติขาดมิตรอีกทั้งยังอุ้มท้องเพียงลำพัง แต่โชคดีที่มีประประนอมเป็นประหนึ่งแม่คนที่สองคอยช่วยเหลือเธอจึงผ่านช่วงเวลายากลำบากมาได้ และเธอก็นึกขอบคุณที่วันนั้นเธอตัดสินใจรับเช็กเงินสดจากไรอัลมาด้วย และเงินจำนวนนี้มันทำให้ชีวิตเธอไม่ต้องลำบากมากและทำให้เธอมีค่าใช้จ่ายในช่วงที่คลอดและเลี้ยงดูน้องเรียวก่อนจะได้ทำงานเป็นหลักแหล่ง
ความจริงไปรยาคิดว่าจะเปิดร้านขายอาหารเล็กๆ หน้าบ้านเช่า แต่เพราะเงินเหลือน้อยและเธอต้องช่วยค่ารักษาพยาบาลให้ป้าประนอมในตอนที่แกป่วยหนักเพราะลูกๆ ของแกก็ไม่มีใครเหลียวแล พอได้มรดกจากแม่แล้วก็พากันตีจากไปใช้ชีวิตของตัวเอง ดีที่ป้าประนอมเก็บบ้านเช่าไว้ให้ตัวเองได้ปล่อยเช่าเพื่อจะได้มีเงินเลี้ยงดูตัวเองยามแก่ชราหรือไร้ลูกๆ เหลียวแหล
“ป้ารู้ดีว่าลูกๆ ป้ามันไม่มีใครจะกลับมาดูดำดูดีป้าหรอก ป้าเลยเก็บบ้านเช่าสามหลังนี้ไว้ให้ตัวเองไม่ได้แบ่งให้ลูกคนไหนไป อย่างน้อยๆ มันมีรายได้เข้ามาได้เป็นค่ายาค่าหมอ..”
ป้าประนอมเล่าให้ฟัง แกมีลูกห้าคนและทุกคนก็ได้ส่วนแบ่งในมรดกเท่าๆ กันในจำนวนที่มีมูลค่าไม่น้อย เพราะป้าประนอมแกเป็นคนกว้างขวางและมีที่ทางเยอะในย่านนี้ อีกทั้งเงินมรดกจากสามีที่เสียชีวิตไปก่อนหน้าก็มากโขอยู่ แต่เพราะแกทนฟังลูกๆ รบเร้าและพยายามมาขอให้แกแบ่งมรดกให้ไม่ไหวแกจึงจัดการแบ่งสรรปันส่วนให้ลูกๆ แกไปเพื่อตัดปัญหา และเมื่อลูกๆ แกได้ส่วนแบ่งในมรดกแล้วก็พากันหายหน้าไปแวะเวียนมาบ้างยามที่ตัวเองเดือดร้อน มาขอเงินแล้วก็หายไป ตลอดสามปีที่เธออยู่กับป้าประนอมไปรยาเห็นป้าประนอมแอบร้องไห้เพราะลูกๆ หลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่ลูกๆ มาเยี่ยมแกก็ดีใจและยินดีหยิบยื่นเงินให้ไปเสมอ ทั้งที่ลูกๆ ต่างก็ได้สมบัติกันไปแล้ว และไม่เคยกลับมาเหลียวแล ไปรยาเข้าใจลึกซึ้งถึงหัวอกคนเป็นแม่ก็ตอนนี้เอง และสิ่งที่เธอทำได้ก็คือช่วยเหลือแกตามกำลังของตน และป้าประนอมก็เป็นเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งที่เธอให้ความเคารพนับถือ
ไปรยามาถึงบ้านก็พบว่าป้าประนอมกำลังพาน้องเรียวเดินเล่นหน้าบ้าน เมื่อเห็นเธอพ่อหนูน้อยก็รีบวิ่งเตาะแตะมาหาด้วยความดีใจ
“แม่ปายจ๋ามาเย้วๆๆ”
“ชื่นใจจริงๆ คนเก่งของแม่ปายจ๋า”
ไปรยาหอมแก้มยุ้ยของลูกชายหนักๆ อย่างมันเขี้ยว พ่อหนูน้อยก็หอมแก้มเธอเช่นกัน สองแม่ลูกผลัดกันหอมแก้มไปมา
“ป้าทำกับข้าวไว้ให้แล้วนะ ของหนูเรียวด้วย”
“ไม่เห็นต้องลำบากเลยค่ะป้า ปายเกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงจงเกรงใจหรอก ทำงานมาเหนื่อยๆ ไหนจะต้องดูลูก ดูแลอาหารการกินตัวเองอีก ป้าทำให้ก็ไม่ได้ลำบากอะไร”
“ขอบคุณมากค่ะป้านอม ปายไม่รู้จะตอบแทนยังไงเลย” ไปรยาน้ำตารื้นกับความเมตตาของแก
“ไม่ต้องมาทำซงทำซึ้งหรอก แค่หนูปายให้ป้าดูแลหนูเรียวป้าก็ดีใจมากแล้ว ป้าสิต้องขอบใจหนูปายกับหนูเรียว ที่ทำให้ป้าไม่เหงา”
ปากต่อว่าเธอแต่ป้านอมก็แอบน้ำตารื้น ไปรยาหัวเราะแล้วกอดแก หนูเรียวก็กอดป้านอมแล้วพ่อหนูน้อยยังหอมแก้มเหี่ยวย่นอย่างรักใคร่ด้วย ป้านอมยิ้มกับความน่ารักของหนูเรียวที่รักของตน
“ดูสิ พ่อคุณของยาย ไม่หลงยังไงไหว” ป้านอมบีบแก้มยุ้ยของหนูเรียวเบาๆ
“ปายรักป้านอมนะคะ”
“เรียวรักยายนอม” หนูเรียวพูดตามแล้วยิ้มกว้างให้ยายนอมของตน
“ยายนอมก็รักหนูเรียว รักแม่ปายจ๋าด้วย” ป้าประนอมหอมแก้มหนูเรียวอย่างแสนรัก
“ป้ากลับแล้วนะ พรุ่งนี้มาใหม่น้า บ้ายบายหนูเรียว”
ป้าประนอมหอมแก้มหนูเรียวอีกครั้งก่อนล่ำรากลับบ้าน ไปรยาจึงพาลูกน้อยเข้าบ้านแล้วจัดการธุระส่วนตัวของตนและพาลูกชายเข้านอนตามปกติเช่นทุกวัน...
