ตอนที่ 3
ครูอาวุโสเดินมาบอกกับทุกคนที่นั่งกินข้าวอยู่ว่า
"วันไหว้ครูอาทิตย์หน้า คุณครูใหญ่อยากให้เป็นไปอย่างเรียบง่ายนะ ปีนี้ท่านจะให้งดจัดพาน ให้เหลือแค่มาลัยพวงเดียวก็พอ"
"ดีเลยค่ะพี่อิ่ม ปีที่แล้วกว่าจะทำเสร็จ ห้องของจี๊ดเละไปหมดเลยค่ะ"
"ก็ดีค่ะพี่อิ่ม...ง่ายดี"
พริมาพูดยิ้ม ๆ อิ่มหรืออรทัย ยิ้มให้ทุกคน
"เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ประหยัดหน่อยก็ดีจ้ะ"
"มีหลายอย่างที่น่าจะงดนะคะ อย่างงานวันพ่อกับวันแม่ พริมเห็นเด็กบางคนที่ไม่มีพ่อแม่ครบ น่าสงสารมากเลยค่ะ"
"เอ๋เห็นด้วยค่ะ สงสารคนที่ขาดพ่อขาดแม่นะคะพี่"
อรทัยพยักหน้า
"ได้จ้ะ...พี่จะบอกครูใหญ่ให้นะ ได้ยินท่านเปรย ๆ อยู่เหมือนกัน"
อรทัยยืนคุยสักพัก ก็เดินกลับเข้าห้องทำงาน พวกพริมากินเสร็จ ก็กลับห้องเรียนของตัวเองไป
ตอนเลิกเรียน...ผู้ปกครองทยอยมารับลูกหลานกลับบ้าน มีชายหนุ่มหน้าตาดี ขับรถเก๋งสีขาวมาจอดรอในโรงเรียน เขารอจนเด็ก ๆ กลับหมดแล้ว ก็ลงจากรถ... เดินยิ้มมาหาพริมา
"แอล..."
แอลหรือนฤพล ชายหนุ่มหน้าตาดีอายุ 26 ปี มายืนตรงหน้าเธอ เขายื่นกุหลาบให้เธอดอกหนึ่ง หญิงสาวรับมาเขิน ๆ
"ผมมารับพริมกลับบ้านครับ"
พริมายิ้มให้เขา
"พริมขอไปเอากระเป๋าก่อน...คุณรอก่อนนะคะ"
"ครับผม"
ชายหนุ่มยิ้ม มองร่างบางระหงเดินกลับเข้าไปที่ห้อง ไม่นาน...เธอก็เดินกลับออกมา ทั้งสองเดินไปขึ้นรถด้วยกัน
"วันนี้ว่างเหรอคะ"
"ครับ...ว่าจะมาชวนพริมไปกินข้าวด้วย"
พริมานิ่ง...มองออกไปนอกรถ
"พริม...เป็นอะไรหรือเปล่า"
"พริมว่าอย่าดีกว่าค่ะ ถ้าคุณแม่คุณรู้...จะตามมาต่อว่าพริมอีก"
นฤพลถอนใจ...แม่ของเขาไม่ชอบพริมา เพราะติว่าเธอจน ไม่มีสกุลรุนชาติ แต่เขารักพริมามาก เขาคบกับเธอมาสองปีแล้ว และหมายมั่นจะแต่งงานกับเธอ แต่ต้องมาติดขัดที่แม่ของเขาคนเดียว
"เอ่อ...พริม วันเสาร์นี้มีงานเลี้ยง ผมอยากชวนพริมไปด้วย"
"ขอดูก่อนนะคะ"
"อย่าปฏิเสธเลยครับ ผมอยากให้พริมไปด้วยจริง ๆ นะ"
พริมาพยักหน้าเบา ๆ เธอไม่อยากขัดใจเขา ทั้งที่ไม่ได้ชอบการออกงานแบบนี้เลย
พริมาเข้าบ้านมาทุ่มกว่า ก็เห็น อนงค์ แม่ของเธอนั่งดูทีวีอยู่
"แม่คะ...ทำไมมานั่งดูทีวีคนเดียวล่ะ...พ่อล่ะคะ"
"เขาบ่นว่าเหนื่อย เลยขึ้นไปนอนก่อนแล้วจ้ะ ไปไหนกันมาล่ะ"
"แอลมาพาไปกินข้าวน่ะค่ะ"
อนงค์ถอนใจลูบหัวลูกสาว
"พริม...แม่ว่า หนูถอยห่างจากแอลเถอะลูก แม่เขาไม่ชอบเรา เขาคงไม่ยอมรับหนูเป็นสะใภ้หรอก"
พริมาก้มหน้า
"พริมก็รู้ค่ะแม่ แต่เรารักกันนะคะ พริม..."
"แม่เข้าใจจ้ะ แม่ไม่ต้องการอะไรมากหรอกนะ แค่ขอให้เขาจริงใจกับลูกแม่ก็พอ"
พริมายิ้ม เธอรู้ว่าแม่เป็นห่วง แต่เธอก็ตัดใจจากนฤพลไม่ได้
"เราไปนอนกันเถอะค่ะแม่ ยายพัดเงียบเชียว สงสัยจะนอนแล้ว"
พัดหรือพัดชา คือน้องสาวคนเดียวของพริมา อายุ 21 ปี กำลังเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย
พริมาประคองแม่มาเข้าห้อง และหอมแก้มท่าน เธอเดินกลับมาที่ห้องตัวเอง เห็นไฟยังเปิดอยู่ หญิงสาวเปิดประตูเข้าไปในห้อง
"พี่พริม...กลับมาแล้วเหรอคะ"
"พี่นึกว่าเราหลับไปแล้วซะอีก"
"ทำการบ้านยังไม่เสร็จเลยค่ะ"
"มีอะไรให้ช่วยไหมจ๊ะ"
"ไม่ต้องค่ะ...พี่ไปอาบน้ำเถอะ อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้วค่ะ"
พริมาเปิดกระเป๋า...เอาเงินมายื่นให้พัดชาสี่พันบาท
"ไม่ต้องหรอกพี่...พัดยังมีใช้ค่ะ"
"เอาไปเถอะ...เหลือก็เก็บไว้ใช้ยามจำเป็น จะได้ไม่ต้องไปขอแม่'
"เออ...พี่พริม พัดว่าจะบอกพี่หลายวันแล้วก็ลืม"
"อะไรเหรอ"
"พัดว่าพ่อดูแปลก ๆ นะพี่ หมู่นี้ดูพ่อเหนื่อยง่าย แล้วก็ไม่ค่อยจะมีแรง เราน่าจะพาพ่อไปตรวจหน่อยนะ"
"จริงเหรอ...วันศุกร์พี่จะเลิกเร็วหน่อย เราพาพ่อไปโรงพยาบาลกันนะ"
"ต้องกล่อมให้สำเร็จนะพี่ พ่อดื้อจะตาย...เป็นอะไรก็ชอบปิดเงียบไว้คนเดียว"
"อื้ม...เดี๋ยวพี่พูดเอง"
พริมารู้สึกใจไม่ดี พ่อของเธอเป็นคนแข็งแรงมาตลอด แต่จู่ ๆ มาไม่สบายแบบนี้ มันต้องมีสาเหตุแน่ ๆ
พริมากับพัดชามาเกลี้ยกล่อมให้พ่อยอมไปหาหมอ
"ไปตรวจสักหน่อยนะคะพ่อ ถ้าเป็นอะไร...จะได้รักษาเสียแต่เนิ่น ๆ "
กิตติส่ายหัว
"พ่อไม่ได้เป็นอะไร จะไปเสียเงินเสียทองหาหมอทำไมลูก"
"ไปตรวจหน่อยก็ดีนะคะพี่ติ หมู่นี้พี่ดูไม่มีแรงเลย แล้วก็หน้ามืดบ่อย ๆ ด้วย ฉันก็อยากให้พี่ไปตรวจเหมือนกันค่ะ"
อนงค์ช่วยขอร้องอีกคน กิตติก็ยังไม่ตอบรับ
"พ่อคะ...พริมอยากให้พ่ออยู่กับเราไปนาน ๆ นะคะ พริมขอล่ะค่ะ ไปให้หมอตรวจหน่อยเถอะนะคะ"
"พ่อขา...เชื่อเราเถอะนะคะ"
พัดชากอดขาพ่อทำหน้าอ้อน กิตติมองลูกสาวทั้งสองและเมียรักแล้วถอนใจ ความจริงเขาเคยไปหาหมอมาแล้ว หมอได้บอกให้เขารู้ว่า... เขามีเส้นเลือดหัวใจตีบ 2 เส้น หมอแนะนำให้เขาผ่าตัดทำบายพาสหัวใจ แต่เขายังลังเล เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายถึงห้าแสนบาท ไหนจะต้องพักฟื้นเป็นเดือน ทำงานก็ไม่ได้ เขาจะไปหาเงินที่ไหนตั้งห้าแสน ยังมีค่าเทอมของพัดชาอีก
