บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

หลี่ชิงลั่วพักอยู่ในห้องธรรมดา

ถึงแม้จะไม่มีคนนอกบุกเข้าไปง่ายๆ แต่ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น นางเพียงแค่ตะโกนครั้งเดียว ไม่นานเหล่านักพรตก็ได้ยินกันหมดแล้ว

สักพักทั้งในและนอกห้องก็มีเหล่านักพรตน้อยล้อมอยู่

เหล่าข้ารับใช้ของจวนแม่ทัพเห็นสถานการณ์นี้แล้ว เมื่อครู่แต่ละคนยังมาอย่างดุร้าย ตอนนี้กลับยืนอยู่กับที่เงียบราวจักจั่นในฤดูหนาว และมองหน้ากันเลิ่กลั่กโดยไม่ได้ทำอะไรอีก

“โยมทั้งหลาย มาวัดชิงซงแล้วมาจับตัวคนไปเช่นนี้ นี่กำลังเพิกเฉยต่อเหล่านักพรตและวัดชิงซงของเราอย่างนั้นหรือ?”

นักพรตคนหนึ่งที่อายุมากแล้วไว้เครายาวเดินผ่านหมู่ผู้คนเข้ามาถึงข้างหน้า

เขาเป็นอาจารย์อาของเหล่านักพรตน้อยเหล่านี้ หลิงเฟิงจื่อ หรือก็คือเพื่อนนักพรตของหลี่ชิงลั่วที่กำลังพรวนดินและปลูกผักร่วมกับเขาในช่วงนี้

เมื่อเห็นหลี่ชิงลั่วที่ถูกมัดตัวไว้แน่นหนาและถูกปิดปากไว้ หลิงเฟิงจื่อก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

นี่มันชักจะเกินไปแล้ว!

นี่มันเชิญคนที่ไหนกัน?

เห็นได้ชัดว่าเป็นการลักพาตัว!

สายตาของหลิงเฟิงจื่อเต็มไปด้วยความดุร้ายทันที เขามองไปยังข้ารับใช้ที่ดุร้ายเหล่านั้น ยายแก่คนหนึ่งก็ก้าวออกมาด้วยอาการสั่นเทา

“ท่าน ท่านนักพรต ขะ ข้าทำตามคำสั่งของผู้นำตระกูล เพื่อพาคุณหนูรองที่ยังไม่กลับบ้านเสียทีให้กลับบ้าน ถ้าเป็นการรบกวน กะ ก็ขออภัยอย่างสูง ขะ ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้ จะคืนความสงบให้กับท่านนักพรตเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ!”

ยายแก่โบกมือให้นำคนออกไป แต่ยังไม่ทันได้ยกตัวขึ้นมา ชุ่ยเอ๋อร์ที่อู่ข้างๆก็รีบพุ่งเข้ามาหาหลี่ชิงลั่ว จากนั้นก็กอดขานางแล้วร้องไห้ตะโกนว่า “ไม่นะ! นางโกหก! ท่านนักพรต ได้โปรดช่วยคุณหนูของเราด้วยเถิด พวกเขาเข้ามาก็มัดตัวคนเลย ไม่เหมือนคนเชิญกลับไปด้วยซ้ำ และยังไม่มีป้ายของจวนแม่ทัพด้วย ถ้าคุณหนูถูกคนเหล่านี้นำตัวไปจริงๆ จะต้องเป็นอันตรายแน่นอนเจ้าค่ะ!”

หลี่ชิงลั่วมองชุ่ยเอ๋อร์อย่างแปลกใจ

นางไม่คิดเลยว่า ตอนนี้สาวใช้คนนี้จะวิ่งเข้ามาปกป้องนาง

นางเป็นคนของฉวี่ซื่อ ดังนั้นถึงแม้จะเกิดใหม่แล้ว ตอนแรกตนเองก็ไม่เคยคิดจะตีสนิทกับนางเลย

และหลายวันที่อยู่ในวัดชิงซง ถึงแม้จะยุ่งกับการเติมเต็มชีวิตในแต่ละวัน และไม่ได้สนใจชุ่ยเอ๋อร์มากนัก แต่อย่างไรแล้วก็ยังระแวงนางอยู่ในใจบ้าง

แต่ไม่คิดว่าตอนนี้ นางจะปกป้องเจ้านายครึ่งหนึ่งของตนเองจริงๆ

แต่ว่า ถึงแม้ชุ่ยเอ๋อร์จะไม่ออกมา หลี่ชิงลั่วก็ไม่กังวลว่าตนเองจะถูกคนเหล่านี้นำตัวไปจริงๆ

หลายวันมานี้ นอกจากนางจะตีสนิทกับนักพรตเหล่านี้แล้ว นางเชื่อว่าท่านย่าก็แอบสังเกตตนเองเช่นกัน

ด้วยนิสัยของท่านย่าแล้ว และยังให้สมุดฝึกเขียนอักษรกับตนเองอีก ท่านย่าจะต้องไม่นั่งดูเฉยๆและไม่สนใจเรื่องนี้แน่นอน

ดังนั้นท่านย่าน่าจะใกล้ถึงแล้วนะ

เป็นไปตามที่คาดไว้ หลิงเฟิงจื่อไม่ยอมถอย หลี่ชิงลั่วก็ถูกชุ่ยเอ๋อร์กอดไว้แน่น สถานการณ์ตอนนี้ตึงเครียดมาก

แต่ทว่าในตอนนี้เอง แม่นมจางก็นำคนรีบเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ

“ทำอะไรน่ะ!? บังอาจนัก ริอ่านกระทำเช่นนี้ต่อบุตรสาวแห่งจวนแม่ทัพ! พวกเจ้า! มานี่สิ จับตัวคนกำเริบเสิบสานเหล่านี้ไว้ทั้งหมด!”

“ท่านนักพรต รบกวนช่วยหน่อยนะเจ้าคะ!”

แม่นมจางโบกมือ เหล่าข้ารับใช้ยายแก่ข้างหลังก็รีบถือไม้เดินเข้ามา เหล่านักพรตก็ได้รับ ‘คำเชิญ’ จากแม่นมจาง พวกเขาจะเกรงใจอีกได้อย่างไร?

พวกเขาพุ่งเข้าไปพร้อมกัน พริบตาเดียวก็จับข้ารับใช้ของจวนแม่ทัพกดพื้นได้ทั้งหมดแล้ว รวมไปถึงข้ารับใช้ที่ขับรถม้าให้หลี่ชิงลั่วก่อนหน้านั้นด้วย ต่างก็ถูกจับมัดไว้อย่างแน่นหนาแล้ว

หลี่ชิงลั่วก็ถูกปล่อยมัดอย่างรวดเร็ว แม่นมจางตรวจสอบดูตัวของนางอย่างละเอียด “คุณหนู ไม่เป็นไรนะเจ้าคะ?”

หลี่ชิงลั่ว “ขอบใจแม่นมจางมาก โชคดีที่ทุกคนมาได้ทันเวลา ข้าไม่เป็นไรมากแล้วล่ะ”

แม้ว่าสภาพของหลี่ชิงลั่วจะดูไม่ได้ และสีหน้าก็ยังมีความหวาดกลัวอยู่ แต่ก็ยังถือว่าใจเย็นอยู่

นางย่อตัวเคารพแม่นมจางกับนักพรตทุกคน แล้วกล่าวอย่างจริงใจว่า “ขอบใจแม่นมกับท่านนักพรตที่เข้ามาช่วยเหลือเจ้าค่ะ”

“พวกเขาบอกว่ามาจากจวนแม่ทัพ แต่ข้ายังไม่ได้เจอท่านย่าเลย และไม่กล้าเชื่อใจพวกเขาง่ายๆ ดังนั้นก็ถึงเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น แม่นมได้โปรดช่วยข้าทีเถิด”

แม่นมของจวนแม่ทัพที่อยู่ข้างๆก็ตะคอกอย่างไม่พอใจขึ้นมา

“พวกเราเป็นคนของจวนแม่ทัพ เราทำตามคำสั่งของผู้นำตระกูล ทางที่สุดพวกเจ้ารีบปล่อยพวกเราเลยนะ! มิเช่นนั้นพวกเรากลับไปจะรายงานเจ้านาย จะต้องกล่าวโทษพวกเจ้าและวัดชิงซงแน่!”

แม่นมจางส่งสายตาให้ข้ารับใช้ข้างๆ ข้ารับใช้คนนั้นก็รีบเข้าไปตบหน้าแม่นมคนนั้นทันที

“หุบปากนะ! เจ้าคนเขลา เจ้าทำตามคำสั่ง ทำตามคำสั่งอะไร!?”

“ชุ่ยเอ๋อร์บอกแล้วว่าไม่เห็นพวกเจ้าเอาป้ายอะไรออกมา พวกเจ้าเข้ามาก็ไม่ได้เชิญใคร แล้วยังไม่ได้ทำความเคารพฮูหยินเฒ่าด้วย แต่กลับเข้ามามัดตัวของคุณหนูไว้! ไม่ใช่โจรชั่วแล้วคืออะไร?”

หลิงเฟิงจื่อก็แสยะยิ้มเย็นชาแล้วกล่าวว่า “เหอะ ช่างเป็นขุนนางที่ทรงอิทธิพลอะไรเช่นนี้ ก็แค่ทาสรับใช้จวนแม่ทัพ ก็คิดจะกล่าวโทษวัดชิงซงของเราแล้วหรือ? เหอะๆ หลายปีมานี้วัดชิงซงได้รับการดูแลจากฮูหยินเฒ่าเผย ไม่เกี่ยวกับจวนแม่ทัพของพวกเจ้าเลยสักนิด พวกเจ้าคิดจะกล่าวโทษเรา พวกเจ้ามีสิทธิ์นั้นหรือ?”

“ถึงแม้วันนี้ท่านแม่ทัพหลี่จะมาเอง ก็ไม่มีสิทธิ์นั้นหรอก!”

หลี่ชิงลั่วกลั้นหัวเราะในใจเอาไว้

หลิงเฟิงจื่อและวัดชิงซงต่างก็มีจิตสำนึกกัน

ยกยอท่านย่าอย่างสูงส่ง ไม่แปลกใจที่หลายปีมานี้จะอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขได้ ท่านย่ายอมอยู่ที่นี่ก็อิสระและสบายใจมาก

แม่นมจางก็โกรธมาก

แล้วสั่งให้คนนำทาสรับใช้เหล่านี้ลงไปโบยคนละสิบที

ทาสรับใช้ของจวนแม่ทัพมาทั้งหมดแปดคนมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง เดิมทีคิดว่าแค่นำตัวคุณหนูคนหนึ่งกลับจะเสียแรงแค่ไหนกันเชียว?

แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่า ฮูหยินเฒ่าที่ไม่เคยสนใจอะไรเลย คราวนี้กลับออกหน้ามา แล้วยังมีนักพรตเหล่านี้ที่เข้ามาแทรกแซงอีก

สักพักหนึ่ง เหล่าทาสรับใช้ก็ถูกโบยจนร้องโอดครวญให้ไว้ชีวิตกัน

เหล่านักพรตต่างก็ถอยออกไป เมื่อรอบๆไม่มีใครแล้ว แม่นมจางก็ถามหลี่ชิงลั่วว่า “คุณหนู ฮูหยินเฒ่าให้บ่าวมาถามท่านว่า ในเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับท่าน เช่นนั้นท่านจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรเจ้าคะ?”

หลี่ชิงลั่ว “แม่นม ข้าอยากแจ้งความ”

แม่นมจางคิดว่านางไม่เข้าใจเรื่องอ้อมค้อมในตระกูลใหญ่ จึงกล่าวเตือนเสียงเบาว่า “แจ้งความหรือ? คุณหนูคิดดีหรือยัง บ่าวว่าถึงแม้พวกเขาจะกระทำการประมาทไปบ้าง แต่น่าจะเป็นคนของจวนแม่ทัพจริงๆ หากท่านไปแจ้งความ ต่อไปหากอยู่ในบ้าน”

หลี่ชิงลั่วขมวดคิ้ว “ถ้าพวกเขาเป็นคนของจวนแม่ทัพจริง ท่านพ่อกับท่านแม่จะทำเช่นนี้กับข้าจริงหรือ? เข้ามาก็ไม่ถามว่าข้าอยากกลับหรือเปล่า ก็เข้ามามัดตัวข้าไว้เลย ข้าเป็นทาสหลบหนีหรือเป็นลูกสาวของตระกูลหลี่กันแน่? ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง หากข้ากลับไปที่บ้านหลังนั้นจริงจะมีชีวิตที่ดีอย่างนั้นหรือ? และถึงจะไม่กลับไปก็ช่างเถอะ!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel