บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 หมั่นไส้

“ดัดจริตใครบอกให้เรียกคุณ ขึ้นมาเร็วๆเหยียบที่พักเท้าแล้วนั่งซ้อนหลังพี่.” ชายหนุ่มพูดเสียงขุ่นด้วยความไม่พอใจยัยเด็กนี่เรียกเขาว่าคุณทั้งที่เรียกพี่ทัพพ์มาตลอดแค่ไม่ได้เจอกันไม่เท่าไหร่กลับดัดจริตเรียกคุณมันน่ามั้ยล่ะ

“นี่.." ใบพลูกำลังจะอ้าปากพูดแต่ทวิภาคชี้หน้าเธอบอกให้ซ้อนท้ายเขา

“ขึ้นมาเดี๋ยวนี้.” เสียงห้าวพูดดังขึ้นกว่าเดิม

“ก็ได้ อยากให้ซ้อนใบพลูจัดให้” ร่างเพรียวเหยียบที่พักเท้าแล้วยกขาขึ้นข้ามบังโคลนหลังนั่งลงบนบังโคลนแข็งๆ

“ก็แค่นั้นแหละ” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มแล้วบิดคันเร่งก่อนจะออกตัวกระชาก

“บรืนนๆๆ บรื้นนน..”

“ว้ายยย!!.....” อัยยาร้องเสียงหลงด้วยความตกใจเกือบหงายหลังยังดีที่เธอคว้าเอวสอบไว้ได้แรงกระชากทำให้เธอโถมตัวลงเอาหน้าอกกระแทกเข้าแผ่นหลังหนั่นแน่นเต็มแรงสะโพกงอนหลุดจากบังโคลนรถลงไปเบียดเอวสอบ

“คุณทัพพ์..”

"เอี้ยดดด..”

“ว้ายยย!!....”

อัยยาร้องออกมาอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มเบรกรถเสียงดังจนล้อเสียดสีกับถนนคอนกรีตหน้าผากกระแทกหลังเขาจนทำให้คนงานที่ทำงานอยู่แถวนั้นมอง

“เมื่อกี้เรียกพี่ว่าอะไรนะ” ทัพพ์ถามเจ้าของก้อนเนื้อนุ่มที่กระแทกแผ่นหลังเขาถึงสองครั้งไหนจะเนื้อนุ่มนิ่มบดเบียดเอวสอบเขาไว้แน่นอีกล่ะพระเจ้า ยัยใบพลูทำให้ร่างกายของเขามันมีชีวิตได้ด้วยสิ

“เอ่อ.. พี่ทัพพ์..” ...

“ก็แค่นั้นแหละ แล้วอย่ามาเรียกคุณทัพพ์ให้ได้ยินอีกนะ” เสียงห้าวกำชับคนตัวเล็กที่ซ้อนท้ายบิ๊กไบค์ของเขาแล้วดิ้นขยุกขยิกเพื่อขยับไปนั่งที่เดิมตอนนี้ขาของเธอก็ไม่มีที่เหยียบก็เท่าว่าร่างกายส่วนหน้าของเธอแนบชิดกับแผ่นหลังของเขาเต็มๆ “เหยียบบนเท้าพี่แล้วเกาะเอวแน่นๆ” เจ้าของบิ๊กไบค์บอกอัยยาที่เกร็งตัวเพราะกลัวตกหญิงสาวจำต้องกอดเอวสอบไว้

บิ๊กไบค์คันใหญ่ก็แล่นออกไปจากฟาร์มเพื่อไปส่งหลานสาวของตาสิงหาที่อยู่ไร่ตรงข้ามกันแต่ระยะทางก็ไม่ไกลมาก จากหน้าฟาร์มเข้าไปถึงบ้านปูนสองชั้นทรงยุโรปหลังใหญ่หนึ่งกิโลครึ่งส่วนบ้านของตาสิงห์ห่างจากถนนหน้าไร่แค่ห้าร้อยเมตร

อัยยาโอบกอดเอวหนาของทัพพ์แน่นเพราะเจ้าตัวขี่รถฉวัดเฉวียนเหมือนจะแกล้งเธอแต่หญิงสาวเลือกจะเงียบเพราะแป๊บเดียวก็ถึงบ้านแล้ว “โอ้ยย,ไอ้พี่ทัพพ์บ้าเอ้ยขี่เร็วๆหน่อยสินี่บิ๊กไบค์นะไม่ใช่สกู้ดเตอร์ อัยยาคิดแล้วกรอกตาไปมาจะลงก็ลงไม่ได้ ไม่ว่าทัพพจะขี่ช้าแค่ไหนไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงบ้านของตาสิงห์ ที่ตอนนี้มีรถกระบะโฟร์วิลล์สี่ประตูสีแดงสดจอดอยู่ และเจ้าของก็ยืนหน้าง้ำรอเพื่อนสาวรุ่นน้องที่นัดไว้ว่าจะมาเอามะม่วงที่สั่งไว้เพราะเขามีธุระต่อจึงบอกอัยยาให้คัดไว้ให้เลยเขาจะได้ไม่ต้องมานั่งรอ

อานัสอ้าปากค้างมองเพื่อนรุ่นน้องตาแทบถลนเมื่อเห็นซ้อนบิ๊กไบค์คันใหญ่ชนิดที่สิงร่างคนขี่กันสนิทแนบแน่นด้วยความอิจฉาก่อนจะเก๊กหล่อมองอัยยาตะกายลงจากบิ๊กไบค์จนเจ้ารถของทนไม่ไหว

“อยู่นิ่ง” เสียงห้าวบอกร่างเพรียวบอบบางที่นั่งตัวเกร็งมาตลอดทางแล้วเขาก็ลงจากรถแล้วยกตัวอัยยาลงจากรถอย่างง่ายดาย

“ขะ ขอบคุณค่ะ” อัยยาอยากด่ามากว่าขอบคุณ ด้วยมารยาทแล้วเธอก็เลยขอบคุณหลานชายตากำนันที่มาส่ง

“วันหลังก็หัดเช็ครถบ้างไม่ใช่สักแต่ขี่เกิดไปดับกลางทางเข้ามันจะลำบาก.ชายหนุ่มพูดจบตวัดสายตามองหนุ่มหล่อหน้าคมเข้มผิวสีแทนยืนอยู่กับลุงแสงและพี่เขียนที่กำลังคัดมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองที่กำลังเหลืองอร่ามใส่โฟมตาข่ายกันกระแทกแล้วบรรจุลงลังพาสติก

“ค่ะ.”

“ใคร”

“เอ่อ เพื่อนค่ะจะมารับมะม่วงที่สั่งไว้”

ทวิภาคไม่ตอบขึ้นคร่อมบิ๊กไบค์แล้วบิดออกไปจากไร่แม่บุญมี ซึ่งเรียกกันจนติดปากตั้งแต่สมัยยายบุญมีภรรยาของตาสิงห์ยังมีชีวิตอยู่ ท่านก็เลยตั้งชื่อไร่ตามชื่อยายของอัยยา

“มานี่เลยนังชะนีน้อย แกบอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าไปเจอพ่อเทพบุตรสุดหล่อนั่นได้ยังไง” อานัสดึงแขนสาวรุ่นน้องไปท้ายรถแล้วกระซิบปากคอสั่นด้วยความอยากรู้ว่าหนุ่มหล่อร่ำกล้ามน่ากัดนั่นเป็นใคร

“นั่นพี่ทัพพ์หลานชายลุงกำนันค่ะพี่อาร์ท.”

“ต๊ายย,นี่เหรอหลานชายตากำนันเทิด ตายยๆๆ ทำไมหล่อน่าลากไปกินอย่างนี้ แล้วทำไมเขาถึงมาส่งหล่อนได้ล่ะยะ” อานัสยังแคลงใจว่าทำไมอัยยาถึงได้มาพร้อมกับหลานชายกำนัน

“พอดีวันนี้พลูไปช่วยงานตากำนันค่ะ แต่หลับเพลินไปหน่อยลืมคัดมะม่วงให้พี่อาร์ท แฮ่ะๆ ขอโทษด้วยนะคะ พลูจะรีบไปคัดให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ” อันยาตอบรุ่นพี่หนุ่มใจสาวที่เธอสนิทและที่บ้านก็ขายข้าวเหนียวมะม่วงและผลไม้ตามฤดูกาลร้านตั้งอยู่ในตัวเมืองสะระบุรีและเป็นลูกค้าประจำไร่แม่บุญมีมายาวนาน

“ก็ได้ แต่วันหลังหล่อนอย่าลืมแนะนำให้พี่รู้จักด้วยนะนัชะนีน้อยอย่าริเก็บไว้กินเองล่ะ” อานัสจีบปากพูดแล้วค้อนประหลับประเหลือกใส่สาวน้อยรุ่นน้องที่รู้จักสนิสนมกันเพราะมารับมะม่วงไปให้แม่ “อ้อ,ใบพลู”

“คะพี่อาร์ท..”

“แล้วเป็นยังไงบ้างอ่ะ โอบกอดแทบจะสิงกันหล่อนไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ” อานัสหรี่ตามองสาวน้อยคนสวยที่หน้าแดงขึ้นมาทันที

“จะรู้สึกอะไรล่ะคะ รถบ้าอะไรราคาสองสามล้านไม่มีเบาะนั่ง พลูนั่งตรงบังโคลนมันมาแล้วมันไถลลงไปจะให้ทำยังไงล่ะคะ เร็วค่ะเดี๋ยวพี่อาร์ทไปทำธุระต่อไม่ทัน” อัยยาไม่อยากพูดถึงเรื่องน่าอายจึงเดินไปที่เข่งมะม่วงที่พี่เขียนกับลุงแสงช่วยกันคัดแล้วหยิบใส่โฟมตาข่ายกันกระแทกลงลังพาสติก โดยมีอานัสช่วยและคอยกระแซะถามถึงหลานชายกำนันเทิด ที่เขาได้ยินแต่ชื่อจากลักษิกาสาวน้อยอีกคนที่พูดถึงพี่ชายแต่ไม่บ่อยนัก

“เสร็จแล้วค่ะ” อัยยามองดูลังมะม่วงสิบลังที่ลุงแสงนำขึ้นชั่งลังละยี่สิบกิโลทั้งหมดสิบลังก็สองร้อยกิโล

“ทั้งหมดสองร้อยโล โลละสี่สิบก็แปดพันใช่มั้ย” อานัสนับเงินให้สาวน้อยคนขยันแปดพันบาทเพราะเป็นมะม่วงเบอร์ใหญ่คัดที่แก่จัดลูกสวยจึงราคาแพงและสามารถขายได้ราคาเพราะทั้งหอมหวานลูกค้าจึงติดใจมะม่วงจากไร่แม่บุญมีและถามหากันตลอด

“ขอบคุณพี่อาร์ทมากนะคะ รอบหน้าจะเอามหาชนกด้วยมั้ยคะ กำลังแก่ได้ที่อีกอาทิตย์หนึ่งก็ตัดได้แล้ว” อัยยาถามลูกค้าประจำ

“เอาสิ เดี๋ยวพี่จะโทรมาบอกอีกทีนะว่าจะเอากี่โล ต้องถามคุณนายแม่ก่อนจ้ะ ไปนะ เดี๋ยวจะค่ำ.”

“พี่อาร์ทรอแป๊บค่ะ” อัยยาเดินเข้าไปในบ้านหยิบตะกร้าน้อยหน่าออกมาให้อานัส

“ขอบใจจ้ะ.. อย่าลืมที่พี่บอกนะใบพลู..”

“ค่า..ขับรถดีๆนะคะ..” อัยยามองจนรถของอานัสขับออกไปจากไร่ “ขอบคุณลุงแสงกับพี่เขียนด้วยนะคะ.”

“ไม่เป็นไรหรอกใบพลู แล้วไปไงมาไงถึงได้มากับคุณทัพพ์เขาล่ะ” เขียนถามอัยยา

“พลูไปช่วยงานตากำนันมาค่ะ พอดีเผลอหลับแล้วลูกสาวพลูมันดันสตาร์ทไม่ติด พี่ทัพพ์ก็เลยมาส่งค่ะ”

“อ่อ. พี่ว่าจะบอกใบพูลอยู่ว่าพี่สนยังไม่ได้เปลี่ยนแบตเตอร์รี่เลย..” เขียนบอกหลายสาวตาสิงหาที่จะกลับบ้านช่วงเย็นวันศุกร์และกลับไปเรียนเช้าวันจันทร์

“มิน่าละคะมันดังแชะๆ พรุ่งนี้พลูค่อยเอาไปทำค่ะ” อัยยาคุยกับเขียนเรื่องผลไม้ที่ต้องเก็บส่งเจ้าประจำที่โทรมาสั่งและมารับเองเหมือนอานัส บางส่วนก็เอาไปส่งที่ตลาดใหญ่ในเมืองสระบุรีและโคราชตามออเดอร์ของลูกค้าประจำทำให้ได้ราคาดีกว่าขายส่งพ่อค้าคนกลาง

ทวิภาคขี่รถกลับบ้านแล้วรู้สึกว่าเบาะหลังมันโล่งๆพิกลทั้งที่เขาก็ขี่คนเดียวมาตลอดและยังไม่เคยมีใครซ้อนท้ายเพราะบิ๊กไบค์ของเขามีแค่เบาะเดียวนั่นเอง และอัยยาเป็นคนแรกที่ได้นั่งรถคันนี้ ใบหน้าหล่อยิ้มเมื่อนึกถึงร่างเพรียวบอบบางแนบชิดแผ่นหลังและเธอยังเอาก้อนเนื้อนุ่มมากระแทกหลังอีกไหนจะเนินเนื้อนุ่มที่บดเบียดบั้นเอว แค่คิดก็ทำให้ชายหนุ่มอึดอัด

“นี่เราบ้าไปแน่ๆ.” ทวิภาคว่าตัวเองที่คิดไม่ซื่อกับอัยยาทั้งที่เขาเห็นหญิงสาวเป็นน้องมาตลอด ร่างสูงจอดรถแล้วเดินขึ้นบ้านก็เจอตานั่งดูข่าวอยู่ที่ห้องโถงกว้างที่เป็นทั้งห้องรับแขกห้องนั่งเล่น ดูหนังฟังเพลงไม่เหมือนบ้านคนรวยที่มีห้องต่างแยกกัน

“เมื่อไหร่ทัพพ์จะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ฮึ.” กำนันเทิดถามหลานชายที่ขี่แต่บิ๊กไบค์จนท่านเป็นห่วงกลัวจะเกิดอุบัติเหตุเข้าสักวัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel