บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ถนัดขี่

“ตาให้ใบพลูมาช่วยงานเหรอครับ” ทัพพ์รู้อยู่แล้วว่าถ้าเขากับน้องสาวไม่อยู่ถ้าอัยยาว่างตาก็จะเรียกมาช่วยงานและให้ค่าขนมเป็นประจำบางทีก็ให้เข้าไปดูงานในฟาร์มด้วยเพราะหญิงสาวเรียนเกษตรเพื่อจะมาพัฒนาไร่ผลไม้ของตาสิงหาตอนนี้ผลไม้ในสวนของตาสิงห์ก็ออกนอกฤดูทำให้คนงานมีงานทำกันทั้งปีมีผลผลิตได้มากกว่าเมื่อก่อนและตอนนี้กำลังจะจัดส่งเองก็ถือว่าเก่งใช้ได้ทั้งที่เรียนยังไม่จบ

“ใช่ลูก ก็ทัพพ์กับยัยลักษ์ไม่กลับมาสักคน คอยดูนะถ้าไม่มีใครมาสานงานในฟาร์มตาจะยกให้ใบพลู” กำนันเทิดขู่หลานชาย

“ก็ดีสิครับตา ใบพลูเรียนเกษตรมาด้วย คงจะช่วยตาพัฒนาฟาร์มไปได้อีกไกลเลยครับ” ทัพพ์ไม่หวงแถมยังยุส่งอีกทำเอากำนันเทิดอึ้งไปอีก “ที่ผมพูดเพราะผมเป็นห่วงตาจะทำงานหนักนะครับ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้กลับบ้านแล้วอีกไม่กี่เดือนผมก็จะไปเรียนต่อ หากใบพลูมาช่วยงานตาด็ดีสิครับ ผมจะได้หมดห่วงผมไว้ใจใบพลูครับ” เขารู้จักอัยยามาตั้งแต่เด็กและสนิทกันแต่มาห่างกันตอนเรียนมัธยมปลายเพราะเขาไปเรียนต่อที่กรุงเทพจึงทำให้ไม่ค่อยได้เจอกันจะคลาดกันตลอดไม่เหมือนลักษิกาที่เป็นเพื่อนรักกันจะนัดเจอกันตลอด และเขายังสนิทกับอาชาน้องชายของอัยยาด้วยแต่ก็ห่างกันตอนนี้อาชาไปเรียนที่นครพนมเพราะพ่อไปเป็นผู้ว่าราชการอยู่ที่นั่น

“ทัพพ์คิดเหมือนตา ใบพลูเป็นเด็กฉลาดชอบเรียนรู้ กลับมาบ้านทีไรก็จะมาแนะนำตากับนายใหญ่นายด้วงตลอด นี่ก็บอกว่าจะให้ลองปลูกหญ้าแพงโกล่าในที่ลุ่มเพราะมันทนน้ำได้ ตาก็เห็นด้วยนะทัพพ์จะว่ายังไงลูก” กำนันเทิดถามหลานชายเรื่องที่อัยยามาแนะนำท่านเพราะท่านก็ปลูกหญ้าเนเปียร์ หญ้ากินนี ถั่วฮามาต้าข้าวโพด มันสัมปะหลัง ปลูกข้าวเก็บฟางข้าวไว้เลี้ยงโคนมและอาหารก็พอเพียงกับความต้องการของโคนมในฟาร์ม

“ก็ต้องเชื่อเด็กเกษตรสิครับตาเดี๋ยวผมจะหาข้อมูลให้ครับ.”

“แล้วจะมาอยู่บ้านได้กี่วันล่ะ”

“น่าจะอาทิตย์หนึ่งครับตา”

“ก็ดีลูก พรุ่งนี้ไปทำบุญให้แม่ตาด้วยกันนะลูก”

“ครับตา” ทวิภาคตอบตาแล้วมองไปในฟาร์มที่แม่เขาคอยดูแลงานให้ตาจนกระทั่งท่านไม่สบายแล้วจากเขาไปตลอดกาลแต่ท่านก็อยู่ในใจเขาตลอดไป

“ไอ้ออนมันหายไปนานเลยนะ เดี๋ยวตาไปดูเองละกัน..”

“ผมไปด้วยครับ” ทชายหนุ่มบอกตาแล้วลุกขึ้นเขาไม่แน่ใจว่าตัวเองไม่เจออัยยามาเป็นปีหรือสองปีสามปีก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

สองตาหลานเดินเข้าไปในบ้านก็เห็นอิงอรยืนอยู่หน้าห้องเกาศีรษะหยิกๆเหมือนกำลังช่างใจอยู่ว่าจะเข้าไปดีหรือไม่

“อุ้ย ตากำนัน”

“ออนไปช่วยแม่เถอะตาไปดูเอง”

“จ้ะตากำนัน”

ท่านกำนันเปิดประตูห้องเข้าไปเบาๆตามองไปที่โต้ะทำงานที่มีกระดาษเอสี่วางเป็นกองเรียบร้อยส่วนคนทำก็ฟุบหลับคาโต้ะ ก่อนจะยิ้มแล้วหยิบเอกสารมาดูพร้อมกับหลานชาย

“แยกแยะออกมาแบบนี้ตาก็ดูง่ายดีนะ เดี๋ยวต้องให้ใบพลูไปสอนที่ออฟฟิศหน่อยแล้ว” กำนันมองรายละเอียดการเบิกซื้อของและใบเสร็จที่เรียงกันเป็นระเบียบและรายจ่ายแต่ละวันค่าอาหารของคนงานและหลายๆอย่างจิปาถะ รายรับจากการขายน้ำนมดิบของแต่ละคอกในทุกๆวัน

“ที่จริงเราต้องรับพนักงานบัญชีที่เขาจบมาโดยตรงจะดีกว่านะครับตา งานในออฟฟิศผมอยากให้เป็นระเบียบมากกว่านี้ ไม่ใช่ว่าคนงานเขาทำไม่ดีนะครับ พวกเขาไม่เข้าใจระบบงาน”

“แล้วจะให้พวกเขาไปทำอะไรล่ะ เขาอยู่กับเรามานานแล้วนะลูก” ที่กำนันไม่พูดเพราะแต่ละคนก็ทำงานมาด้วยกันนานแล้วจะให้ไปทำตำแหน่งอื่นมันก็กระไรอยู่

“งั้นผมจะให้คนที่บริษัทของพ่อมาดูแลเรื่องบัญชีให้ตานะครับ แต่ช่วงระยะหนึ่งเพื่อให้คนของตาเข้าใจระบบงานหากใครไม่สนใจไม่ผ่านเกณฑ์เราก็ย้ายเขาไปทำหน้าที่อื่นดีมั้ยครับ” ชายหนุ่มเสนอตาเพราะเขาต้องจัดการเรื่องฟาร์มให้เสร็จก่อนเขาจะไปเรียนต่อ

“ก็ได้ลูก”

“อืมม ตาจ๋าพลูขออีกห้านาทีจ้ะ” อัยยายกมือขึ้นบอกตาที่คุยกันเสียงดังก่อนเธอก่อนจะนึกได้ “เอ้ะ ไม่ใช่นี่ตาสิงห์ไม่อยู่เรามาช่วยงานตากำนันนี่นา..” ร่างเพรียวบางเด้งตัวขึ้นเงยหน้ามองไปทางเสียงคุยกันแล้วเบิกตาโตเห็นตากำนันยิ้มขำเธอ ส่วนอีกคนที่เธอไม่เห็นเขามานานปีแต่ยังจำได้เพราะหน้าเขาไม่เปลี่ยนเท่าไหร่ยังหล่อเหมือนเดิมแต่รูปร่างสูงใหญ่กล้ามอกกล้ามแขนเป็นมัดๆทำให้อัยยายิ้มแหยๆให้สองตาหลานที่อมยิ้มขำเธอ

“ตากำนันทำไมไม่ปลุกพลูล่ะคะ” อัยยาเสยผมยาวไปด้านหลังและรวบไว้เอาปากกาเสียบและเก็บเอกสารที่วางไว้มาเข้าแฟ้มและเขียนติดหน้าแฟ้มทุกเล่มว่าเล่มไหนเป็นรายรับรายจ่ายในฟาร์ม

“ตาเห็นใบพลูกำลังหลับสบายก็เลยไม่ปลุกน่ะ งานเสร็จแล้วเหรอลูก.”

“ค่ะตากำนัน พลูแยกแฟ้มไว้ให้หมดแล้วค่ะ ตรงที่มีปากกแดงมาร์คไว้พลูแก้ให้แล้วนะคะ” อัยยาพูดไปก็หยิบจับงานอย่างคล่องแคล่ว

“สวัสดีใบพลู ไม่เจอกันตั้งนานจะไม่ทักกันหน่อยเหรอ” ทวิภาคมองหญิงสาวตรงหน้าอัยยาดูโตขึ้นใบหน้าที่เคยกลมก็เรียวขึ้นร่างกายอวบอิ่มก็ดูผอมลง

“สวัสดีค่ะคุณทัพพ์” อัยยายกมือไหว้หลานชายลุงกำนัน

“เย็นนี้กินข้าวกับตาแล้วค่อยกลับนะใบพลู”

“พลูขอตัวนะคะตากำนัน พอดีพลูนัดเพื่อนไว้ค่ะ เขาจะมาเอามะม่วงตอนหกโมง อุ้ย จะหกโมงแล้วเหรอ พลูต้องไปแล้วค่ะตากำนัน พรุ่งนี้พลูจะมาใหม่นะคะ สวัสดีค่ะ” อัยยามองดูนาฬิกาแล้วก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วยกมือไหว้ตากำนันและหลานชายก่อนจะวิ่งปรู้ดออกไปจากห้องทำงานเพราะนัดเพื่อนไว้ “ตายแน่ๆ ไม่น่าหลับเลยนะนังพลู มะม่วงยังไม่ได้คัดเลย ตายๆๆ..” เสียงหวานบ่นไปขณะเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์คันเล็กของเธอและคิดว่าพี่สนคงจัดการอยู่ก่อนจะขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คันเล็กของเธอ

“แชะ แช้ะๆๆ แช้ะๆๆ..”

“อ้าว ลูกจ๋าอย่าแกล้งแม่สิ ติดเถอะลูกรัก ฮือๆ..” ใบพลูครางเบาเมื่อมอเตอร์ไซค์ของเธอไม่มีวี่แววว่าจะติด

“รถไม่ติดเหรอคะพี่ใบพลู” อิงอรออกมาดูพี่สาวคนสวยที่มองรถตาละห้อย

“ใช่จ้ะออน เออจริงสิพี่ยืมจักรยานออนปั่นกลับบ้านได้มั้ย” ใบพลูถามออน

“แม่เพิ่งปั่นไปเอาข้าวไปให้พ่อในฟาร์มค่ะ พี่แม้วก็ไม่อยู่ด้วยสิ งั้นออนไป บอกตากำนันไปส่งพี่ใบพลูดีกว่าค่ะ..”

“ไม่ต้องหรอกออน เดี๋ยวพี่เดินไปก็ได้เผื่อเจอคนงานจะได้อาศัยเขาไป ไม่ต้องไปบรบกวนตากำนันหรอก ให้ท่านคุยกับหลานชายไปเถอะจ้ะ” อัยยาหน้าม่อยแล้วลงจากมอเตอร์ไซค์เดินออกไปจากบ้านตากำนันและคิดว่าต้องถูกเพื่อนรุ่นพี่ว่าแน่

"รถใบพลูไม่ติดล่ะสิ ไปดูให้น้องหน่อยสิเจ้าทัพพ์..." กำนันเทิดบอกหลานชายหลังจากอัยยาวิ่งปรู้ดออกไปแล้วท่านกับทวิภาคก็เดินตามออกมานั่งที่ระเบียงดู

"ครับตา...."

ทวิภาคยืนมองอยู่นานเมื่อเห็นร่างเพรียวบางลงจากมอเตอร์ไซค์เท้าเอวบ่นก็ยิ้มขำก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจบิ๊กไบค์แล้วลงไปดูก็เห็นอัยยาเดินออกห่างจากบ้านไปแล้วจึงขึ้นคร่อมบิ๊กไบค์ขี่ตามหญิงสาวไป

“บรืนนนๆๆ ปี้นๆๆ.”

“เอ่อ..” อัยยาหลบลงข้างทางและมองบิ๊กไบค์ของทวิภาคจอดตรงหน้าเธอ

“ขึ้นมาสิ..” เสียงห้าวบอกอัยยา

“ไม่เป็นไรค่ะ”

“จะขึ้นเองหรือให้พี่อุ้มขึ้น” ชายหนุ่มพูดเสียงขุ่นทั้งๆที่รีบแท้ๆหญิงสาวยังเล่นตัวอีก

“เอ่อ,พลูไปเองก็ได้ค่ะ” อัยยามองDucati Panigala V4 R (ดูคาติพานิกาเล่ วีโฟร์ อาร์)สีแดงรุ่นล่าสุดคันใหญ่ราคาเกือบสามล้านที่ไม่มีเบาะคนซ้อนก่อนและบอกเจ้าของรถ

“อย่าเรื่องมากน่าใบพลู พี่ไม่อยากให้ตาว่าเป็นคนใจดำทั้งที่เธอมาช่วยงานตา” เสียงห้าวพูดเหมือนรำคาญจนใบพลูไม่รู้จะทำยังไง

“ก็รถคุณทัพพ์มันไม่มีเบาะแล้วจะให้พลูนั่งตรงไหนคะ” ใบพลูมองหน้าเจ้าของรถแล้วพูดเสียงดังแข่งกับเสียงบิ๊กไบค์

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel