บทที่ 1
“งั้นก็หย่ากัน! แต่งวันนี้พรุ่งนี้หย่าเลยเป็นไง!” เสียงตวาดกลับของเจ้าสาวที่วันนี้ดูสวยงามอ่อนหวานกว่าวันไหนๆ เรียกสติให้กลับคืนมา แต่ยังไม่ทันจะได้ตอบกลับเสียงห้ามทัพของมารดาฝ่ายชายก็ดังขึ้นขัดซะก่อน
“หยุดเลยทั้งคู่ ทะเลาะกันตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ เราเองก็ด้วยตาวิน ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิ อยากให้คุณย่าเสียใจรึไง หนูทรายก็ด้วยนะลูก วันนี้เป็นวันดีของหนู ควรยิ้มให้มากๆ คุณย่าประไพจะได้ตายตาหลับ นะจ๊ะ ถือว่าป้า…ไม่สิ ต้องถือว่าแม่ขอร้อง ได้ไหมลูก” คุณวันดีเอ่ยขึ้นห้ามทัพก่อนจะหันไปมองเพื่อนสนิทของบุตรชายที่บัดนี้ได้กลายมาเป็นสะใภ้ของนางเต็มตัว
แม้จะไม่ชินแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเอื้องทรายเป็นผู้หญิงที่น่ารักน่าเอ็นดูคนหนึ่ง และทุกคนที่นี่ก็รักเธอ แม้เด็กสาวจะเป็นคนโผงผาง ดื้อเงียบ คิดอะไรก็มักจะแสดงออกมาตรงๆ แต่ก็ถือว่าเป็นคนดีคนหนึ่งที่ใครๆ ต่างก็พากันบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมาะสมกับลูกชายของนางมากกว่าใคร “หนูจะพยายามค่ะ คุณแม่”
เอื้องทรายเอ่ยขึ้นอย่างยอมจำนน เธอหันไปค้อนใส่สามีชั่วครู่ก่อนจะหันกลับมาส่งยิ้มหวานให้แม่สามีตามคำขอ
งานเลี้ยงยังคงเดินหน้าต่อไปจนกระทั่งถึงเวลาเข้าหอซึ่งมีเพียงญาติฝั่งเจ้าบ่าว และฝั่งเจ้าสาวเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้ามาส่งตัวทั้งคู่ถึงห้องหอ
ฝ่ายเจ้าสาวเป็นนมบุษที่อวยพรให้ทั้งสองมีความสุขกับชีวิต ส่วนทางฝ่ายเจ้าบ่าวเป็นคุณวันดีที่เอ่ยอวยพรคล้ายๆ กันก่อนทั้งหมดจะพากันออกไปดูแลแขกภายในงานเลี้ยง ที่จะยังคงดำเนินกันต่อไปตลอดทั้งค่ำคืน
“โอ้ย! เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว จบซะทีนะ!”เป็นเอื้องทรายที่ร้องลั่นห้อง ก่อนทิ้งตัวบนเตียงขนาดใหญ่ที่ถูกโรยเอาไว้ด้วยกลีบกุหลาบหลากสี
“ฉันนี่ปวดขาจะแย่ ลุกขึ้นมานวดให้หน่อยสิครับคุณภรรยาคนสวย” ธเนศเอ่ยสมทบก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงเคียงข้างภรรยาป้ายแดง
“เรื่องอะไร ขาแกแกก็นวดเองสิ”
“แต่แกเป็นเมียฉันนะ ไม่รู้รึไงว่าหน้าที่ภรรยาที่ดีควรปรนนิบัติสามี มามะทูนหัว สุดที่รัก แม่ยอดดวงใจลุกขึ้นมาบีบขาให้ผัวเสียดีๆ” ธเนศแสร้งแหย่อีกคนเล่น ด้วยรู้ว่าการทำให้เธอหงุดหงิดคืองานถนัดของตัวเอง
“รู้แต่ไม่ทำโว้ยมีอะไรไหม! แกพูดเหมือนไม่รู้ว่าเราสองคนแต่งงานกันเพราะอะไร!”คำตอบที่ได้กลับมาทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงัน
ต่างฝ่ายต่างรู้ดีว่าหากไม่ใช่เพราะคำสั่งเสียของสองย่างานแต่งงานในวันนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น มันคือความจริงที่ไม่อาจหลบเลี่ยงหลีกหนี
“แกคิดว่ายังไงทราย ถ้าเราสองคนจะหย่ากันทันทีที่ครบสามเดือนเพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัย” ธเนศเอ่ยขึ้นหลังจากคิดดีแล้วว่าไม่ว่ายังไงชีวิตคู่ของเขากับเอื้องทรายก็ต้องจบลง เขากับเธอเป็นเพื่อนกัน เขาเองก็มีคนที่รักอยู่แล้ว แต่หากจะให้หย่ากันทันทีที่แต่งก็เกรงว่าเพื่อนรักจะเสียหาย จึงอยากปล่อยเวลาให้ผ่านไปสักพัก ก่อนที่จะหย่ากันด้วยเหตุผลล้านแปด
“เอาสิ! นึกว่าฉันอยากแต่งงานกับแกนักรึไง แค่คิดก็ขนลุกจะแย่!” กว่าจะควานหาคำตอบเจอเอื้องทรายก็ทิ้งเวลาให้ผ่านไปเนิ่นนาน เธอเห็นด้วยในความคิดของเขา เพราะรู้ดีว่างานแต่งงานที่เกิดขึ้นในคืนนี้มันไม่ได้เกิดจากความรัก ทุกสิ่งเป็นแค่การทดแทนบุญคุณของคุณย่าทั้งสองเท่านั้น ซึ่งตอนนี้เธอกับธเนศก็ทำมันสำเร็จตามความต้องการของท่านแล้ว
“งั้นก็ตกลงตามนี้ เราสองคนจะอยู่กันแบบเพื่อน ทุกอย่างระหว่างเราจะเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยน ตกลงไหม” หญิงสาวยอมตกลง รู้ดีว่าสุดท้าย แล้วชีวิตคู่ระหว่างเธอกับเขาคงไม่มีทางเป็นอะไรที่มากกว่านี้ไปได้
