บท
ตั้งค่า

2 เก็บกระเป๋าเดินทางไกล (5)

อ้าว... ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้ล่ะ

“ครบที่ไหน ยังเห็นขาดอยู่สามเล่มไม่ใช่เหรอ?”

“ก็สามเล่มที่ขาด อิงค์ยกให้ผมเมื่อตอนต้นปีไม่ใช่เหรอ”

เอ่อ จริงด้วย... ฉันเป็นคนยกแพ็กหนังสือให้ไผทเอง ทำไมถึงลืมเสียสนิทละเนี่ย

“งั้นเอาหนังสือนิยายเล่มล่าสุดที่ฉันเขียนเสร็จหมาด ๆ เป็นสินบน”

ไผทรีบโบกมือทันที “พอ ๆ เอาไว้นึกออกว่าอยากได้อะไร จะโทรไปบอก”

“ขอบใจจ้า” ฉันยิ้มหวานแล้วทำตัวน่ารักด้วยการช่วยนายไผทผูกเนกไท

“แล้วอิงค์ออกเดินทางวันไหน?” คนตัวสูงซึ่งแหงนหน้าให้ผูกเนกไทหุบเปลือกตามองหน้าฉันนิดนึง

“วันนี้สาย ๆ นายเก็บเสื้อผ้าไปนอนคืนนี้เลยก็ได้ ถ้าไม่สะดวกก็เปิดรั้วช่องกลางซะ จะได้ทะลุไปมาได้ง่ายขึ้น”

“ประตูสนิมจับแบบนั้น ลูกกุญแจไขได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย อีกอย่างต้นไม้ก็เยอะขนาดนั้น ผมไม่อยากมีปัญหากับเจ้าของภายหลัง”

ฉันไหวไหล่ไม่ท้วงอะไรไผท สภาพประตูเป็นแบบนั้นจริง ๆ ทั้งนี้เป็นเพราะไม่ได้เปิดใช้งานเป็นเวลานานมาก สมัยเด็ก ๆ พวกเราใช้ประตูรั้วช่องกลางไปมาหาสู่กันตลอด

แต่หลังจากแยกย้ายไปเรียนหนังสือ ไผทจึงย้ายไปอยู่กับคุณปู่ที่ต่างจังหวัด บ้านหลังนี้จึงถูกปิดเอาไว้ แต่เมื่อเรียนจบแล้วไผทจึงย้ายกลับมาอยู่ที่เดิมเพราะอยู่ใกล้ที่ทำงาน ทว่าประตูรั้วบานเดิมก็ใช้การไม่ได้แล้ว

“อือ... เอาที่นายสะดวกละกัน ไปทำงานเถอะ ทางนี้ฉันจัดการเอง”

นายไผทไม่พูดอะไรนอกจากยกแก้วน้ำเต้าหู้ดื่มจนหมด ก่อนส่งแก้วเปล่าให้ฉัน “แล้วอย่าลืมที่รับปากนะ”

“จ้า ไม่ลืม”

ฉันตีมือกับนายไผทเป็นการสัญญา ก่อนจัดการละเลียดปาท่องโก๋และน้ำเต้าหู้ต่อ เมื่ออิ่มท้องแล้วฉันจึงจัดการเก็บแก้วไปล้าง กลับออกมาจากบ้านนายไผทตอนแปดโมงเช้าเห็นจะได้ พอนึกถึงพี่แป๋มขึ้นมา ฉันก็รีบกลับเข้าบ้านเพื่อเตรียมตัวทันที

##### 3

หมาป่ารูปงาม

สาย ๆ ของพี่แป๋มคือบ่ายสอง... (สายตรงไหน ?) ฉันเก็บข้าวของเครื่องใช้จำเป็นลงกระเป๋าจนหลับไปอีกตื่นแล้วนั่นล่ะ พี่แป๋มถึงมาบีบแตรรถเรียกหน้าบ้าน

“โทษทีน้องรัก พอดีติดงานด่วนนิดหน่อย”

พี่สาวคนสวยออกตัวด้วยน้ำเสียงเครียด ๆ เพราะพี่แป๋มสวมแว่นกันแดดฉันเลยไม่เห็นแววตาของเธอในตอนนี้ได้

“อิงค์รบกวนพี่แป๋มหรือเปล่า?”

ที่ถามเพราะเกรงใจค่ะ หากเจ้าของบ้านไม่ต้อนรับ ฉันก็ไม่อยากไปรบกวนเช่นกัน ฉันถือคติที่ว่า ยิ่งสนิทมากก็ควรเกรงใจมาก

“โอ๊ย รบกงรบกวนที่ไหน คิดมากไปหรือเปล่ายะ เร็ว ขนกระเป๋าขึ้นรถเถอะ”

ฉันทำตามอย่างว่าง่าย ทว่าต้องหยุดมือเมื่อเสียงแตรรถยนต์ดังขึ้น พอปรายตาไปมองด้วยสงสัยว่าเจ้ารถเก๋งสีดำบีบแตรเล่นทำไม กระจกรถติดฟิล์มดำมืดตื๋อจึงถูกเลื่อนลงพร้อมเผยโฉมหน้าคนบีบแตร

นั่นล่ะฉันจึงลอบถอนหายใจแบบเอือม ๆ

“สวัสดีครับคุณอิงค์ นั่นเก็บกระเป๋ากำลังเดินทางจะไปไหนหรือครับ?”

“ไปทำธุระต่างจังหวัดค่ะคุณพล” ฉันตอบแบบปัด ๆ ไม่ลงรายละเอียดขณะลำเลียงกระเป๋าใบสุดท้ายขึ้นรถ

“พักร้อนเหรอครับ?”

“ทำนองนั้น เอาไว้ค่อยคุยกันนะคะ” ฉันฉีกยิ้มแบบรักษามารยาทให้คุณพลอีกครั้ง รีบปิดกระโปรงท้ายรถโดยไม่ลืมโบกไม้โบกมือให้คุณพลเป็นการล่ำลา แล้วก้าวฉับ ๆ มานั่งข้างพี่แป๋มเป็นการเร่งด่วน

“ออกรถเลยพี่แป๋ม” ฉันบอกอย่างรีบร้อน

พี่แป๋มถอดแว่นกันแดดออก ปรายสายตาโฉบเฉี่ยวมองกระจกด้านข้างนิดนึง แล้วหันมาถามฉันเสียงเครียด ๆ

“ตาแว่นหน้าจืดนั่นทำอะไรอิงค์เหรอ เดี๋ยวพี่ลงไปจัดการให้”

พี่แป๋มเห็นคุณพลได้ยังไง? ฉันหันกลับไป จึงพบว่าคุณพลลงจากรถเก๋งคันหรู แล้วมายืนเก๊กหล่อชะเง้อคอยาวบวกสายตาสอดส่ายใคร่รู้มายังรถของพี่แป๋ม

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เขาแค่... อยากรู้อยากเห็นว่าอิงค์ไปไหน ก็เท่านั้น”

“ต๊าย เสน่ห์ฉุนนี่เรา ไม่หล่อแต่รวย น่าสนดีนะ” พี่แป๋มยิ้มตาพราวตามประสาสาวเจ้าชู้ ก่อนสวมแว่นกันแดดอย่างเดิม แล้วลดกระจกไฟฟ้าลงชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่าง

“เฮ... พ่อหน้าจืด สนใจไปเที่ยวกับเรามั้ย?”

เวรกรรม! พี่แป๋มเล่นอะไร

“เฮ้ย! พี่แป๋มอย่าชวน” ฉันขมวดคิ้วยุ่งรีบเอามือปิดปากพี่แป๋ม สลับกับมองไปยังท้ายรถที่คุณพลยืนอยู่

“ทำไมล่ะ?” พี่แป๋มพูดเสียงอู้อี้พร้อมแกะมือฉันออกจากปาก

“เดี๋ยวคุณพลตามมาจริง ๆ จะยุ่งเอาสิ” ฉันบอกด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก พี่แป๋มจึงอมยิ้ม แล้วชะโงกหน้าออกนอกหน้าต่างรถอีกครั้ง

“เมื่อกี๊ชวนเล่น ๆ ไปล่ะคุณตี๋” พี่แป๋มโบกมือให้คุณพลแล้วปิดกระจกรถ ก่อนเปลี่ยนเกียร์พารถเก๋งเคลื่อนออกไป โดยปล่อยให้คุณพลยืนงงงวยอยู่อย่างนั้น

เฮ้อ... ขอถอนลมหายใจด้วยความโล่งอกสองเฮือก

เฮือกหนึ่ง โชคดีที่คุณพลไม่บ้าจี้เก็บกระเป๋าเสื้อผ้าตามพี่แป๋ม

เฮือกสอง หากเป็นไปตามข้อแรก คนที่ซวยเพราะต้องทนกับความอึดอัดก็คือฉัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel