ตอนที่ 2
“ที่บ้านใหญ่เขามีอะไรกันนะแม่ ดูครึกครื้นจัง คนมากันเต็มไปหมด” ตั้นเดินเข้ามาหาแม่ถึงในครัว ปกติเขาไม่ค่อยได้หยุดงาน แต่ช่วงนี้ลาพักร้อนประจำปีจึงได้มาอยู่กับแม่ที่ไร่ในช่วงนี้
“เตรียมงานแต่งงานนะสิ”
“ของใครละแม่” เขายิ้มจนตาหยี เพราะงานมงคลไม่ได้เกิดที่นี่นานแล้ว
“พี่โหน่ง”
ลำดวนหมายถึง พัสกรหลานชายคนเดียวของเจ้าของไร่เรือนทอง
“แต่งกับใครครับ” ปากก็ถามมือก็หยิบเอาแตงโมที่แม่กำลังหั่นใส่จานใบใหญ่อยู่
เพียะ.... แม่ตีที่หลังมือของเขาแรง ๆ
“ล้างมือหรือยัง” ลำดวนยังถามเหมือนตั้นเป็นเด็ก ๆ
“โธ่แม่ครับ ตั้นก็ล้างแล้วสิครับ” เขายังหยิบอีกชิ้นเข้าปากไปอีก เคี้ยวจนแก้มตุ่ย
“ตอนไหน ทำไมแม่ไม่เห็น” ป้าลำดวนเพิ่งเห็นตั้นเดินเข้ามา ยังไม่เห็นว่าเขาเดินไปล้างมือที่ซิงก์น้ำเลย
“ก็ได้ ๆ ไปล้างใหม่ก็ได้ แหม...ตั้นโตแล้วนะครับแม่” ตั้นกำลังจดจ่อกับคำตอบแท้ ๆ แต่หากเขาไม่ทำตามที่แม่บอกมีหวังไม่ได้คำตอบแน่ ๆ วันนี้
“เออแม่ครับ ว่าแต่ว่าแม่ยังไม่ได้ตอบตั้นเลยว่าคุณโหน่งจะแต่งงานกับใคร ใครเป็นเจ้าสาวผู้โชคดีคนนั้นครับ” เขามีท่าทีสนใจ เพราะพัสกรยังครองตัวเป็นโสดมาจนทุกวันนี้ โดยที่ไม่เคยมีผู้หญิงที่ไหนมาวอแวถึงที่ไร่เลย ตอนนี้พัสกรอายุก็ล่วงเลยมาสามสิบสี่ปีแล้ว
“หลานสาวของตาเกชาไง หนูเค้ก คนสวย ๆ นะ หลานคนโตของไร่เจ้าขาเขาละ”
ตั้นตกใจมาก ๆ กับชื่อคนที่แม่ของเขาเอ่ยขึ้น ชายหนุ่มละมือจากแตงโม อ้าปากค้าง ก่อนจะถามผู้เป็นแม่ออกไปด้วยน้ำเสียงสั่น
“ใครนะแม่ บอกตั้นอีกครั้งสิ”
แต่แล้วเขาหุนหันออกไปจากห้องครัวทันที
“อ้าว.... เฮ้ย... ตั้นนั่นจะไปไหน กลับมากินข้าวก่อนสิ เอ๊ะ... ไอ้เด็กคนนี้ ตั้นจะไปไหน ตั้น........”
แม่โผล่หน้าออกมาจากห้องครัว ตะโกนตามหลังเรียกชื่อของเขา แต่ชายหนุ่มไม่ได้สนใจหันกลับมามองหน้าของแม่สักนิด กลับตั้งใจวิ่งไปหาคนที่เขาอยากพบที่สุดในตอนนี้
ณ บริเวณชายป่าของไร่เจ้าขา เขตติดต่อกับไร่เรือนทอง มีเพียงลำธารเล็ก ๆ กั้นเอาไว้เป็นชายแดนเท่านั้น ก้อนหินก้อนเล็ก ๆ ถูกปาไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย บางลูกก็กระเด็นกระดอนโดนก้อนหินที่โผล่พ้นน้ำ เดือนนี้หน้าแล้ง น้ำในลำธารเหือดแห้งลงไปเยอะมาก มีเพียงต้นหญ้าสูงยาวที่ชูช่อแข่งกันล้อเล่นกับลมสูงชะลูด
“ชิ......... ไม่ยุติธรรมเลย อะไรก็ไม่รู้ ทำไมเจ้าสาวของอาโหน่งต้องเป็นพี่เค้กด้วย ทำไม ฮึ... ไม่ใช่... ต้องไม่ใช่เรื่องจริงสิ....หึ.......” แล้วคำบ่น คำว่าต่าง ๆ ก็พรั่งพรูออกมาจากปากสาวน้อย
เธอก้มตัวลงไปโกยก้อนหินเต็มกำมือมาอยู่ในมือ ก่อนจะหลับหูหลับตาปาไปข้างหน้าสุดกำลัง ก้อนหินเหล่านั้นถูกปาเข้าไปในพุ่มไม้สุดแรง
“โอ๊ย....” มีผู้ชายร้องเสียงหลงบ่งบอกว่าเขาได้รับบาดเจ็บจากการกระทำของเธอ
“อะ....ใครนะ” ครีมรีบปัดมือของตัวเองที่เปื้อน ชะโงกหน้ามองหาต้นต่อของเสียงร้องในทันที
ตั้นค่อยมุดหัวออกมาจากพุ่มไม้ เขาเพิ่งเดินข้ามก้อนหินใหญ่มาจากฝั่งไร่เรือนทอง เป้าหมายคือ เขาอยากเจอภาวินี
“ใครมือดีเนี่ย ปามาได้ โอ๊ย... เจ็บชะมัดเลย อ๋อย....” เขายกมือขึ้นลูบที่หัวของตัวเอง จ้องมองหน้าของภาวนาที่นั่งยิ้มเจื่อน ๆ อยู่ที่แคร่
“อ้าว...พี่คนนี้ พี่ตั้น...” เธอชี้หน้า เพราะจำหน้าของเขาได้ เพราะเคยเห็นหน้าเขาสองสามครั้งที่ไร่เรือนทอง
ชนวีย์เดินเข้ามาหา ครีมรีบลุกขึ้นยืน
“เป็นอะไรมากไหมคะ โดนตรงไหนของพี่คะ” เธอถามด้วยความเป็นห่วง
“ว่างมากหรือเรา ไม่มีอะไรทำหรือไงถึงได้มานั่งปาหินเล่นแบบนี้” ตั้นว่าให้
“ขอโทษค่ะ แต่พี่ก็แส่เดินเข้ามาหาทางของลูกหินเองนะ ครีมก็ปาเล่นตั้งนานแล้ว และพี่เข้ามาในสวนของคนอื่นทำไม” สายตาจ้องมองด้วยความสงสัย เพราะเขาเพิ่งมาจากไร่เรือนทอง
“น้องครีมที่เป็นน้องสาวของเค้กใช่ไหม”
“ค่ะ พี่รู้จักครีมด้วยหรือคะ”
“เออ...รู้จักสิ รู้จักดี พอดีพี่เป็นรุ่นพี่ของเค้ก เราเรียนที่เดียวกัน คณะเดียวกัน เค้กเคยบอกว่ามีน้องสาวชื่อครีม”
“อ๋อ...ค่ะ แต่ไม่ยักเคยได้ยินพี่ครีมเล่าเรื่องของพี่ให้ฟังบ้างเลย”
“พี่จะไปหาเค้กได้ที่ไหน” ตั้นไม่รอช้าเขาถามถึงคนที่เขาต้องการเจอทันที
“หาพี่เค้ก โทรนัดกันเองสิคะ ไหนว่าเคยเรียนที่เดียวกัน รู้จักกัน” ครีมสวนคำไปในทันทีตามนิสัยปากไวของเธอ
“จะบอกว่าไงดี วันนี้ซวยตั้งแต่เช้าแล้ว มือถือของพี่เพิ่งตกน้ำ พี่มีเรื่องจะคุยกับเค้กสักหน่อย เรื่องด่วนเสียด้วย น้องครีมไปตามพี่เค้กมาเจอพี่ที่นี่ได้ไหม”
“เรื่องอะไรคะ” หน้าตาเต็มไปด้วยความอยากรู้เหมือนเคย
เขาไม่ตอบ แต่เดินเข้ามาหา แล้วทิ้งตัวลงไปนั่งลงที่แคร่ ครีมรีบขยับตัว แต่ก็นั่งลงข้าง ๆ เขา
“พี่ของครีมจะแต่งงานจริง ๆ หรือน้องครีม” เขาถามออกมาด้วยเสียงผิดหวัง นัยน์ตาที่จ้องสบกับเด็กสาวเต็มไปด้วยความเศร้า
“พี่รู้เรื่องนี้ด้วยหรือคะ”
สายตาของตั้นบ่งบอกถึงความเสียใจจนปิดไม่มิด มันดูอ่อนแรง
“ทำไมพี่จะไม่รู้ เขาพูดกันไปทั้งไร่ พี่ก็เป็นคนในไร่เรือนทองเหมือนกัน ทุกคนในไร่พูดกันแต่เรื่องที่พี่โหน่งจะแต่งงาน และคุยเรื่องเจ้าสาวผู้โชคดีคนนั้นทั้งวัน แล้วก็กำลังเตรียมงานแต่งกันโกลาหลไปหมดแล้ว เฮ้อ...” เขาเล่าเป็นเรื่องเป็นราว
“พี่ร้อนใจ ที่มาพี่อยากเจอเค้ก และพี่แค่อยากมาถามกับเค้กด้วยตัวของพี่เองเท่านั้น ถ้าเค้กจะแต่งงานกับพี่โหน่งจริง ๆ พี่ก็อยากจะได้ยินจากปากของเค้กเองว่าเธอยินดีที่จะแต่งงาน แล้ว....เอ่อ... พี่จะได้.......จบทุกอย่าง”
ตั้นพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าเต็มทน ความรู้สึกพิเศษที่มีต่อเค้กมันฉายออกมาจากแววตาของเขา
“จบทุกอย่าง....” ครีมพึมพำ แล้วเริ่มปะติดปะต่อ
‘หรือคนที่พี่เค้กมีใจพิเศษให้คือผู้ชายคนนี้’
“ช่วยพี่หน่อยได้ไหม ครีมไปบอกเค้กให้พี่หน่อยสิ พี่อยากจะเจอเค้กที่นี่”
“เอ่อ....” เด็กสาวอึกอัก เริ่มมองไปรอบ ๆ ความมืดเริ่มเข้ามาครอบคลุม
“ไปบอกเค้กว่า พี่รอเค้กที่นี่” เขาส่งสายตาอ้อนวอนมาให้สาวน้อยด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความหวัง
“เอ่อ... พี่ตั้นคะ มันจะมืดแล้ว และอีกอย่างครีมว่ามันไม่ค่อยเหมาะมั้งคะ”
เขาทำหน้าเศร้า นัยน์ตาเริ่มหมดหวังอีกครา
“พี่ตั้นจะไม่บอกเหตุผลที่ต้องการพบพี่เค้กกับครีมสักหน่อยหรือคะ เพื่อเป็นเหตุผลประกอบว่ามันสำคัญมากพอที่ครีมจะช่วยหรือไม่ช่วย”
“หึ...หึ... เฮ้อ....”
เสียงหัวเราะเหมือนหยัน ส่งท้ายด้วยเสียงเป่าลมหายใจแรง ๆ ออกมา ทำให้เธอรับรู้ได้ถึงความหนักใจของอีกฝ่ายจริง ๆ
ชนวีย์กลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ ก่อนจะทิ้งตัวลงไปนอนบนแขนของตัวเอง พร้อมกับจ้องมองไปยังเมฆที่จับตัวกันเป็นก้อนขาว ๆ เต็มท้องฟ้าไปหมด
“อดีตและอนาคตของพี่ก็เหมือนกลุ่มเมฆก้อนนั้นแหละ มันคลุมเครือมาตลอด ชีวิตของพี่มันก็ปกคลุมไปด้วยอุปสรรคไปเสียหมดสินะ มิน่า... พักนี้เค้กถึงทำมึนตึงกับพี่ เพราะเหตุผลนี่เอง” เขาบ่นพ้อชีวิต
ภาวนาแหงนหน้ามองไปที่กลุ่มเมฆที่ชายหนุ่มเอ่ยถึง แต่ทุกอย่างที่ตั้นคิดและพูดออกมามันไม่จริง ทั้งพี่เค้กและเธอก็เพิ่งรู้เรื่องที่พี่เค้กจะได้แต่งงานกับอาโหน่งวันนี้
“พี่พูดอย่างนี้ คือพี่กับพี่เค้กรักกันหรือคะ”
ครีมถามตรง ๆ ในใจเต้นตึก ๆ กับเรื่องราวที่เธอกำลังรับรู้ ครีมก้มมองไปที่ใบหน้าอันหมดจดของเขา ผู้ชายคนนี้ดูสำอาง การแต่งกายก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร ดูจะมีรสนิยมดีเสียด้วยซ้ำ เป็นเหมือนผู้ชายในฝันของพี่เค้ก ขาวสะอาดและดูดี
“ใช่ พี่บอกครีมตรง ๆ นะ พี่กับพี่เค้ก เราสองคนคบกัน”
ครีมมีสีหน้าตกใจ
“หา! ตอนไหน พี่เค้กไม่เห็นเคยเล่าเรื่องของพี่ให้ฟังเลย”
ภาวินีเป็นคนเงียบไม่ช่างพูดเหมือนกับภาวนาหรอก ทุกเรื่องที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอไม่มีใครได้รู้ แม้แต่น้องสาวแท้ ๆ แบบครีม
“ใช่สิ หึ...เค้กก็คงไม่อยากจะบอกกับใครหรอกว่าคบกับพี่ เพราะตอนนี้เค้กกำลังจะเป็นเจ้าสาวของเจ้าของไร่เรือนทอง ไม่ใช่ลูกของขี้ข้าทำงานในครัวอย่างพี่”
คำพูดของตั้นแรงไม่ใช่เล่น ครีมรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของเขาในประโยคเหล่านั้น
“ไม่มั้ง ถ้าพี่เป็นแฟนพี่เค้กจริง ๆ เอ่อ... พี่เค้กไม่ใช่คนแบบนั้น และอีกเรื่อง ครีมคิดว่า พี่เค้กก็ไม่รู้เรื่องที่ตัวเองจะได้แต่งงานกับอาโหน่งหรอกค่ะ”
ตั้นถลันตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะส่งมือไปจับมือของครีมเอาไว้แน่น สายตาอ้อนวอนมากกว่าเดิม
“ช่วยพี่หน่อยเถอะนะครีม ถือว่าเราทำบุญโปรดสัตว์”
“เอ่อ....พี่ตั้นคะ ถ้าให้ครีมไปตามพี่เค้กมาหาพี่ที่นี่เวลานี้ ครีมเชื่อว่าพี่เค้กไม่มาหรอกค่ะ ครีมว่าพี่ไปหาพี่เค้กที่บ้านเองดีกว่า”
“ตอนไหน พี่ไม่อยากช้าไปกว่านี้อีกแล้ว” เขาถามเธอ เพราะตอนนี้ก็เริ่มค่ำแล้ว ความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามา แสงสีทองเริ่มลับขอบฟ้า แล้วสีดำทะมึนก็เข้ามาแทนที่จนเกือบจะหมดแล้ว
“เอายังไงดี ครีมว่า.........” ภาวนามีท่าทีลำบากใจ
“ไม่เป็นไร ไม่ช่วยก็ไม่เป็นไร” ตั้นพูดเหมือนตัดใจและประชดระทดท้อ ก่อนจะลุกขึ้นยืนทันที เขาหันหลังกลับไปทางที่เขาเข้ามา
“เฮ้ย... เดี๋ยวก่อนสิพี่ เดี๋ยว...... อ้าว...ทำไมใจร้อนจัง พี่ชายคนนี้...” เธอมองตามหลังเขาไปจนลับหายไปในพุ่มไม้นั้น พยายามจะเรียกแต่ตั้นไม่หันกลับมามอง
ในใจของตั้นเขาจะต้องไปหาโทรศัพท์เพื่อโทรหาเค้ก และคุยกับเธอให้รู้เรื่องในคืนนี้
