บทนำ /4
ไอรีน ลักษณ์อุมา ซินนิทรี คุณหนูตระกูลใหญ่ บิดาของเธอเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โรงแรมใหญ่ๆ ในประเทศสเปนเป็นของตระกูลซินนิทรีทั้งหมด และยังมีโรงแรมในเครือที่อยู่ต่างประเทศในแถบยุโรปอีกหลายแห่ง สาวน้อยวัย 16 ปี อุตส่าห์ขออนุญาตบิดามารดามาเรียนในคอลเลจที่อังกฤษก็เพื่อได้ใกล้ชิดเอนริเก้ ผู้ที่เป็นทั้งญาติและคนที่เธอหมายปอง
“พี่เอริคคอนเกรททูเรชั่นค่ะ” สาวน้อยแสนสวยและน่ารักสมวัยยื่นดอกไม้ช่อโตให้พี่ชายของเธอ เอนริเก้หน้างอหงิก เขาไม่ชอบดอกไม้แต่ไอรีนก็ยังเอามาให้ เห็นหน้าระรื่นของเธอแล้วนึกหมั่นไส้บอกไม่ถูก สีหน้าแจ่มใสเบิกบาน รอยยิ้มกว้างๆ จนปากแทบฉีกถึงหู มันไม่ใช่รอยยิ้มหวานๆ ของสาวเรียบร้อย แต่เป็นรอยยิ้มของสาวแก่นกล้าที่เห็นผู้ชายคือเป้าหมายที่ต้องพุ่งชนต่างหาก
“พี่ไม่ชอบดอกไม้ เธอซื้อมาก็เก็บไว้เถอะไอรีน” ปฏิเสธแบบไม่มีเยื่อไยเลยเชียว คนรูปหล่อหน้าราบเรียบดูหยิ่งทระนงอย่างที่ไอรีนต้องการเผด็จศึก เธอเป็นคุณหนูตระกูลดังไม่ชอบให้ใครทำกิริยาเย่อหยิ่งแบบนี้ แต่ยกเว้นเขาไว้คนหนึ่ง ไม่ว่าพี่เอริคจะทำหน้าบูดบึ้งหรือจะตวาดใส่เธอยังไง เธอไม่แคร์ ก็เถื่อนๆ เจ้าชู้ๆ เล่นตัวตลอดแบบนี้นี่แหละที่เธอชอบ
“แต่น้องไอเอามาให้พี่เอริคนี่คะ วันดีๆ แบบนี้พี่เอริคอย่ามึนตึงกับน้องไอนักเลยค่ะ รับไว้เถอะนะคะ อย่าทำให้น้องไอเสียใจเลยนะ” เธอก็พูดไปอย่างนั้น จริงๆ แล้วไม่เคยเสียใจเลยต่างหาก อาจมีบ้างที่รู้สึกเสียหน้าเพราะความเป็นลูกคุณหนูถูกเอาอกเอาใจประคบประหงมตามใจมาตลอด มาเจอแบบนี้ก็เสียหน้าบ้างเป็นธรรมดา แต่ความรู้สึกที่มีมากกว่านั้นก็คือความท้าทายอยากเอาชนะ
“เฮ้...เอริค ฉันว่านายรับไว้เถอะ สงสารน้องไอรีนว่ะ” มาร์โก้สะกิดบอกเพื่อน เพราะเห็นหน้าหวานๆ แล้วนึกสงสาร คุณหนูไอรีนตามจีบญาติหนุ่มคนนี้มาเป็นปี เธอหลงใหลเอนริเก้ประหนึ่งดาราชายชื่อก้องโลก เธอกล้าหาญและไม่เคยย่อท้อกับความยากลำบาก จนมาร์โก้นึกทึ่ง
ก็แหม...ถ้าเป็นสาวอื่นเจอแบบนี้คงหงายหลังแล้วรีบแจ้นกลับบ้าน เอนริเก้แสดงออกให้เห็นชัดเจนว่าเขาไม่สนใจเธอ ไม่ชอบ ไม่พอใจทุกครั้งที่เธอเข้าใกล้ มาร์โก้เคยแซวว่าคุณหนูไอรีนก็น่ารักดี สดใสสมวัย ทำไมไม่ชอบ คำตอบที่ได้รับเล่นเอาเพื่อนหนุ่มรูปงามต้องนิ่งงันอย่างประหลาดใจ
‘ผู้หญิงประเภทไอรีน ก็ผู้หญิงที่เห็นผู้ชายมีไว้พุ่งชนนั่นล่ะ ต่อให้สวยหยาดฟ้ามาดิน ฉันก็ไม่คิดจะเอามาทำแม่พันธุ์ให้ลูกตัวเองหรอก’
“ก็ฉันบอกแล้วว่าไม่ชอบดอกไม้ ใครอยากสะเออะซื้อมาให้ก็เก็บไว้เองสิ นายก็เหมือนกัน ถ้ายังอยากไปฉลองกันก็ตามมา หรือจะอยากรับดอกไม้นี่แทนฉันก็เชิญตามสบายนะ”
เอนริเก้ก้าวมาข้างหน้า ไอรีนขยับมาขวางหน้าเขาจึงปัดร่างเล็กๆ ออกไปให้พ้นทาง แรงผลักทำให้ไอรีนเผลอปล่อยมือทิ้งช่อดอกไม้แสนสวย มาร์โก้โคลงหัวเห็นใจสาวน้อยก็เห็น แต่จะทัดทานความต้องการของเพื่อนรักก็ทำไม่ได้ ฉะนั้นเขาจึงต้องเดินตามร่างสูงของเพื่อนรักไป ทิ้งร่างเล็กให้ยืนกำหมัดแน่นนัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลวาววับไม่ใช่เพราะความโกรธเคือง แต่เพราะความตั้งใจมุ่งมั่นเพื่อจะเอาชนะสิ่งที่ท้าทายที่สุดในโลกนี้ให้ได้
“ถ้าพี่เอริคคิดว่าจะหนีน้องไอได้ล่ะก็ คงต้องเปลี่ยนความคิดแล้วล่ะค่ะ ถ้าคิดจะกำจัดน้องไอให้ได้ก็คงต้องใช้เวลาตลอดชีวิต!!!”
กรุงมาดริด ประเทศสเปน
ในช่วงวันหยุดปิดภาคเรียน เอนริเก้ก็มักจะกลับสเปนเสมอ เขาจะไม่พิรี้พิไรอยู่อังกฤษต่อเพราะทราบดีว่าบิดาต้องการให้ใช้เวลาว่างเพิ่มประสบการณ์ในการสู้วัวกระทิงให้มากที่สุด เมื่อมาธาดอร์ผู้โด่งดังอย่างท่านแขวนดาบ บุตรชายเพียงคนเดียวอย่างเขาต้องสืบทอดเชื้อสายมาธาดอร์แห่งจวนเคราร์จต่อไป หากไม่สั่งสมประสบการณ์ให้มากความผิดพลาดก็ย่อมจะเกิดขึ้นมากและนั่นหมายถึงชีวิต
แต่การฝึกซ้อมของเขาก็คือการลงสนามกับวัวกระทิงหนักครึ่งตัน
เป็นที่ทราบกันดีสำหรับชาวสเปนว่าตระกูลจวนเคราร์จสืบเชื้อสายมาธาดอร์มารุ่นต่อรุ่น ตระกูลใหญ่ผู้มั่งคั่งนี้มีสนามสู้วัวกระทิงเป็นของตัวเองอยู่ใจกลางกรุงมาดริด เด่นดังไม่แพ้สโมสรฟุตบอลเลื่องชื่อของสเปน
“กรี๊ด!!!” เสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆ ในสเตเดี้ยมที่จุคนดูนับหมื่นดังกึกก้อง เมื่อร่างสูงตระหง่านในชุดตราเฆ่เดลุส1 หรือชุดแห่งแสงสว่าง ปรากฏตัวหลังจากปิกาดอร์2 กระตุ้นให้วัวโกรธด้วยการแทงหอกด้ามยาวไปที่ลำตัวของมัน เมื่อมันเจ็บสัญชาตญาณจะทำให้มันเอาตัวรอด นั่นก็คือการต่อสู้กับมาธาดอร์
เอนริเก้หล่อเหลาราวกับขุนศึกในชุดตราเฆ่เดลุสแพรวพราว ในมือของเขามีหอกบันเดริยัส3 เขาชูหอกด้วยสีหน้ามุ่งมั่นทะเยอทะยานไร้ความเกรงกลัว ใบหน้าหล่อเหลาฉาบด้วยความเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ไม่มีใครที่จะรู้ลึกเข้าไปในหัวใจของเขานอกจากจะส่งเสียงเชียร์กึกก้องไปทั่วสเตเดี้ยม
1 ตราเฆ่เดลุส คือชุดของมาธาดอร์ปักด้วยดิ้นทองเพื่อบ่งบอกฐานะ ส่วนผู้ช่วยคนอื่นๆ ของมาธาดอร์จะปักด้วยดิ้นเงิน ตัวเสื้อจะมีรูปทรงแปลกตาแวววาวด้วยดิ้นสีทองพราวระยับ บนศีรษะของมาธาดอร์จะสวมหมวกสักหลาดสีดำ
2 ปิกาดอร์ คือผู้ชายที่ขี่ม้าหุ้มเกราะเข้ามาใช้หอกด้ามยาวแทงวัวกระทิงเพื่อให้วัวบาดเจ็บ
3 หอกบันเดริยัส คือหอกไม้ไผ่สั้นที่เหลาให้ปลายแหลมและพันด้วยกระดาษสีเป็นริ้วๆ
