บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

แล้วก็มาถึงบ่ายวันหนึ่งซึ่งเมื่อฉันกลับมาถึงบ้านไม่เพียงแต่จะเห็นรถของเจสสีจอดอยู่ก่อนแล้ว แต่ยังมีรถของแอนน์ วิทเทคเคอร์ที่ฉันจำได้ดีจอดเคียงอยู่ด้วย แพทย์หญิงผู้นี้เป็นเพื่อนสนิทของป้าและแน่นอนที่จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาชีวิตฉันอยู่

ฉันร้อนผ่าวไปทั้งหน้าด้วยความโมโห ถ้าไม่คิดว่าความโกรธทำให้คนเราไร้เหตุผลและทำอะไรอย่างขาดความยุติธรรมไปแล้วฉันก็คงจะทำอะไรที่ไร้มารยาทลงไป ถ้าจะว่าไปแล้วเจสสีมีสิทธิ์ทุกประการที่จะปรับทุกข์กับเพื่อนสนิทและยังมีสิทธิ์ที่จะพูดเรื่องเกี่ยวกับฉันด้วย เพราะฉันกำลังเป็นปัญหาใหญ่สำหรับป้าอยู่ในเวลานี้

เจสสีอาจคิดว่าฉันจะยังไม่กลับบ้านจนกว่าจะถึงเวลาห้าโมงเย็นหรืออาจจะมากกว่านั้นซึ่งเป็นปกติวิสัย ถ้าฉันเดินเข้าไปตอนนี้เจสสีอาจจะแกล้งพูดว่าลางานครึ่งวันและก็พอดีกับแอนน์มาเยี่ยม แต่ฉันรู้ว่าการพบปะของคนทั้งสองในวันนี้เป็นเรื่องของการปรึกษาหารือไม่ใช่การมาเยี่ยมเยียนธรรมดา เขากำลังพูดกันถึงเรื่องของฉัน

ความคิดแรกที่เกิดขึ้นฉันอยากจะวิ่งเข้าไปในห้องเผชิญหน้ากับคนทั้งสอง มันคงจะสะใจนักถ้าได้กรีดตะโกนเข้าใส่หน้าบอกให้เขาเลิกมายุ่งกับเรื่องของฉันเสียที คงสะใจยิ่งกว่านั้นถ้าโดนเขาระเบิดใส่หน้ากลับมา ใช่...มันเป็นความสะใจ แต่เป็นการกระทำที่โง่เขลายิ่งนัก

ดังนั้นฉันจึงใช้วิธีแอบย่องเข้าทางหลังบ้าน ออกจะโชคดีที่เจสสีไม่ได้ล็อคประตูหลังไว้หลังจากปล่อยแมวออกมาแล้ว เมื่อเข้ามาหยุดตรงประตูครัวฉันก็ได้ยินเสียงพูดที่ดังออกมาจากห้องนั่งเล่น แต่เนื่องจากยังจับใจความไม่ได้ฉันจึงถอดรองเท้าย่องเข้าไปในห้องโถงและไปหยุดแอบฟังอยู่ข้างประตูที่แง้มไว้ สิ่งแรกที่ฉันได้ยินคือเสียงของแอนน์ที่กำลังพูดว่า

“เจสสีนี่เธอกำลังจะให้ฉันทำอิฐทั้งที่ไม่มีดินเลยนะ ฉันจะไปพูดกับฮัสเคลล์ได้ยังไงถ้าแกไม่อยากพูดกับฉัน จะให้ฉันโทรศัพท์มาชวนแกไปกินอาหารกลางวันด้วยกันอย่างนั้นหรือ แค่เอ่ยปากแกก็รู้แล้วว่าฉันคิดจะพูดอะไรแล้วก็คงโมโหตายเลยที่เธอเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ฉันฟังโดยที่แกไม่รู้เรื่องด้วย ฉันว่ามันไม่ถูกต้องนะ”

“แต่เธอเป็นคนเดียวนะที่ช่วยฉันมาตลอด” เจสสีกัดฟันตอบ

“แต่ตัวเธอเองกลับไม่ยอมช่วยแก้ปัญหาเลย ฉันว่าเธอน่าจะรู้นะว่าการที่ใครคนนึงเกิดความเข้าใจผิดขึ้นมามันไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะต้องไม่เข้าใจผิดไปด้วย ปฏิกิริยาที่กำลังเกิดขึ้นกับฮัสเคลล์ในตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติหรือไร้เหตุผลเลย ถ้าเป็นเธอล่ะเธอจะรู้สึกยังไงถ้าเกิดเธอรู้ตัวว่าตัวเองถูกขอมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเป็นทารกโดยคนที่เธอเชื่ออยู่ตลอดเวลาว่าเขาเป็นพ่อแม่ที่แท้จริง?”

“ฉันก็จะเลี้ยงฉลองเป็นการใหญ่น่ะสิ”

“ใช่ เธออาจจะทำอย่างนั้นจริงๆ ก็ได้ ฉันเคยพูดกับเธอมาแล้วนะเจสสีว่าสักวันหนึ่งเธอควรจะเลิกโกรธพ่อแม่ตัวเองได้แล้ว เธอส่งตัวฮัสเคลล์ให้ไปหาฉันตอนที่แกกำลังมีปัญหาทางอารมณ์ แต่พอฉันแนะนำว่าให้เธอลองปรึกษา...”

เสียงพูดของหมอวิทเทคเคอร์หายไป ฉันคิดว่าอาจจะเป็นเพราะป้าได้แสดงกิริยาอะไรบางอย่างที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดของเธอ ฉันออกเสียดายที่ป้ายับยั้งแอนน์ไว้ไม่ให้พูดต่อ หรือว่าเจสสีเองก็มีปัญหาโดยเฉพาะกับพ่อแม่ของตัวเอง? ถ้าเช่นนั้นก็หมายความว่าเราต่างก็มีปัญหาน่ะสิ...

“เอาละ” เสียงแอนน์พูดต่อ “ฉันจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นก็ได้ ตอนนี้เราจะต้องมุ่งไปที่เรื่องของฮัสเคลล์ก่อนจริงไหม? ฉันมีความรู้สึกนะว่าปฏิกิริยาที่เกิดอยู่กับแกในเวลานี้มันคล้ายกับเด็กกำพร้าที่ถูกขอมาเลี้ยงนั่นแหละ เด็กๆ ที่อยู่ในสภาพเช่นนี้ต้องการจะรู้ให้ได้ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของตัวเองเป็นใคร ฉันไม่เข้าใจนะว่าทำไมเธอจึงยอมรับความจริงในเรื่องนี้ไม่ได้?

“ฉันไม่ได้กังวลเรื่องที่ว่าแกจะทำอะไรหรอกนะ แต่ฉันเป็นห่วงสิ่งที่มันเกิดอยู่กับฮัสเคลล์ในเวลานี้ แกเปลี่ยนไปมากทีเดียวนะแอนน์ เวลานี้กลายเป็นคนเงียบขรึม มีความคิดร้ายๆ อยู่ในใจไม่ใช่แต่กับฉันเท่านั้นนะแต่กับทุกคนเลย ไม่ยอมบอกให้ฉันรู้ด้วยว่ากำลังคิดจะทำอะไรอยู่ ฉันกลัวว่ามันจะเป็นเรื่องร้ายแรง อาจจะมีอันตรายมากหรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายหรือ...เธอดูนี่สิ”

เสียงเงียบกันไปเป็นครู่ ฉันใจจะขาดรอนๆ ด้วยความอยากรู้ว่าเขากำลังดูอะไรกันอยู่ แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะเสี่ยง เป็นครู่ก็มีเสียงแอนน์เอ่ยขึ้นว่า

“ฉันไม่เข้าใจว่านี่มันหมายความว่ายังไง”

“ก็หมายความว่าแกกำลังจะกลับไปที่นั่นน่ะสิ ฮัสเคลล์ไม่ใช่เด็กโง่หรอกนะแอนน์ แกพอจะเดาได้ว่าจะต้องเป็นคนใดคนหนึ่งในกลุ่มนั้น...”

นั่นย่อมหมายความว่าทั้งแอนน์และเจสสีได้พูดกันถึงเรื่องนี้ก่อนหน้าให้ฉันจะเข้ามา เพราะคล้ายกับแอนน์รู้เรื่องที่กำลังพูดกันอยู่ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องเดียวกับที่ฉันรู้อยู่ก่อนแล้ว

“จำเป็นขนาดนั้นเชียวหรือ? ถ้าอย่างนั้นเธอก็ยอมรับว่าฮัสเคลล์เข้าใจถูกแล้วใช่ไหมว่าเควิน มาโลเน่ย์ไม่ใช่พ่อของแก?”

เมื่อเห็นเจสสีนั่งนิ่งเงียบไม่ยอมตอบแอนน์ก็ย้ำว่า

“เธอพยายามหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องนี้มาโดยตลอด ทั้งที่มันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้นล่ะเจสสี?”

ความที่อยากจะฟังคำตอบจากปากของเจสสีทำให้ฉันโน้มตัวไปข้างหน้า แต่บังเอิญมือไปปัดถูกตะเกียงที่ตั้งอยู่บนโต๊ะใกล้ตัวเข้า ฉันคว้ามันไว้ได้ทันก่อนจะตกแตก แต่เสียงครอบแก้วที่ไปกระทบกับพื้นโต๊ะก็ทำเสียงดังขึ้น

ทั้งแอนน์และเจสสีคงจะได้ยินแน่นอน เพราะฉะนั้นแทนที่จะยอมให้ตัวเองถูกจับได้ว่ากำลังแอบฟังเรื่องที่พูดกันอยู่ ฉันจึงเดินออกไปเสียเอง

“เป็นคำถามที่ดีมากทีเดียวค่ะแอนน์ บางทีป้าเจสสีอาจจะอยากตอบคุณบ้างละมังคะ เพราะไม่ยอมพูดเรื่องนี้กับหนูเลยนี่”

ฉันใช้ความเย็นชาเป็นอาวุธและเชื่อว่าตัวเองจะยังควบคุมสติอารมณ์ไว้ได้อย่างดียิ่ง แต่แล้วก็เหลือบไปเห็นสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะนั้น ฉันรีบคว้ามันขึ้นไว้พร้อมกับหันไปทางป้าเจสสี

“ป้าค้นโต๊ะหนูทำไม?”

“ก็ได้ความคิดมาจากเธอนั่นแหละ” เจสสีกระแทกเสียงตอบ “เธอเป็นคนเริ่มค้นขึ้นก่อนนี่ ตอนแรกก็เข้าไปค้นโต๊ะในห้องฉัน ตอนนี้ก็ยังมาแอบฟังเรื่องที่เรากำลังพูดกันอยู่อีก...” ป้าหันไปมองแอนน์ แบมืออย่างยอมแพ้ “ฮัสเคลล์ไม่เคยเป็นอย่างนี้เลยนะแอนน์ ปกติแล้วจะเป็นคนซื่อสัตย์แล้วก็พูดจาตรงไปตรงมาอย่างที่สุด ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าแกเกิดเป็นอะไรขึ้นมา”

แอนน์กระแอมไล่เสียงเบาๆ ขยับตัวอยู่ในเก้าอี้อย่างอึดอัด ทำให้เราต่างเงียบเสียงลง แอนน์เป็นสตรีร่างใหญ่ รูปร่างสูง แต่ก็ไม่คิดจะลดขนาดของตัวเองลง ทั้งนี้เพราะเธอมีสติปัญญาเป็นพรสวรรค์ในตัวอยู่แล้ว เธอเป็นผู้หญิงฉลาดรู้คำตอบในทุกปัญหา ประการสำคัญก็คือเธอมีพลังจิตในการสื่อสารที่เข้มแข็งมาก

“ฉันดีใจนะฮัสเคลล์ที่หนูมาคุยกับเราด้วย” แอนน์เอ่ยขึ้นอย่างใจเย็น “น่าเสียดายที่หนูไม่ได้เข้ามาก่อนหน้านี้...” เธอเหลือบตามองเท้าที่เปล่าเปลือยของฉันและรอยยิ้มอย่างรู้ทันก็ฉาบขึ้นบนริมฝีปาก แล้วก็พูดต่อ “ไม่เช่นนั้นแล้วหนูก็จะได้ยินฉันบอกกับเจสสีว่าฉันเห็นด้วยกับความคิดของหนู”

ฉันทิ้งตัวลงในเก้าอี้ตัวหนึ่ง มันเป็นโอกาสที่ฉันจะได้ร่วมพูดคุยถึงเรื่องของตัวเองแล้ว

“หนูยังไม่ได้ยินป้าเจสสีตอบคำถามของคุณเลยค่ะ”

“บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าป้าของหนูไม่รู้คำตอบก็ได้นี่ ฮัสเคลล์”

“ป้าต้องรู้ เพราะป้าเล่าให้หนูฟังไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งว่าป้ากับแม่เป็นพี่น้องที่สนิทกันมาก มันเป็นไปได้ยังไงคะที่แม่จะไม่ยอมเปิดเผยเรื่องอย่างนี้ให้พี่สาวคนที่แม่ทั้งรักทั้งบูชาฟังเลย ในเมื่อป้าเองก็ให้ความช่วยเหลือแม่อยู่ตลอดเวลา”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel