ร้อนรักคุณอามาเฟีย EP. 8
“ เดินมาหาฉันตรงนี้...มัสลิน ”
‘ เอ๋? ’ ‘ เขารู้จักชื่อเราได้ยังไง?’
มัสลินสีหน้าแปลกใจ แต่ถึงงั้นเด็กสาวก็ยอมเดินไปหามาเฟียหนุ่มอย่างว่าง่าย
“ ก็ดูไม่ดื้อเท่าไหร่หนิ ” คทาพูดขึ้นเบาๆ พลางหรี่ตามองเล็กน้อย
‘ เอ๋? ’ ‘ หมายถึงฉันรึเปล่าเนี่ย?’
เด็กสาวยืนอย่างกระมิดกระเมี้ยน เนื่องจากชุดยูนิฟอร์มนั้นแสนจะสั้น ไม่รู้จะเอามือมาปิดส่วนไหนดี ก็ใหญ่จนล้นมือไปเสียทุกสัดส่วนซะขนาดนี้
มาเฟียหนุ่มกวาดสายตามองเรือนร่างแซ่ปเอกซ์แตกอีกครั้งก่อนจะถอนลมหายใจออกมายาวๆ
ร่างหนาลุกพรวดขึ้นยืนก้าวท้าวเข้าไปใกล้เด็กสาวช้าๆ ดวงตาคมเปล่งประกายจ้องมองใบหน้าเนียนใสนิ่ง
มาเฟียหนุ่มขยับเข้าใกล้มัสลินจนจมูกโด่งรั้นได้กลิ่นกายสาว มันช่างหอมหวนยั่วน้ำลายซะเหลือเกิน
กลิ่นกายสดๆใหม่ๆ ที่เตะจมูกกระตุ้นอณูความอยากของชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี
เมื่อถูกจ้องมองในระยะประชั้นชิดขนาดนี้ มัสลินก็เกิดความประหม่าขึ้นมา ริมฝีปากอิ่มขบเม้มแน่น ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะรีบดึงสติตัวเองกลับมา
พรึ่บ!
เสื้อสูทราคาแพงถูกถอดออกมาคลุมตัวมัสลินทันที ก่อนชายหนุ่มจะกลับไปนั่งที่เดิมแล้วหันมาเอ่ยกับเธอสั้นๆ
“ ใส่ซะ ”
มัสลินพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะสวมเสื้อสูทตัวนั้นเข้าไปพลางคิดขึ้นในใจ
‘ เสื้อนี่หอมจัง กลิ่นน้ำหอมหรือว่ากลิ่นกายเขานะ?’ ไม่รู้แหละว่ากลิ่นอะไร จะกลิ่นอะไรก็ช่างเหอะรู้สึกดีชะมัด
มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มน้อยอย่างพอใจเมื่อเห็นมัสลินยอมใส่เสื้อสูทของเขาอย่างว่าง่าย
อันที่จริงมัสลินเองก็ตั้งใจจะไม่ทำงานนี้ตั้งแต่เห็นชุดยูนิฟอร์มแล้วแหละ ก็แหม..ชุดเด็กเสิร์ฟอะไรมันจะโป๊ได้ขนาดนี้
“ ซันส์..” มาเฟียหนุ่มหันไปเรียกรองผู้จัดการ
“ ครับนาย ”
“ นายเข้าไปเอาเอกสารของมัสลินที่สมัครงานวันนี้มาให้ฉันเดี่ยวนี้ ”
ได้ยินแค่นั้นแหละ ดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้างทันใดก่อนจะหันไปทางเพื่อนสาวที่สีหน้าก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก
“ ซวยแล้วไง! Eเอม ”
เอมมี่สบถออกมาเบาๆ แล้วก็คิดว่าไม่ได้ซวยคนเดียวแน่ๆ ผู้จัดการก็คงซวยไปด้วย ที่รับเด็กอายุไม่ถึง 18 เข้าทำงาน
“ รู้มั้ย...ว่าฉันเป็นใครมัสลิน? ”
มาเฟียหนุ่มถามสีหน้าเรียบเฉยพลางสายตาคมจับจ้องใบหน้าเนียนใสนิ่ง
“......”
มัสลินสีหน้าวิตกกังวลจนเห็นได้ชัด ก่อนจะก้มหน้าส่ายหัวเบา ๆ พลางหลบสายตามาเฟียหนุ่มที่กำลังจ้องมา
ระหว่างนั้นศรและนายเก่งผู้จัดการก็เดินเข้ามาพอดี มัสลินที่เงยหน้าขึ้น เห็นศรก็จำได้ว่าเป็นคนของน้องชายพ่อที่มารับเธอเมื่อวาน
ดวงตากลมใสเบิกกว้าง เด็กสาวหันควั่บมาทางมาเฟียหนุ่มทันที ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ คุณคืออาคทา? ”
“ รู้แล้ว...ก็นั่งลง..”
มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มก่อนจะสั่งให้เด็กสาวนั่งลงด้วยสีหน้าเรียบเฉย พลางส่งสายตาให้คนของเขาเอาเก้าอี้มาให้เธอนั่ง
มัสลินยอมนั่งแต่โดยดีก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองเก่งที่ตอนนี้สีหน้ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออก
“ เอ่อ...สะ..สวัสดีคับนาย ” เก่งเอ่ยน้ำเสียงสั่นใบหน้าฉายชัดถึงความหวาดกลัว
“ รู้ความผิดตัวเองมั้ย? ” คทาเอ่ยถามผู้จัดการที่ตอนนี้หน้าซีดเป็นไก่ต้ม
เก่งหันหน้าไปทางมัสลินที่นั่งเก้าอี้อยู่ข้างมาเฟียหนุ่ม ก็พอจะเดาได้ ก่อนจะตอบคำถามชายหนุ่ม
“ ครับ...ผมรับเด็กอายุไม่ถึง 18 เข้าทำงาน ” เก่งก้มหน้าตอบน้ำเสียงสลด
ในขณะนั้นเดียวกันนั้นเอง ซันส์ที่เข้าไปเอาเอกสารสมัครงานของมัสลินก็เดินกลับมาพอดีก่อนจะยื่นเอกสารนั้นให้กับศร
ศรเปิดเอกสารดูก่อนจะเอามันไปยื่นให้มาเฟียหนุ่ม
“ เอกสารสมัครงานของคุณหนูครับนาย ” มาเฟียหนุ่มรับเอกสารมา ชายหนุ่มเปิดอ่านดูเพียงครู่เดียวก่อนจะพูดขึ้นน้ำเสียงเย็นเยียบ
“ ความผิดของแก มันไม่ใช่แค่นั้น ”
“......”
เก่งสีหน้าฉงนขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินมาเฟียหนุ่มพูดมาแบบนั้น
“ แกไม่มีตารึไง? ก่อนจะรับใครเข้าทำงาน ”
“.......”
“ ทำไมไม่แหกตาดู ว่าเธอใช้นามสกุลใครอยู่? ”
พลั่ก!!
มาเฟียหนุ่มก่นด่าออกมาน้ำเสียงเกรี้ยวกราดพร้อมกับโยนเอกสารสมัครงานของมัสลินฟาดเข้าที่หน้าอกผู้จัดการที่กำลังสั่นกลัว
เก่งทั้งกลัวและทั้งงงในเวลาเดียวกันก่อนมือหนาที่กำลังสั่นเทาจะก้มลงเก็บเอกสารที่ตกอยู่กับพื้นขึ้นมาเปิดอ่านดูอีกครั้ง ก่อนที่จะนึกอะไรได้
เก่งดวงตาเบิกโพลง เมื่อเขานึกออกแล้วว่ามัสลินใช้นามสกุลของใคร
มันเป็นนามสกุลของมาเฟียหนุ่มนั่นเอง ในสมองเก่งตอนนี้คิดได้ประโยคเดียวเลย ‘ แม่ง!! ซวยชิฟ!!’
“ ฉันไล่แกออก!!..”
แล้วความคิดของเก่งก็มาเร็วเหมือนสายฟ้าแลบ เมื่อมาเฟียหนุ่มเอ่ยขึ้นน้ำเสียงเด็ดขาด
“ ห๊ะ! นายครับ...นายอย่าไล่ผมออกเลยนะครับ ”
“......”
“ ผมยอมให้นายทำโทษยังไงก็ได้ครับ ขอร้องอย่าไล่ผมออกเลยนะครับนาย ” เก่งทรุดเข่าลงกับพื้นอย่างรวดเร็วก่อนจะยกมือไหว้อ้อนวอนขอร้องมาเฟียหนุ่มด้วยน้ำตาคลอเบ้า
มาเฟียหนุ่มสีหน้านิ่งเฉยไม่ได้สนใจอะไร แต่ผิดกับเด็กสาวที่สีหน้าดูค่อนข้างจะตกใจและเห็นใจเก่งอยู่มาก เพราะรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องตกงาน
มัสลินหันหน้าไปสบตากับเพื่อนสาว เป็นเชิงถามในใจว่าควรจะช่วยเก่งยังไงดี
เอมมี่ได้แต่ส่ายหน้าให้เพื่อนไป ก็กลัวว่าจะโดนไล่ออกเหมือนกันจึงเลือกที่จะเงียบไว้ เพราะยังต้องหาเงินส่งตัวเองเรียน และงานที่นี่ได้เงินดีกว่าที่อื่น เธอจึงไม่อยากจะตกงาน มัสลินเห็นสีหน้าเพื่อนสาวก็พอจะเข้าใจ
เด็กสาวกำลังใช้ความคิด ว่าจะช่วยผู้จัดการยังไงไม่ให้เขาโดนไล่ออก แล้วอีตาคุณอานี่นิสัยยังไงก็ไม่รู้ด้วย จะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อนดี ไวกว่าความคิดก็ปากนี่แหละ
“ ทำไมคุณต้องไล่พี่เขาออกด้วยล่ะคะ? ” มาเฟียหนุ่มหันมาทางแม่หลานสาวทันที ก่อนจะเอ่ยตอบ
“ นามสกุลเจ้านายมันยังจำไม่ได้ จะเอามันไว้ทำไม ” คทาตอบคำถามน้ำเสียงเรียบ แต่ก็แปลกใจไม่น้อยที่เด็กสาวเริ่มที่จะกล้าเอ่ยถาม
“ ถ้าหนูไม่มาสมัครงานที่นี่ พี่เขาก็คงไม่เดือดร้อนใช่มั้ยคะ? ” เด็กสาวก้มหน้าลงกับความรู้สึกผิด
“ ทำไม?”
“......” เงียบ
“ รู้สึกผิด? ”
“......”
มัสลินรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ถ้าเธอไม่มาสมัครงานที่นี่ก็ไม่มีใครเดือดร้อน
“ มีอย่างที่ไหน..หลานสาวมาสมัครงานเป็นเด็กเสิร์ฟในผับของตัวเอง รู้ถึงไหนอายถึงนั่น..”
มาเฟียหนุ่มพูดพร้อมกับนัยน์ตายิ้มเย้ยจ้องมองที่เด็กสาวนิ่ง เขาจงใจพูดเสียงดังเพื่อให้พนักงานทุกคนได้ยินและรับรู้ถึงสถานะของมัสลิน
#########
