บท
ตั้งค่า

ร้อนรักคุณอามาเฟีย EP. 6

“ ลีลาว่ะ... เอามานี่เลย ฉันดูเอง..”

ยังไม่ทันที่คทาจะได้เปิดดู หมอสันต์ที่นั่งฝั่งตรงข้ามก็คว้าอัลบั้มที่วางตรงหน้าคทามาเปิดดูก่อน ปภาวินที่นั่งฝั่งเดียวกันกับหมอสันต์ก็เอียงหน้าเข้าไปดูด้วย

หมอสันต์เปิดอัลบั้มเพียงหน้าแรกดวงตาก็เบิกกว้างทันที ก่อนจะรีบเปิดทีละหน้าด้วยแววตาวาววับ ศรที่เห็นสีหน้าท่าทางของหมอสันต์ก็คลี่ยิ้มน้อยๆ ออกมา ผิดกับคทาที่มองเพื่อนด้วยสีหน้างุนงง

“ อื้อหือ.. ไอ้คทา แบบนี้ถ้าแกไม่เลี้ยง ฉันรับเลี้ยงเองนะโว้ย ” พึ่งเปิดดูไม่ทันจะครึ่งเล่ม หมอสันต์ก็เงยหน้าจ้องมองคทาก่อนจะเอ่ยขึ้นน้ำเสียงยั่วเย้า

“......”

สีหน้ามึนงงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคทา ก่อนที่คิ้วเรียวหนาจะขมวดชนกัน หมอสันต์เพ่งมองสีหน้าที่ดูงงๆของเพื่อนรักก่อนจะเอ่ยถามขึ้น

“ นี่อย่าบอกนะ ว่าแกยัง....”

คำถามถูกเอ่ยออกมาเพียงเท่านั้น ก่อนที่หมอสันต์จะเบนสายตาไปทางบอดี้การ์ดศร

“ หึ..นายยังไม่ได้ดูประวัติคุณหนูมัสลินครับ..”

ศรแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ อีกครั้ง ก่อนจะตอบหมอสันต์ ทำให้คทาต้องแปลกใจที่เห็นศรหัวเราะออกมาถึงสองครั้งสองหน

“ หึ..ควายเอ๊ย! เรื่องอื่นล่ะไว ”

“ เชี้ย! ด่าใครวะ?..”

หมอสันต์แค่นหัวเราะก้มหน้าส่ายไปมาเบาๆ ก่อนจะก่นด่าขึ้นน้ำเสียงลอยๆ ออกมา คทาที่ได้ยินก็เอ่ยสวนขึ้นทันที

“ ด่าลอยๆ หรือแกจะรับ? ” หมอสันต์ถามกลับสีหน้ากวนๆน้ำเสียงระรื่น

คทาหน้านิ่วคิ้วขมวด ก่อนจะเบนสายตาจับจ้องไปที่อัลบั้มในมือเพื่อนแทน มือหนาเอื้อมมือไปหมายจะคว้ามัน

“ เดี๋ยว..”

หมอสันต์ชักอัลบั้มในมือหลบมือของคทาที่กำลังเอื้อมมือมาอย่างรวดเร็ว

“ อะไรอีกวะ?..” คทาเริ่มชักสีหน้ารำคาญกับท่าทางยั่วยวนกวนบาทาของหมอสันต์

“ ถ้าแกไม่เลี้ยง ขอนะเว้ย?..” หมอสันต์เอ่ยสีหน้ายียวน

“ ไอ้นี่...เอามา ”

คทาเริ่มมีน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนเอื้อมมือไปเพื่อขออัลบั้มคืนจากเพื่อน

“ อ้ะ ๆ เอาไป ๆ หยอกนิดหยอกหน่อยทำเป็นขึ้น ”

เมื่ออัลบั้มมาอยู่ในมือคทา หน้าแรกก็ถูกเปิดออกอย่างไม่ค่อยใส่ใจ ทว่าคทาถึงกับนิ่งงันไปชั่วครู่ท่ามกลางสายตาบรรดาเพื่อนๆ และบอดี้การ์ดที่กำลังจับจ้องอยู่

มือหนาเปิดหน้าถัดไปอย่างตั้งใจผิดกับตอนแรก เขาเปิดดูจนถึงหน้าสุดท้ายโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำก่อนที่ศรจะยื่นเอกสารบางอย่างให้เขาอีกฉบับนึง

“ อะไรอีก?..”

คทาเงยหน้าขึ้นก่อนจะเอ่ยถามสีหน้ามีแววสงสัยพร้อมกับจ้องหน้าบอดี้การ์ดคนสนิทนิ่ง

“ ประวัติคุณหนูมัสลิน ที่ผมให้คนไปสืบมาเพิ่มเติมครับ ”

คทารับมาโดยง่ายแล้วเปิดอ่านอย่างไม่รีรอ สองหนุ่มที่กำลังจ้องมองคทาอยู่ก็กระตุกยิ้มพรายออกมา

คทาเปิดอ่านประวัติของมัสลินเพียงคร่าวๆ ใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับบอดี้การ์ดคนสนิท คนรู้หน้าก็ตอบคนเป็นนายทันที

“ ผมให้คนของเราประจำอยู่สี่คน กับรถอีกสองคัน รอให้นายไปรับคุณหนูด้วยตัวเองครับ ” คทาพยักหน้าก่อนจะหันมาทางโต๊ะอาหารก็เห็นว่าทุกสายตากำลังจับจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียว

“ มองอะไรวะ?..”

“ เปล๊า/เปล๊า..” สองหนุ่มตอบประสานเสียงสูงพร้อมกัน

“ กินเถอะหิวไส้จะขาดแล้ว ” ปภาวินรีบพูดกลบเกลื่อนก่อนที่ทุกคนจะเริ่มรับประทานอาหารกัน

แน่นอนว่าศรคนสนิทย่อมรู้ใจนายของตัวเองเป็นอย่างดีและรู้ว่าควรต้องทำยังไง เดิมทีศรเป็นบอดี้การ์ดของปภาวิน เมื่อสองปีก่อนศรได้รับบาดเจ็บปางตายจากเหตุการณ์ไล่ล่าชิงตัวรินรดา

หลังไอ้อสูรถูกคทาสั่งเก็บพร้อมสมุน ศรยังต้องเข้ารับการรักษาตัวนานถึง 6 เดือนกว่าจะหายเป็นปกติ ก่อนที่คทาจะขอตัวศรมาอยู่ด้วย

หลังทานอิ่มได้ไม่นานระหว่างที่เด็กรับใช้และแม่นุ่มกำลังเก็บจานบนโต๊ะอาหารอยู่ ศรก็เดินกลับมาอีกครั้งด้วยความเร่งรีบสีหน้าตื่นตรหนก

“ นายครับ ”

“ หน้าตื่นแบบนี้ มีอะไร? ” คทาขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าของศร

“ คุณหนูมัสลินหนีออกจากบ้านครับ เธอแอบเอารถออกไปเอง ”

“......”

“ ตอนนี้คนของเรากำลังขับตามหลังเธออยู่ห่างๆ เดี๋ยวคงจะรู้ว่าเธอกำลังจะไปที่ไหนครับ ”

ศรรายงานคนเป็นนายด้วยสีหน้ากังวลเพราะกลัวจะถูกตำหนิที่คนของเขาสับเพร่าปล่อยให้เด็กสาวหนีไปลำพัง

“ ยัยเด็กแสบ..” คทาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ

“ หึ..แบบนี้แกคงจะมีอะไรสนุกๆทำ ไม่น่าเบื่อว่ะ” ปภาวินเอ่ยขึ้นก่อนกระตุกยิ้มน้อยๆ

19 :35 น.

มัสลินขับรถไปรับเอมมี่ที่หน้าหอพัก แล้วตรงมายังผับหรูแห่งหนึ่งก่อนจะมาจอดที่ลานจอดรถด้านหลังของผับ แล้วพากันเดินเข้าไปด้านหลัง เอมมี่พามัสลินไปพบกับผู้จัดการ

“ นามสกุลหนูอ้อนนี่ดูคุ้นๆจัง แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเป็นนามสกุลใคร ” เก่งผู้จัดการผับที่กำลังอ่านเอกสารสมัครงานของมัสลินก่อนเอ่ยพึมพำออกมาเบาๆ

“......”

“ ถ้าใครถามต้องบอกว่าอายุ 18 แล้วเข้าใจมั้ย? ”

ผู้จัดการถอนลมหายใจออกมา ก่อนจะเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเอกสารสมัครงานของมัสลิน

“ เข้าใจค่ะ ”

มัสลินตอบอย่างเข้าใจ เพราะรู้อยู่แล้ว ว่าอายุ17ไม่มีที่ไหนรับเธอเข้าทำงานแน่ๆ

“ ยัยเอมมี่..แกจะทำพี่เดือดร้อนรู้ตัวมั้ย? ”

ผู้จัดการหันไปต่อว่าเอมมี่ ที่ไม่บอกก่อนว่ามัสลินอายุยังไม่ถึง 18 ปี

“ โธ่..พี่เก่ง ถือว่าช่วยน้องนะๆๆ เพื่อนเอมมันอยากทำงาน พ่อแม่มันพึ่งเสียไป ต้องหาเงินมาจ่ายค่าเทอม ”

“......”

“ อีกแค่ 3-4 เดือนเพื่อนเอมมันก็จะครบ 18 แล้วนะพี่ นะๆๆ พี่เก่ง....” เอมมี่พูดน้ำเสียงออดอ้อน

“ เออๆๆ ดูแลกันให้ดีล่ะ พาไปเบิกชุดทำงาน แล้วสอนงานให้เพื่อนด้วย ”

“ รับทราบค่ะผู้จัดการ...ขอบคุณมากนะคะพี่เก่ง ”

เอมมี่ตอบน้ำเสียงดีใจพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะพามัสลินออกไปเบิกชุดทำงาน

บอดี้การ์ดที่ตามเข้ามาก็เห็นว่ามัสลินเดินออกจากห้องผู้จัดการ จึงเข้าไปสอบถาม ก่อนจะออกมาโทรรายงานให้ศรทราบ

คทา ปภาวิน และหมอสันต์ สามมาเฟียหนุ่มกำลังนั่งดื่มกันในสวนด้านหลังของบ้าน ที่สร้างขึ้นเป็นเรือนกระจกขนาดย่อมกลางสวนดอกไม้

พวกเขาชอบดื่มด้วยกันที่นี่ เนื่องจากมันปลอดภัยที่สุดสำหรับชีวิตมาเฟียอย่างพวกเขา

และคนออกแบบจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากรินรดา เรือนกระจกขนาดย่อมๆ ที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้สามารถจุคนได้อย่างน้อย 20 คนแบบสบายๆไม่อึดอัด

ด้วยประสบการณ์ที่รินรดาเจอมากับตัวเองตอนถูกลักพาตัวจนเธอต้องสูญเสียลูกในท้องไป ในเมื่อต้องมีสามีเป็นมาเฟียเธอก็จำเป็นต้องปรับตัว

ฉะนั้นเรือนกระจกนี้โครงสร้างนั้นเป็นเหล็กแกร่งที่แข็งแรงที่สุด กระจกรอบด้านมีฟิล์มกันกระสุนอย่างหนาถึง7ชั้น ไม่ว่าจะเป็นไรเฟิลชนวนไหนก็ยิงไม่ทะลุ หรือจะเป็นสไนเปอร์ฝีมือดีแค่ไหนก็ไม่มีทางยิงเข้า

ระหว่างที่สามหนุ่มกำลังดื่มกันได้ที่ ศรก็เดินเข้ามาเงียบๆ ก่อนจะเอ่ยกับคทา

“ นายครับ...รู้แล้วครับว่าคุณหนูมัสลินเธอไปที่ไหน ”

คทาเงยหน้าขึ้นช้าๆพลางหรี่ดวงตา ก่อนจะยกคิ้วเพื่อรอสิ่งที่ศรกำลังจะเอ่ยต่อ

########

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel