ร้อนรักคุณอามาเฟีย EP. 4
“ อ้อนมีแพลนจะเรียนต่อที่ไหนรึเปล่าครับ มีไว้ในใจหรือยัง? ” ต้นกล้าเอ่ยถามมัสลินน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้ม
“ อ้อนมันชอบคณะบริหารค่ะพี่ต้น ” คนที่ตอบไม่ใช่มัสลินแต่กลับเป็นเอมมี่ที่ตอบแทนเพื่อน
“ จริงเหรอครับ งั้นก็เรียนที่เดียวกับพี่ก็ได้นี่ ”
“ ตอนแรกอ้อนก็แพลนไว้แบบนั้นแหละค่ะ แต่ตอนนี้อ้อนคงต้องเปลี่ยนมหาลัยค่ะ ” แม้มัสลินจะพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ แต่ทว่านัยน์ตากลับดูเศร้าหมอง
“ อ้าว...ทำไมล่ะ? ”
“ ตอนนี้อ้อนไม่มีพ่อกับแม่แล้ว คงจะเรียนมหาลัยแพงๆ ไม่ได้แล้วล่ะค่ะ อ้อนคงต้องทำงานไปด้วยแล้วก็เรียนไปด้วยค่ะ ” มัสลินตอบน้ำเสียงมุ่งมั่น แต่ทว่าแววตากลับฉายความเจ็บปวด
“ ทำงาน!? ” ต้นกล้าเอ่ยขึ้นน้ำเสียงตกใจ ก่อนหัวคิ้วหนาจะเลื่อนมาชนกัน
“ ค่ะ ”
“ แล้วอ้อนจะทำงานที่ไหน? ”
“ ก็ทำที่เดียวกะเอมนี่แหละค่ะ เอมคุยกับผู้จัดการไว้แล้ว พรุ่งนี้เขาให้เริ่มงานได้เลยค่ะ ” แล้วก็เป็นเอมมี่อีกตามเคยที่เป็นคนตอบคำถามแทนมัสลิน
“ จะดีเหรอเอม ให้อ้อนไปทำงานแบบนั้น พี่ไม่เห็นด้วยเด็ดขาด..”
ต้นกล้าเอ่ยน้ำเสียงเคร่งเครียด ชักสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะเอ่ยออกมา
“แบบนั้น.. แบบไหนคะพี่ต้น? พูดให้มันดีๆ นะ ”
เอมมี่ชักสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันทีที่ต้นพูดออกมาน้ำเสียงราวกับดูถูกงานที่เธอทำ
“ อย่าพึ่งเข้าใจพี่ผิดสิเอม...พี่หมายถึงอ้อนยังไม่มีประสบการณ์ ”
“.....”
“ อย่างเอมน่ะ เอาตัวรอดได้พี่รู้ แต่อ้อนสิ พี่เป็นห่วง ”
“ ก็เพราะแบบนี้ไง เอมถึงให้มาทำที่เดียวกะเอม ”
“......”
“ อย่างน้อยก็ยังอยู่ในสายตาเอม.. เอมดูแลเพื่อนของเอมได้ค่ะ ” เอมมี่ตอบอย่างมั่นใจ
“ ยังไงพี่ก็ไม่เห็นด้วยนะเอม ”
ต้นกล้าเอ่ยขึ้นน้ำเสียงหงุดหงิดใจ ก่อนทั้งคู่จะเบือนหน้าหนีไปคนละทาง เหลือทิ้งไว้แต่ความเงียบ
“ อย่าเถียงกันเพราะอ้อนเลยค่ะ ” มัสลินเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเงียบงัน
“.....” เอมมี่ยังคงนิ่งเงียบสีหน้าบึ้งตึง
ต้นกล้าสีหน้าครุ่นคิด ถ้าจะให้มัสลินไปทำงานผับเขาก็ห่วง ยังไงผับก็เป็นสถานที่อโคจร
“ เฮ่อ...อ้อนแค่อยากลองทำดูก่อนค่ะ ถ้าอ้อนทำไม่ได้ ก็แค่หางานอื่น ”
มัสลินถอนลมหายใจก่อนเอ่ยขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นทั้งคู่ยังคงเงียบ
“ เอาอย่างนี้มั้ย อ้อนไปทำงานที่บริษัทคุณพ่อพี่ ทำแค่วันเสาร์อาทิตย์ก็พอ พี่จะคุยกับท่านให้ ”
“ อย่าเลยค่ะพี่ต้น อ้อนเกรงใจ”
“ จะต้องเกรงใจทำไม สำหรับอ้อนพี่ยินดีเสมออ้อนก็รู้นี่ ”
“.....”
“ นะอ้อน ”
“ อ้อนขอลองทำที่นี่ดูก่อนนะคะพี่ต้น ถ้าทำไม่ได้อ้อนจะบอกพี่ต้นค่ะ”
“ ก็ได้ครับ แต่ถ้าอ้อนเปลี่ยนใจ ต้องรีบบอกพี่ทันทีนะครับ ”
“ ค่ะพี่ต้น ขอบคุณมากนะคะ” ต้นกล้าจำต้องยอมรับการตัดสินใจของมัสลินทั้งที่ใจอยากจะห้ามแค่ไหนก็ทำไม่ได้ เพราะยังไงก็ไม่มีสิทธิ์ไปบังคับเธอได้
หลังทานหมูกะทะอิ่มต้นกล้าก็ขออาสาขับรถตามหลังมัสลินเพื่อไปส่งถึงบ้าน โดยอ้างเหตุผลว่ามัสลินยังขับรถไม่แข็ง บวกกับเอมมี่ก็สนับสนุนเต็มที่ มัสลินจำต้องยอมให้ต้นกล้าไปส่งแต่โดยดี
รถยนต์สองคันขับแล่นตามกันมาจนมาถึงประตูรั้วบ้านหลังใหญ่ แต่มัสลินก็ต้องแปลกใจเมื่อมาถึงก็เห็นว่าประตูรั้วนั้นเปิดรออยู่แล้ว ปกติทุกวันเด็กสาวจะต้องลงไปเปิดประตูรั้วด้วยตัวเองเพราะไม่ได้จ้างคนงานแล้ว
มัสลินขับรถแล่นเข้าไปข้างในก็ยิ่งแปลกใจเมื่อเห็นรถเก๋งสีดำยี่ห้อดังสามคันจอดเรียงรายอยู่หน้าบ้าน ‘ รถใครกัน ’ เกิดคำถามขึ้นในใจมัสลิน
เมื่อรถจอดสนิทในที่จอดรถ ทันทีที่มัสลินก้าวเท้าลงจากรถก็เห็นว่าป้าแป้นกำลังเดินมาหาเธอ
“ รถใครหรือคะป้าแป้น?..” มัสลินรีบเอ่ยถามป้าแป้นทันที
“ คนของคุณคทาค่ะ บอกว่ามารับตัวคุณหนู ”
เมื่อได้ยินคำตอบ มัสลินมองเข้าไปในบ้าน สีหน้าดื้อดึงก็ปรากฏฉายชัดบนใบหน้าสวยทันที
“ มีอะไรรึเปล่าครับอ้อน ”
น้ำเสียงเป็นห่วงของต้นกล้าที่ถือวิสาสะขับรถตามมัสลินเข้ามาในบ้าน เพราะเขาเองก็เห็นบางอย่างผิดสังเกตุจึงรีบลงจากรถตามมา
“ ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่ต้น คนของน้องชายคุณพ่อน่ะค่ะ อ้อนจัดการเองได้ค่ะ”
“......”
“ พี่ต้นกลับเถอะค่ะ ขอบคุณพี่ต้นมากนะคะที่มาส่งอ้อน ”
“ ให้พี่อยู่ก่อนเถอะครับ เผื่อมีอะไร พี่เป็นห่วง”
“......”
“ นะครับ..” ต้นกล้าเอ่ยน้ำเสียงอ้อนวอน
“ ก็ได้ค่ะ..”
เมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของต้นกล้า มัสลินเลยไม่กล้าที่จะปฏิเสจจำต้องยอมให้เขาอยู่
มัสลินเดินเข้าไปในบ้านตรงไปยังห้องรับแขกทันที เห็นชายฉกรรจ์ 6 คน โดยยืนอยู่ทั่วห้องรับแขก 5 คน อีก 1 คนนั่งอยู่โซฟารับแขก กำลังเปิดอัลบั้มรูปของครอบครัวแสงไทดูอยู่
เมื่อทุกคนเห็นมัสลินเดินเข้ามาต่างมายืนรวมกันอยู่ด้านหลังชายหนุ่มวัยกลางหนุ่มกลางแก่ที่กำลังลุกจากโซฟารับแขก
มัสลินจ้องมองคนเหล่านี้ ก็พานให้รู้สึกขนลุก แอบคิดอยู่ ในใจ ว่าคนพวกนี้ดูน่ากลัวอย่างกับมาเฟียในหนังยังไงอย่างงั๊น
“ คุณหนูมัสลินใช่มั้ยครับ? ”
และคนที่เอ่ยถามก็คือศร บอดี้การ์ดคนสนิทของคทาที่ได้รับมอบหมายให้มาจัดการเรื่องนี้
“.......”
เพียงแค่มัสลินพยักหน้าตอบ บอดี้การ์ดทุกคนรวมถึงศรต่างค้อมตัวลงคล้ายกับโค้งคำนับ ดวงตาคู่สวยฉายชัดความแปลกใจ
มัสลินเบิกตามองการกระทำของเหล่าบอดี้การ์ดอย่างตะลึงลาน ป้าแป้นและต้นกล้าเองก็เช่นเดียวกัน
“ นายให้ผมมารับคุณหนูมัสลินครับ”
“ นาย?..”
แล้วก็ต้องแปลกใจเข้าไปอีก เมื่อคนตรงหน้าเอ่ยถึงบุคลที่สามโดยใช้สรรพนามเรียกว่า‘นาย’จนเด็กสาวต้องเอ่ยทวนถามขึ้น
“ ครับ หมายถึงคุณคทา อาของคุณหนูมัสลิน ” มัสลินพยักหน้ารับรู้ก่อนจะตอบ
“ พวกคุณกลับไปเถอะค่ะ หนูไม่ไปหรอก หนูดูแลตัวเองได้ค่ะ ”
“ คงไม่ได้ครับ นายได้รับหนังสือมอบอำนาจสิทธิ์เลี้ยงดูคุณอย่างถูกต้อง กรุณาไปกับผมเถอะครับ”
“ ไม่ค่ะ หนูขอยืนยันคำเดิม หนูจะไม่ไปไหนทั้งนั้นค่ะ พวกคุณกลับไปเถอะ ” มัสลินตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว
“.......”
ศรเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ เด็กสาวที่อายุเพียง 17 บอกดูแลตัวเองได้ ดูท่าคงจะดื้อไม่เบาสินะ
‘ ดื้อแบบนี้คงต้องเจอกับนายแล้วล่ะมั้ง ’ ศรคิดในใจ
“ วันนี้มันอาจจะกะทันหันไป เพราะไม่ได้แจ้งล่วงหน้า”
“......”
“ เอาไว้ให้นายเป็นคนมารับคุณหนูด้วยตัวเอง ผมจะแจ้งมาอีกครั้งแล้วกันนะครับ ” ศรพูดจบก็ค้อมตัวลงก่อนจะเดินออกจากห้องรับแขกไป
“ ไม่ต้องหรอกค่ะ ยังไงหนูก็จะไม่ไปกับคุณ...”
มัสลินรีบเอ่ยยืนยันคำตอบเดิม ก่อนที่ศรจะทันได้เดินออกไป
#########
