ตอนที่ 4
คมกริชแวะมาเยี่ยมพี่ชายและพี่สะใภ้ในตอนสายของวันหยุดพักผ่อน เด็กชายตัวน้อยส่งเสียงดังลั่นสร้างความสุขสดชื่นให้กับทุกคนที่อยู่รอบข้างได้เป็นอย่างมาก สองพี่น้องคุยกันเรื่องงานสักพักใหญ่ก่อนที่พี่ชายจะเอ่ยถามถึงภาสินี
"ไปร้านคุณแพทมาหรือยัง"
"ไปมาแล้ว คุณแม่ให้ไปดูขนมที่จะเอาเลี้ยงแขกในงานวันเกิดเดือนหน้า"
คมกริชไม่ได้เล่ารายละเอียดว่าไปทำอะไรไว้ที่ร้านของภาสินีบ้าง เพราะหลังจากวันที่ไปก่อกวนประสาทเจ้าของร้านคนสวยให้โมโหแล้วนั้น เขาก็ติดภารกิจงานที่บริษัทและยังไม่ได้มีโอกาสกลับไปอีกเลยจนกระทั่งวันนี้
"ใครไปร้านยัยจุ้นมาเหรอครับ" คมกริชถามเมื่อเห็นเกษราถือกล่องขนมที่จำได้ว่าเป็นของร้านภาสินี
"ไม่มีใครไปค่ะ คุณแพทแวะเอาขนมมาให้เมื่อคืนนี้" เกษราพูดพลางตักขนมเค้กใส่จานเล็กให้สามีพร้อมกับกาแฟ
"มาเมื่อไร ไม่เห็นมีใครบอก" คมกริชบ่นเบาๆ แล้วยกกาแฟขึ้นจิบ
"เป็นอะไรคะ คุณกริช" เกษราถามด้วยความตกใจ เมื่อเห็นคมกริชวางถ้วยกาแฟลงด้วยสีหน้าไม่สู้ดีสักเท่าไร
"มันหวานไป สงสัยน้องเกดคงลืมว่าพี่ไม่กินกาแฟหวาน"
ทำไมนะ เขาถึงคิดถึงกาแฟแก้วนั้นขึ้นมาทันที รสชาติมันก็ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษ แต่วันนี้กลับรู้สึกอยากจะกินมันอีก คมกริชพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกในใจบางอย่างไม่ให้ใครสังเกตเห็น ก้มหน้าก้มตาดื่มกาแฟแก้วที่เกษราชงให้จนหมด
"น้ำตาลหนึ่งกาแฟสอง ก็ถูกนี่คะ เกดจำได้" เกษรามั่นใจว่าชงตามนี้ไม่ผิดแน่ และทุกครั้งที่ชงให้คมกริชก็มีแต่บอกว่าอร่อยถูกปาก เพิ่งมีครั้งนี้นี่แหล่ะ ที่บอกว่าหวานไป
"ไม่เป็นไรครับ น้องเกดไม่ต้องชงใหม่หรอก พี่กินได้"
"ลองนี่ค่ะเค้กร้านคุณแพทอร่อยมาก นี่เห็นว่าจะขยายสาขาไปเปิดในห้างด้วย" เกษราตักขนมเค้กใส่จานเล็กยื่นให้คมกริช
"ขายดีขนาดนั้นเชียวเหรอครับ ขายในห้างค่าที่เดือนเท่าไร" คมกริชคำนวนค่าใช้จ่ายในใจแล้วก็ส่ายหน้า ไม่คิดว่าร้านขนมของหญิงสาวจะมีรายได้พอที่จะจ่ายค่าเช่าเดือนละเป็นหลักหมื่นได้
"นายไม่รู้อะไรเสียแล้ว ขนมร้านคุณแพทขายดีมาก รับออร์เดอร์ไม่หวาดไม่ไหว" วัชระยืนยันอีกคน
"คิดยังไงมาทำขนมขาย หรือว่าว่างจัดเอาเงินพ่อแม่มาผลาญเล่น ทำสนุกไปวันๆ" คมกริชยังติดใจว่าอะไรเป็นสาเหตุให้ภาสินีคิดมาทำขนมพวกนี้ขาย
"ทีแรกคุณแพทก็ไม่คิดจะทำจริงจังหรอก เห็นบอกว่าตอนอยู่ที่อังกฤษ รูทเมททำให้กินทุกวันก็เลยสงสัยว่ามันอร่อยตรงไหน พอได้ไปลองทำออกมารสชาติอร่อยก็เลยติดใจ ที่นี่แทนที่จะลงเรียนในสาขาที่ตั้งใจไว้แต่แรก ก็เลยเปลี่ยนเป็นไปเรียนทำขนมแทน แล้วรู้ไหมว่าเปิดร้านมาปีกว่าแต่มีขาประจำเพียบ ที่สำคัญเงินที่คุณหญิงลงทุนให้ก็คืนกลับมาตั้งแต่ปีแรกแล้วด้วยซ้ำ" วัชระพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชม
"ตอนมาปรึกษาคุณวัชว่าจะลงทุนทำร้านขนม เกดยังตกใจเลยค่ะ แต่พอเอาเข้าจริงขายดีมาก น่าภูมิใจแทนนะคะ" เกษราชื่นชมอีกคน
"ขายดียังไง ถ้าไม่ได้ทำเองก็เท่านั้น จ้างลูกจ้างก็คงไม่เหลือกำไรมากหรอก ลูกจ้างเอากำไรไปกินหมด" คมกริชไม่คิดว่าขนมอร่อยพวกนี้จะเป็นฝีมือของภาสินีจริงๆ
ถึงเจ้าหล่อนจะไปร่ำเรียนมาไกลถึงอังกฤษ แต่การทำขนมให้อร่อยต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและการฝึกฝน เท่าที่จำได้และเห็นกันมานาน คมกริชไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าภาสินีจะมีความชอบหรือความรู้ในสิ่งเหล่านี้ เรื่องเดียวที่เห็นชัดเจนในตัวเจ้าหล่อนก็คือ ชี้นิ้วสั่งคนอื่น นั่นแหล่ะงานถนัดเลย
"ใครว่าคุณแพทไม่ได้ทำ ขนมทุกอย่างคุณแพททำเองกับมือ ลูกจ้างสองคนนั่นแค่มาเป็นลูกมือเท่านั้น"
"อะไรนะครับ" คมกริชแทบจะสำลักเค้ก เมื่อได้ยินสิ่งที่พี่ชายพูด
"ยัยจุ้นทำเองทุกอย่างเลยเหรอ"
"ค่ะ ทำเองหมด" เกษรายืนยันอีกคน
"ไม่เชื่อหรือไง ถามเกดดูก็ได้บางวันยังถูร้านเองด้วยซ้ำ ถ้าลูกน้องทำงานไม่ทัน"
"ก็ดีครับ หัดทำอะไรเองซะบ้างจะได้เลิกชี้นิ้วสั่งคนอื่น"
คมกริชไม่คิดว่าสิ่งที่ใครต่อใครพูดจะเป็นเรื่องจริง ก็เมื่อวันก่อนเขาเพิ่งเห็นเจ้าหล่อนหลบงานไปทำอะไรในห้องส่วนตัวหลังร้าน ปล่อยให้ลูกน้องทำงานงกๆ รับแขกอยู่แค่สองคนเท่านั้น
"นายนี่มันเป็นอะไรกับคุณแพทนักหนานะ ชอบว่าเธออยู่เรื่อย"
วัชระไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมคมกริชถึงได้ไม่ยอมลงให้กับภาสินีตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว สองคนเหมือนศรศิลป์ไม่กินเส้นกันทั้งๆ ที่น่าจะพูดกันรู้เรื่องตามวัยที่ใกล้กัน แต่กลายเป็นว่าภาสินีกลับมาติดเขามากกว่า อะไรๆ ก็คุณวัชทำให้
เพราะความที่ไม่มีน้องสาวทำให้วัชระยอมตามใจภาสินีเสียทุกเรื่อง และไม่ว่าหญิงสาวจะขอร้องหรือขอความช่วยเหลืออะไรก็ตามแต่ หากทำได้เขาก็ยินดีที่จะมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรม
"ผมไม่ได้ว่า ที่พูดเพราะหวังดีอยากให้ทำอะไรด้วยตัวเองได้ ไม่ใช่ดีแต่สั่งคนอื่นให้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ" คมกริชแก้ต่าง
"ถ้างั้นก็มองเสียใหม่ ตอนนี้คุณแพทโตแล้วถึงขนาดเป็นเจ้าของกิจการตัวเองได้ เพราะงั้นนายเลิกว่าเสียทีไอ้เรื่องชี้นิ้วสั่งคนอื่นเนี่ย"
"ครับๆ ผมไม่แตะต้องน้องสาวคนโปรดพี่ก็ได้ แต่จะคอยดูว่าจะทำได้สักกี่น้ำเชียว ไอ้ร้านขนมแสนอร่อยเนี่ย" คมกริชประชดในทีด้วยความหมั่นไส้ ดูเหมือนว่าแม่จอมจุ้นจะเป็นคนโปรดของทุกคนในบ้านไอยสุวรรณไปเสียแล้ว
เพราะฝีมือการชงกาแฟของเกษราเปลี่ยนไป หรือเพราะหัวใจของคมกริชโหยหารสชาติกาแฟจากร้านของใครบางคนกันแน่ ทำให้บ่ายนี้เขาขับรถมาจอดที่หน้าร้านของภาสินีอีกครั้ง ตั้งใจว่าวันนี้จะมาหาขนมอร่อยกินกับกาแฟสักแก้ว และจะแนะนำวิธีเพิ่มยอดขายร้านกาแฟให้มากขึ้นกว่านี้
แต่ความคิดและอารมณ์ดีของคมกริชต้องหมดสิ้นลง เมื่อเปิดประตูร้านเข้าไปเห็นภาสินีนั่งคุยอยู่กับใครคนเดิมที่โต๊ะตัวเดิม มันทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าหลายวันที่ยุ่งอยู่กับงานที่บริษัทนั้น เจ้าหล่อนและไอ้หมอนี่นั่งคุยกันเช่นนี้ทุกวันหรือเปล่า
ชายหนุ่มเลือกโต๊ะมุมตรงข้ามที่ภาสินีนั่งอยู่กับพีระ จงใจหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านแต่ความจริงแล้วลอบสังเกตพฤติกรรมของทั้งสองตลอดเวลา เขาแทบจะลุกขึ้นไปไล่ไอ้หมอนั่นให้ไปพ้นๆ หน้า เพราะแสนจะขัดหูขัดตาเมื่อเห็นเจ้าของร้านคนสวยก้มหน้าเข้าไปหา กระซิบกระซาบชี้ชวนให้ดูโน่นนี้อย่างใกล้ชิด
ไม่เพียงเท่านั้นแสนจะหมั่นไส้ภาสินีเหลือเกิน ทีกับเขานั้นเจ้าหล่อนทำพูดจาไม่อยากอยู่ใกล้ไล่ให้ไปไกลๆ แต่ละคำไม่รักษาน้ำใจกันเลย แต่ทีกับคนอื่นหัวเราะยิ้มร่ามีความสุข ทั้งที่คมกริชและเธอรู้จักกันมานานกว่าคนที่แม่เจ้าประคุณยิ้มหวานให้เสียอีก
คมกริชรู้ดีว่าภาสินีชอบคนตามใจ แน่นอนล่ะ มันไม่ใช่นิสัยของคมกริช ถึงแม้ว่าเมื่อแรกรู้จักเจ้าหล่อนจะตามติดเขาแจแทบจะเป็นเงาตามกัน
แต่เมื่อโตขึ้นนิสัยช่างสั่ง ความวุ่นวายโน่นนี่ของเจ้าหล่อนทำให้ชายหนุ่มมักจะมีคำตำหนิต่อว่าและไม่ตามใจทุกเรื่อง ภาสินีจึงเปลี่ยนคนติดแจไปหาวัชระ แน่นอนว่าพี่ชายสุดที่รักตามใจแม่น้องสาวนอกไส้ทุกเรื่อง และในบางครั้งก็กางปีกปกป้องยามที่เขาขัดใจ
