ตอนที่ 5 ชะตาที่เปลี่ยน[1]
หวายซีแอบกลับเข้ามาในจวน ตรงไปยังเรือนของญาติผู้น้อง เปลี่ยนชุดเรียบร้อยถึงได้แอบกลับมายังเรือนของตัวเอง
แต่ก่อนทีจะเปิดประตูเข้าไป นางเกิดนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ขาเรียวจึงเปลี่ยนทิศทางไปยังห้องนอนของสาวใช้คนสนิท
แอ๊ด... ประตูถูกผลักออกช้า ๆ ความมืดมิดภายในทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดนัก คุณหนูคังสาวเท้าไปทางเตียงนอนของอันย่า ลองวางฝ่ามือทาบลงไปบนฟูก สัมผัสเย็นชืดบ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าของห้องออกไปนานแล้ว
ฝ่ามือเรียวที่แบอยู่บนฟูกกำแน่น
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ หากจะบอกว่าไม่ผิดหวังเสียใจ ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ หวายซีกลับออกจากห้องของสาวใช้ ตรงไปยังห้องของตนเอง คิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา
นางและอันย่า ต่างก็มีวรยุทธทั้งคู่ ถึงแม้จะไม่สูงส่งแต่ก็พอเอาตัวรอดได้ นานเท่าไหร่แล้วที่อันย่าแอบออกไปข้างนอก และไปทำไม ไปที่ไหน
หรือว่าจะเป็น.... อู่เหินไทจื่อเองก็น่าจะเคยไปที่นั่นกระมัง
หวายซีคาดเดาได้ไม่ผิดนัก ในหอแพรม่วง ทั้งอันย่าและองค์รัชทายาทต่างก็อยู่ที่นี่
ด้วยความฉลาดเฉลียวของอันย่า เมื่อนางเกิดต้องใจกับชายหนุ่มที่อาราม ทำให้นางออกมาค้นหาคนผู้นั้นในที่ที่บุรุษมักชอบมากัน แม้จะสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า แต่นางก็ยังตามหาจนเจอ
อันย่าแสร้งเมามายเข้าห้องผิด ล้มลงไปทับร่างบุรุษที่กำลังเอนกายพิงหมอนสามเหลี่ยม จนหน้ากากของนางล่วงหล่น ซ้ำยังพยายามยันตัวลุกขึ้นอย่างสะเปะสะปะ บดเบียดเต้าอวบอิ่มเข้ากับแผงอกกำยำ
"ว้าย! ตายแล้ว!" จนทำให้สตรีของหอแพรม่วงที่กำลังปรนนิบัติกรีดร้องด้วยความตกใจ คิดจะผลักร่างของแขกไม่ได้รับเชิญออก แต่กลับถูกหยุดด้วยฝ่ามือหนา
ซินอู่เหิน เห็นใบหน้างดงามแดงระเรื่อ ก็จดจำนางได้ ในหัวคิดย้อนไปถึงเด็กสาวอีกคนในอาราม หากจำไม่ผิด หญิงงามในชุดบุรุษผู้นี้คือสาวใช้ข้างกายว่าที่ชายาของเขา
สาวใช้อยู่ทีนี่ แล้วผู้เป็นนายเล่า? มุมปากภายใต้หน้ากากยกยิ้มอย่างนึกสนุก ส่วนลึกในใจแอบวาดหวัง ว่าสตรีที่พระองค์กำลังจะตกแต่งด้วยจะไม่น่าเบื่อเหมือนสตรีทั่วไป
วงแขนช้อนประคองร่างสะโอดสะองให้ลุกนั่ง ก่อนจะเชยคางเรียวให้เงยหน้าขึ้น นิ้วโป้งเกลี่ยไล้ริมฝีปากสีแดงอวบอิ่มไปมาเบา ๆ
แม้จะหลับนอนกับสตรีมากมาย แต่ซินอู่เหินยังมิเคยมอบจุมพิตให้ผู้ใดเลยสักคน กระทั่งหญิงงามตรงหน้าก็ไม่มีข้อยกเว้น สายตามองต่ำลงไปยังหน้าอกที่ถูกรัดไว้แน่นหนา
"เจ้าออกไปก่อน"
หญิงงามของหอแพรม่วงนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำสั่ง ก่อนจะก้าวออกจากห้องด้วยความไม่พอใจ
เมื่อเหลือเพียงชายหนุ่ม อันย่าถึงได้ทำทีเป็นรู้สติ ยกมือจับใบหน้าตนเองด้วยความตกใจ ทำท่าจะผละออก "ขะ..ข้าขออภัย"
"อ๊ะ!" แต่เอวคอดกิ่วกลับถูกรั้งเอาไว้
"เจ้าหลงเข้ามาในห้องของข้า แล้วคิดจะออกไปง่ายๆ เช่นนั้นหรือ?"
"ขออภัย ข้าดื่มมากไปหน่อย คุณชายท่านปล่อยข้าเถิด" ดวงตาปรือปรอยมองสบตาคม ด้วยท่าทางออดอ้อน
"ข้าจะปล่อยเจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องตอบคำถามข้าเสียก่อน"
"ท่านต้องการถามสิ่งใด?"
"คุณหนูของเจ้าอยู่ที่ใด"
คำถามนี้ทำให้อันย่าถึงกับชะงัก คิ้วขมวดเล็กน้อย ทางหนึ่งนางรู้สึกดีใจที่เป็นคนผู้นี้ไม่ผิดตัว แต่อีกทางหนึ่งนางไม่ค่อยพอใจที่อีกฝ่ายถามหาผู้เป็นนาย
"ท่านเป็นใคร?" น้ำเสียงจึงแข็งกระด้างโดยไม่รู้ตัว
"พวกเราเคยเจอกันที่อาราม" ไท่จื่อไม่ได้คิดปิดบัง เพราะรู้ว่าสาวใช้นางนี้ไม่มีวันจะพูดออกไปเป็นแน่ "เจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามของข้า"
อันย่าแทบไม่อยากจะเชื่อ ว่าคนผู้นี้จะสนใจคุณหนูผู้จืดชืดของนางถึงเพียงนี้
"ข้าแอบหนีมาคนเดียว คุณหนูของข้าไม่มีวันจะมาในสถานที่เช่นนี้ อย่าว่าแต่ที่นี่เลย นางไม่มีวันที่จะกล้าออกจากจวนส่งเดช"
อู่เหินจับน้ำเสียงความไม่พอใจของเด็กสาวได้ จึงไม่คิดจะเอ่ยให้มากความ ฝ่ามือขยับอย่างรวดเร็วปลดผ้าคาดเอวของนางออก
"อ๊ะ! นี่ท่านจะทำอะไร หยุดนะ!"
"หึหึ ไม่ใช่ว่าเจ้าตั้งใจมาเพราะเรื่องนี้หรอกหรือ?"
ถ้าหากซินอู่เหินเป็นตัวโง่งมจริง ก็คงจะไม่ได้เป็นรัชทายาทอย่างทุกวันนี้ อุบายตื้นๆ ของเด็กสาวมีหรือว่าเขาจะมองไม่ออก
