ตอนที่ 3 หอโคมเขียว[2]
ส่วนคังหวายซีที่นั่งตรงข้าม กลับไม่ได้รับรู้ถึงสายตาแปลกๆ ของสาวใช้คนสนิท ในหัวของนางกำลังคิดถึงแผนการบางอย่าง
ข้าต้องหาทางรับมือคนผู้นั้นในคืนเข้าหอ หอโคมเขียว น่าจะเหมาะที่สุดแล้วที่ข้าจะเรียนรู้
เมื่อกลับมาถึงจวน หวายซีก็เข้าไปประคองผู้เป็นย่าเพื่อไปส่งที่เรือนเหมือนอย่างเคย แต่ครั้งนี้แตกต่างกันตรงที่ความรู้สึกในใจ ก่อนหน้านี้ ที่ทำไปเพราะคิดว่ามันคือหน้าที่ แต่ตอนนี้นางทำมันด้วยใจ
และยังมีอีกหลายสิ่งมากมายที่คุณหนูคังต้องการที่จะทำ คนเราหาได้มีชีวิตยืนยาว นางเคยใช้ชีวิตตามที่ผู้อื่นสั่งโดยไม่เคยคิดอะไรลึกซึ้ง พอมาถึงเวลานี้หวายซีอยากใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวให้มากที่สุดก่อนที่จะไม่มีโอกาส
หลังจากกลับออกมาจากเรือนฮูหยินผู้เฒ่าคัง เด็กสาววัยใกล้ปักปิ่นก็หันไปมองสาวใช้คนสนิท
"อันย่าเจ้ากลับไปรอข้าที่เรือนก่อนก็แล้วกัน ข้าอยากจะเดินยืดเส้นยืดสายสักครู่"
แม้จะแปลกใจอยู่บ้าง แต่อันย่าก็ทำตามแต่โดยดี เพราะนางเองก็คล้ายกับมีเรื่องที่ต้องคิด ก็เลยไม่อยากเซ้าซี้ถามให้มากความ "เจ้าค่ะ ถ้าอย่างนั้นบ่าวขอตัวนะเจ้าคะ"
หวายซีมองตามแผ่นหลังสาวใช้คนสนิทที่นางเคยรักและเชื่อใจมากกว่าพี่น้อง หรือแม้กระทั่งมากกว่าคนในครอบครัวจนลับสายตา
นางยังจำวันนั้นได้ดี หลังจากแต่งให้องค์ไท่จื่อได้เพียงปีกว่า นางก็ต้องพบเจอกับการสูญเสียครั้งใหญ่ อันย่าต้องทนทรมานเพราะถูกพิษ ไท่จื่อทรงลงมือสืบสวนด้วยพระองค์เอง สรุปว่าเป็นฝีมือของชายารอง
เดิมทีสตรีนางนั้นตั้งใจวางยาพิษชายาเอกอย่างคังหวายซี แต่อันย่ากลับต้องมารับเคราะห์แทน
พอคิดมาถึงตรงนี้ คิ้วของหวายซีเริ่มขมวดเล็กน้อย นางไม่แม้แต่จะเห็นศพของอันย่า เพราะองค์รัชทายาททรงพาสาวใช้ของนางไป แค่ชั่วข้ามคืน พระองค์ก็ส่งคนมาบอกว่าอันย่าสิ้นลมแล้ว
ในยามนั้นนางโศกเศร้าเสียใจจนอยากจะตายตามอันย่าไป ไม่ยอมกินยอมนอนเอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญ เฝ้าแต่โทษตัวเอง
ยามนี้พอได้มองย้อนกลับไปอีกครั้ง หวายซีถึงพึ่งคิดได้ ว่าการตายของอันย่า มันดูเหมือนจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่นัก
ร่างผอมบางเดินมาจนถึงที่ที่นางต้องการ สายตาเหลือบไปเห็นเจ้าของเรือนเข้าพอดี อีกฝ่ายก็เห็นนางแล้วเช่นกัน คังจื่อบุตรชายคนเล็กจอมเกเรของคังหย่วนผู้มีศักดิ์เป็นอารองของคุณหนูคัง
หวายซีสาวเท้าเข้าไปหาเด็กหนุ่มหน้าขาวที่กำลังยืนนิ่วหน้ามองนาง
น่าแปลกยิ่งนัก พอมายืนใกล้กันเช่นนี้ ทำให้มองเห็นความคล้ายคลึงของคนทั้งคู่ได้ชัดขึ้น
คังจื่อผิวขาวราวหยก รูปร่างผอมบาง ส่วนสูงเท่ากับคังหวายซีพอดิบพอดี เกิดที่หลังนางเพียงสิบห้าวัน แม้กระทั่งหน้าตายังละม้ายคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก แต่เรื่องนี้กลับไม่เคยมีผู้ใดเคยสังเกตเห็นมาก่อนเลย
บางทีอาจเป็นเพราะคังหวายซีในกาลก่อน ต้องใช้ชีวิตหมดไปกับการถูกอบรมบ่มนิสัยเพื่อขึ้นเป็นฮองเฮา ทำให้ส่วนใหญ่ต้องอยู่แต่ในเรือน ผู้คนตระกูลคังถึงไม่ค่อยมีโอกาสได้พบเห็นนางบ่อยนัก
และนางเองก็ไม่เคยให้ความสนิทสนมกับบรรดาญาติพี่น้อง เพราะถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เล็ก ให้กลายเป็นผู้ที่อยู่ใต้คนคนเดียว แต่อยู่เหนือคนทั่วหล้า ยิ่งทำให้ห่างเหิน
คังจื่อเองทั้งตกใจและประหลาดใจ ที่อยู่ๆ ญาติผู้พี่ที่เกือบจะกลายเป็นสตรีต้องห้ามอยู่รอมร่อ มาโผล่ถึงที่นี่
"พี่สาว ใช่ท่านเดินหลงทางหรือไม่"
หวายซีมองเมินคำถามกวนประสาทของญาติผู้น้อง ยกยิ้มเล็กน้อยให้อีกฝ่าย "เข้าไปในเรือนเถิด ข้ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย" เอ่ยจบก็เดินผ่านเจ้าของเรือนเข้าไปด้านใน โดยไม่รอคำตอบ
ทำให้เด็กหนุ่มถึงกับยืนตะลึงอ้าปากค้าง
"อาจื่อ!"
"ห๊ะ?" เสียงของผู้มาเยือนเรียกสติคังจื่อให้กลับคืนมา รีบพลิกกายหันหลังสาวเท้าตามเข้าไปในเรือนตัวเองอย่างรวดเร็ว "นะ..นี่ เจ้าใช่คุณหนูใหญ่แห่งจวนกั๋วกงแน่หรือ?"
หนุ่มน้อยหรี่ตามองสำรวจเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน ขึ้นๆลงๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้า
หวายซีคร้านจะสนใจแววตาประหลาดใจของอีกฝ่าย เพราะนางมีเวลาไม่มากนัก "อาจื่อ ข้าอยากให้เจ้าช่วยอะไรสักหน่อย"
"ข้า?" นิ้วหัวแม่มือของเด็กหนุ่มชี้เข้าหาตัว เลิกคิ้วสองข้างขึ้น มองสบตาญาติผู้พี่ คล้ายต้องการให้แน่ใจว่าตนเองไม่ได้ฟังผิด
"ใช่เจ้า"
ท่าทางจริงจังของหวายซีทำให้คังจื่อนึกสนใจขึ้นมา เพราะช่วงนี้ตัวเขาเองรู้สึกเบื่อหน่ายมิใช่น้อย ที่ต้องถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ในเรือน เลยอยากหาอะไรทำสนุกๆ ดูบ้าง
พอคิดได้แล้วคังจื่อก็สาวเท้าไปนั่งเก้าอี้ รินชาใส่จอกเล็กสองใบ พยักพเยิดให้อีกฝ่ายนั่ง ก่อนจะส่งจอกชาไปให้ แล้วจึงยกของตนเองขึ้นจิบ
"มิทราบว่าพี่สาวคนงามของข้ามีอะไรให้น้องชายสุดหล่อช่วยหรือ?"
"เจ้ารู้จักหอแพรม่วงดีแค่ไหน"
"แค่ก ๆ" คำถามของหวายซีทำให้คังจื่อที่นั่งจิบชาด้วยท่าทางสบายอารมณ์ ถึงกับสำลักหน้าดำหน้าแดง
อยู่ๆ มาถูกสตรีถามถึงเรื่องเกี่ยวกับหอนางโลม เด็กหนุ่มไม่ตกใจจนตกจากเก้าอี้ก็นับว่าดีแค่ไหนแล้ว
เมื่อก่อนหวายซีเพียงแค่ไม่สนใจ แต่ไม่ได้แปลว่านางไม่รู้ความเป็นไปของคนในครอบครัว เรื่องนี้หากจะพูดตามจริง ก็คงต้องยกความดีความชอบให้อันย่า ไม่มีเรื่องใดสามารถรอดพ้นความหูไวตาไวของนางไปได้
อย่างวีรกรรมต่างๆ ของญาติผู้น้องของหวายซีผู้นี้ก็เช่นกัน อันย่าเคยเล่าให้ฟังอย่างละเอียด
โดยเฉพาะเรื่องที่คังจื่อชอบแอบไปเที่ยวหอนางโลม
