บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ข้าจะเปลี่ยนมัน[1]

สองวันต่อมา รถม้าหลายคันทยอยออกจากจวนคังกั๋วกง มุ่งหน้าออกนอกเมืองไปยังอารามจี้ หวายซีนั่งนิ่งอยู่ในรถม้าที่กำลังเคลื่อนตัว จมอยู่ในความคิด วันนี้สินะ 

วันแห่งจุดเริ่มต้นของโชคชะตา วันนี้นางจะได้พบกับคนผู้นั้น บุรุษผู้หล่อเหลา ด้วยความไร้เดียงสา นางตกหลุมรักชายหนุ่มแปลกหน้า จนกระทั่งนำพาไปสู่เรื่องราวมากมายและจุดจบอันโหดร้ายของนางและกว่าห้าร้อยชีวิตในตระกูลคัง

ข้าจะเปลี่ยนมัน หวายซีตั้งมั่นในใจ ด้วยแววตาสงบนิ่ง

เมื่อมาถึงอารามจี้ คุณหนูคังก้าวลงจากรถม้าอย่างสง่างามราวกับนางพญาหงส์ ใบหน้าประดับรอยยิ้มเล็กน้อย แววตายังคงความสงบนิ่งเช่นเดิม

"คุณหนูเจ้าคะ วันนี้พวกเราต้องคุกเข่าขอพรครึ่งวันจริงหรือเจ้าคะ?"

เสียงกระซิบกระซาบของสาวใช้คนสนิท เรียกรอยยิ้มของหวายซี "เกรงว่าจะเป็นเช่นนั้น เจ้ามีแผนอะไรดี ๆ หรือไม่" 

อันย่าเลิกคิ้วสองข้างด้วยความประหลาดใจ ในขณะประคองแขนของผู้เป็นนายให้ก้าวเดิน แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองกับสิ่งที่ได้ยิน รู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินกับวาจาซุกซนของผู้เป็นนายเท่าไหร่นัก "คะ..คุณหนูว่าอะไรนะเจ้าคะ"

"ข้ารู้ว่าเจ้าสามารถทำให้พวกเราไม่ต้องคุกเข่าขอพรได้" 

แต่เสียงกระซิบแผ่วเบาตอบกลับมาเป็นเครื่องยืนยันว่าอีกฝ่ายคิดทำจริงๆ อันย่าจ้องมองใบหน้าด้านข้างของเด็กสาวข้างกายราวกับคนไม่รู้จัก คุณหนูของนางไม่มีวันจะเอ่ยอะไรเช่นนี้ หนีการคุกเข่าขอพรถือเป็นเรื่องใหญ่ 

"คุณหนู ท่านไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าเจ้าคะ?" อันย่าอดไม่ได้ต้องยกมือขึ้นไปอังหน้าผากของผู้เป็นนายด้วยความกังวล

"หึหึ" แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย กิริยาท่าทางเช่นนี้ทำให้คังหวายซีดูมีเสน่ห์ลุ่มลึก กระทั่งอันย่าเองยังต้องมองด้วยความตกตะลึง และไม่ได้มีเพียงแค่นางเท่านั้น

ใต้ต้นฉำฉาร้อยปีต้นใหญ่ ห่างออกไปไม่ไกล ยังมีใครอีกคนที่ยืนตะลึงมองตาไม่กะพริบ 

"เป็นนางแน่หรือ?"

"พ่ะย่ะค่ะ เด็กสาวในชุดขาวนั่นคือคุณหนูคังมิผิด"

ซินอู่เหินรู้สึกลำคอแห้งผากขึ้นมาดื้อๆ คุณหนูคังตามคำร่ำลือมิควรเป็นเด็กสาวผู้นี้ เรือนร่างแม้จะผอมบางแต่กลับมีกลิ่นอายยั่วยวน หน้าตาที่จืดชืดแลดูธรรมดากลับดูน่ามองชวนให้หลงใหล รอยยิ้มซุกซนบนใบหน้ามันดึงดูดเขาจนมิอาจจะละสายตา

การขอพรวันนี้ สตรีตระกูลคังจะต้องมาทุกนางจนมันกลายเป็นประเพณีประจำตระกูลไปเสียแล้ว โดยเฉพาะผู้ที่จะต้องกลายเป็นสตรีคู่บัลลังก์ในอนาคตอย่างคังหวายซี เด็กสาวจะถูกแยกออกไปสวดภาวนาเพียงลำพังจะมีก็เพียงสาวใช้ข้างกาย

หวายซีถูกพาเข้ามายังห้องสวดภาวนาแยกจากผู้อื่นค่อนข้างไกลและเงียบสงบ แม่ชีที่พานางมาส่ง หันมายิ้มให้นางก่อนจะปิดประตูลง

หากเป็นคุณหนูคังคนเดิม จะต้องคุกเข่าและสวดภาวนาทันที แต่หวายซีกลับมิได้ทำเช่นนั้น เพียงใช้สายตามองสำรวจรอบห้อง นางพึ่งจะสังเกตห้องสวดที่นี่เต็มตาเป็นครั้งแรกแม้จะถือว่ามาเป็นครั้งที่สองแล้วก็ตามที

หน้าต่างหลายบานถูกแง้มไว้เล็กน้อยสำหรับควันธูปเทียน ดวงตากลมโตมองไปยังรูปปั้น นางรู้ดีว่าคนผู้นั้นแอบอยู่ที่นั่น

หวายซีทบทวนเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกครั้ง

หลังจากที่นางนั่งคุกเข่าหลับตาสวดภาวนา อันย่าจะเอ่ยปากอย่างซุกซน "คุณหนูพวกเราหาทางหลบออกไปหลังเขาแล้วค่อยกลับมาดีหรือไม่เจ้าคะ"

"ทำเช่นนั้นไม่ได้หรอกอันย่า ข้าต้องสวดภาวนาให้ครบสองชั่วยาม" 

"โธ่! คุณหนูท่านไม่เมื่อยหรือเจ้าคะ ที่ต้องคุกเข่าถึงสองชั่วยาม"

"ไม่หรอก เจ้าก็คุกเข่าได้แล้ว อย่ารบกวนข้าอีกเลย"

แต่มีหรือสาวใช้จอมดื้อรั้นจะทำตาม อันย่ายกยิ้มเจ้าเล่ห์ตามนิสัยของนาง ก่อนจะเหล่มองไปยังบานหน้าต่าง พวกนางแอบฝึกวรยุทธทุกวัน กับการปีนหน้าต่างถือเป็นเรื่องง่ายดาย 

เด็กสาวที่กำลังคิดจะปีนหน้าต่าง กลับต้องหยุดชะงักลง เพราะสายตาเหลือบไปเห็นชายหนุ่มที่ก้าวออกมาจากหลังรูปปั้น

"ท่านเป็นใคร เหตุใดถึงมาแอบอยู่ที่นี่!!?" 

เสียงของอันย่าทำให้หวายซีต้องลืมตาขึ้น พอมองเห็นบุรุษเบื้องหน้าทำให้นางตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ตกตะลึงจ้องใบหน้าหล่อเหลาอย่างลืมตัว

พอคิดมาถึงเหตุการณ์ตรงนี้ หวายซีก็นิ่วหน้าเล็กน้อย ในเวลานั้นสายตาของคนผู้นั้นกลับไปตกอยู่ที่อันย่า เหตุใดตอนนั้นนางถึงมิได้สังเกต

หวายซีมองตามแผ่นหลังสาวใช้คนสนิทที่กำลังเดินสำรวจหน้าต่าง 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel