ตอนที่ 7 สัญญาณเตือน
ผ่านไปหลายสัปดาห์หลังจากที่มิวนิกและแม่ของเธอไปหาพระอาจารย์ที่วัด เธอไม่เคยฝันถึงหรือรู้สึกถึงผู้หญิงคนนั้นอีกเลย อาจจะมีคิดถึงบ้างเป็นครั้งคราวเวลาที่เธอเข้าเรียนวิทยาศาสตร์ แล้วเผลอมองไปที่โหลดองเด็ก
"ไปเกิดแล้วมั้ง " ครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอมองเด็กที่ถูกดองอยู่ในโหล แล้วก็อดที่จะคิดถึงผู้หญิงที่ทำให้เธอเกือบเอาชีวิตไม่รอดคนนั้น เธอหมั่นสวดมนต์แผ่เมตตา และทำบุญใส่บาตรอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้อย่างสม่ำเสมอ มิวนิกได้แต่ภาวนาให้ผู้หญิงคนนั้นไปสู่ภพภูมิที่ดี หากได้เกิดใหม่ก็ขอให้เกิดในที่ดีๆ และมีความสุข
"ใครไปเกิด? แล้วใครตาย? ถึงต้องไปเกิด?" สุพจน์ที่โผล่มาจกด้านหลังเงียบๆ โพล่งถามมิวนิกเมื่อเห็นเพื่อนของตนบ่นพึมพำอยู่คนเดียว ในตอนแรกสุพจน์ตั้งใจจะมาชวนมิวนิกไปซื้อของที่สหกรณ์โรงเรียนก่อนจะไปกินข้าวที่โรงอาหารหลังจากจบคาบวิชาวิทยาศาสตร์
"ตาเถรตก!!! อีพจน์กูตกใจหมดเลย อีเวร" มิวนิกโวยวาย
"โอ๋เอ๋ ขวัญเอ๊ยขวัญมา กูก็ว่าเสียงตีนกูหนักอยู่นะ ไม่คิดว่ามึงจะไม่ได้ยิน" สุพจน์รีบกอดปลอดมิวนิกทันที แต่มิวนิกก็ดันตัวสุพจน์ออกพร้อมทำท่ารังเกียจในเชิงหยอกล้อ
"มึงก็ไปแกล้งมัน" แสนดีต่อว่าสุพจน์
"กูไม่ได้แกล้ง ไม่คิดว่ามันจะตกใจขนาดนนี้ไหมวะ สรุปใครไปเกิด" สุพจน์หันไปถามมิวนิกอีกครั้ง
"ก็ผีแม่เด็กในโหลนั่นไง กูไม่ได้ฝันถึงเขานานแล้วนะ" มิวนิกตอบเสียงพึมพัม
"มึงอยากฝันถึงเขาอีกหรือไง จำไม่ได้หรอว่าสภาพช่วงนั้นเป็นยังไง ถ้าแม่มึงไม่พาไปวัดนะ กูว่าได้ตายไปอยู่กับเขาจริงๆนั่นแหละ" สุพจน์บ่นกระปอดกระแปดตามประสาชายหัวใจหญิง
"มึงก็เกินไปอีพจน์ กูก็แค่อยากรู้เฉยๆ" เธอส่ายหน้าอย่างระอา
"จะอยากรู้ไปทำไม เรื่องมันตั้งนานมาแล้ว ป่านนี้อีผีนั่นไปเกิดล่ะ เผลอๆอาจจะเกิดเป็นลูกอีด่างหมาบ้านพักครูก็ได้" สุพจน์พูดจาไปเรื่อยเปื่อยตามประสาคนปากไว
"กูล่ะอยากให้คนที่โดนตามเป็นมึงแทนมิวนิกจังเลย ปากแซ่บแบบนี้คุยกับผีน่าจะสนุก" แสนดีสัพยอกสุพจน์
"กูก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่าเขาไปเกิดหรือยัง แล้วถ้าเขายังอยู่เขาอยู่ที่ไหนเป็นยังไงบ้าง" มิวนิกพูดพลางนึกถึงผีผู้หญิงตนนั้น อาจจะเพราะเธอสวดมนต์แผ่เมตตาให้เป็นประจำ เลยทำให้เธอคิดถึงผีตนนั้นอยู่บ่อยๆ
"อย่าอยากรู้ค่าาา อย่าหาเหาใส่หัว หาเรื่องใส่ตัวค่ะอีมิวนิก คราวที่แล้วไม่ตั้งใจยังเกือบตาย ถ้าคราวนี้ตั้งใจไม่ตายเลยหรือไงล่ะ" แสนดีบ่น
"เออๆ ช่างเถอะ เบลล์หนังสือที่กูฝากยืมได้ไหม?" มิวนิกหันไปถามเบลล์ที่เดินกลับมานั่งรวมกลุ่มกับพวกเธอสักพักแล้วหลังจากไปยืมหนังสือที่ห้องสมุด
"เอาไป หนังสือที่ฝากยืม" เบลล์ยื่นหนังสือให้มิวนิว ผ่านหน้าแสนรักไป
"108 วิธีเห็นผี นี่มึงยังไม่เข็ดอีกหรอมิวนิก ที่พวกกูพูด พวกกูเตือนไม่ได้เข้าหูมึงเลยใช่ไหม?" แสนรักต่อว่ามิวนิกหลังจากอ่านชื่อหนังสือ
"ไหน? เบลล์มึงหยิบมาผิดเล่ม เล่มนี้กูอ่านแล้ว" มิวนิกบอกเบลล์ ก่อนหยิบหนังสือมาดู
"ขอโทษทีวะมึง กูหยิบผิดจริงๆด้วย เดี๋ยวกูเอาไปคืนแล้วยืมเล่มใหม่มาให้ล่ะกันนะ" เบลล์พูดพร้อมกับดึงหนังสือจากมือมิวนิกมาคืน แต่มิวนิกกลับยึดหนังสือไว้กับตัวเอง ทำให้เพื่อนๆต่างพากันมองหน้ามิวนิก
"ไม่เป็นไรหรอกมึง อ่านแล้วก็อ่านอีกได้ อีกอย่างเบลล์มันก็ยืมมาแล้ว เสียเวลาเอาไปคืนอีกทำไมล่ะ กูอ่านได้ ขอบใจนะเบลล์ " มิวนิกรีบอธิบายเมื่อเห็นสายตาของเพื่อนๆ
"มึงไม่เข็ดสินะ เรื่องที่เจอมามันไม่ได้ทำให้มึงกลัวเลยสินะ แล้วแต่มึงละกันมิวนิก กูถือว่ากูเตือนแล้ว"แสนรักพูดจบก็เก็บข้าวของลุกเดินออกจากกลุ่มไปทันที ทำให้แสนดีต้องรีบวิ่งตามออกไป แสนดีกับแสนรักยืนคุยกันไม่กี่ประโยค แสนดีก็เดินคอตกย้อนกลับมา
"แสนรักมันโกรธมึงแน่ๆนิวนิก" สุพจน์เอ่ยขึ้นหลังจากมองตามแสนดีกับแสนรัก
"กูแค่อ่านหนังสือ กูไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีนะเว้ย จะมาโกรธกูเพราะเรื่องแบบนี้มันก็ไร้สาระไปไหมละ" มิวนิกแย้ง ถึงภายในใจจะอดหวั่นใจกับคำพูดของสุพจน์และการกระทำของแสนรักไม่ได้
"แต่แสนรักมันเป็นห่วงมึงนะเว้ย ตั้งแต่เกิดเรื่องคราวที่แล้ว มึงไม่สังเกตุหรอว่าแสนรักมันวุ่นวายกับมึงแค่เรื่องนี้" แสนดีที่เดินย้อนกลับมาพูดขึ้น
"ช่างแสนรักมันเหอะมึง เดี๋ยวมันก็หายโกรธ โกรธง่ายขนาดนี้สงสัยใกล้เป็นเมนส์" เบลล์ที่นั่งฟังคนอื่นอยู่นานก็พูดขึ้น
"แต่มึง..."สุพจน์ที่กำลังจะออกความเห็นแย้งกับเบลล์ กลับถูกเบลล์ขัดขึ้น
"ไม่มีแต่หรอกมึง มึงก็รู้ว่าแสนรักมันขี้น้อยใจ โกรธง่ายหายเร็ว แถมยังเป็นคนคิดมาก ไม่แปลกหรอกที่มันจะห่วงมิวนิกมากๆ แต่เดี๋ยวทันก็หายโกรธ เชื่อกูดิ"
"แต่กูไม่อยากให้พวกมึงมองข้ามความเป็นห่วงของมันนะเว้ย ยิ่งมันเป็นห่วงแล้วพวกมึงไม่สนใจ มันจะยิ่งรู้สึกแย่" แสนดีแย้งเบลล์ จริงอย่างที่เบลล์ว่าแสนรักขี้น้อยใจ แต่ก็เป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว แต่ถ้าหากเพื่อนทุกคนจะรอให้แสนรักหายโกรธเอง จะดูใจร้ายกับแสนรักมากเกินไป ซึ่งเธอก็ไม่เห็นด้วยที่เพื่อนจะทำแบบนั้นกับฝาแฝดของเธอ
"เอางี้ เดี๋ยวกูไปง้อแสนรักทีหลัง ตอนนี้ให้มันไปสงบสติอารมณ์ก่อน พวกมึงไม่ต้องเป็นกังวล" มิวนิกตัดปัญหา เพราะไม่อยากให้เพื่อนทะเลาะกัน เธอเข้าใจที่เบลล์พูด เข้าใจความเป็นห่วงของแสนรัก และเข้าใจความรู้สึกของแสนดี การง้อแสนรักจึงเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด และมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับมิวนิกแต่อย่างไร
"รีบไปง้อให้ไวเลยนะ ปล่อยไว้นานมันน้อยใจจริงๆ ขึ้นมาจะแย่เอานะเว้ย ความรู้สึกคนทั้งคน" สุพจน์พูดก่อนจะหันไปดูดน้ำในแก้วตัวเองต่อ
"เอาน่า เดี๋ยวกูลุกไปง้อเลยเนี่ย พวกมึงขึ้นห้องเรียนไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวกูขึ้นไปพร้อมแสนรักทีหลัง"
"มั่นใจมากว่าจะง้อแสนรักมันได้" สุพจน์สัพยอกความมั่นอกมั่นใจของมิวนิก
"มั่นใจมาก เพราะอะไรรู้ไหม เพราะแสนรักมันรักกูมากกว่ามึงค่ะ"
"อิมิวนิก ปากมึงเนี่ยนะเริ่มตามร้ายกาจตามอีแฝดนรกขึ้นทุกวัน มึงจะไปง้อแสนรักไม่ใช่หรอ รีบไปสิ มายืนเห่ายืนหอนที่นี่ทำไม" สุพจน์ออกปากไล่ ซึ่งมิวนิกก็ทำได้แค่นีกไหล่ก่อนจะรวบข้าวของของตนเอง เดินไปตามแสนรัก
