ตอนที่ 4 ตาม
"มิวนิก มึงไปทำอะไรมาสภาพอย่างกับศพเดินได้" สุพจน์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยทักเพื่อนสนิทของตนเอง สภาพของมิวนิกตอนนี้อิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
"กูนอนไม่ค่อยหลับ ฝันร้ายบ่อยๆ แม่กูชอบบอกว่ากูนอนผวาบ้าง นอนละเมอบ้างแล้วบางคืนก็นอนกรี๊ดลั่นบ้าน แต่พอแม่ถามกูก็นึกไม่ออกว่ากูฝันว่าอะไร" มิวนิกเล่าให้สุพจน์ฟังด้วยน้ำเสียงเนือยๆ
"เออ เกือบลืม ไอ้เบลล์มันเล่าให้ฟังว่ามึงกับมันเจอผี วันที่อยู่ทำขบวนแห่เทียนพรรษาอ่ะ ยังไงวะ เล่าหน่อยดิ" แสนดีถามเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าล่าสุดที่ตนเองคุยกับเบลล์ เบลล์เล่าเรื่องนี้ให้ตนเองฟัง แต่ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก
"จะบอกว่าเจอผีก็ไม่ได้ กูกับเบลล์ก็ไม่ได้เห็นผี แต่กูแค่รู้สึกว่ามีผีอยู่ด้วยเฉยๆ" มิวนิกบอกเพื่อนพลางเอามือลูบตามแขนเพื่อปลอบตัวเองที่กำลังขนลุกอยู่
"มึงก็เล่าหน่อยสิ พวกกูก็อยากรู้" แสนรักพูดขึ้นทำให้เพื่อนๆพยักหน้าเห็นด้วย
"มันก็ไม่มีอะไรหรอก แค่...." มิวนิกเล่าเหตุการณ์ในคืนวันนั้นให้เพื่อนๆฟัง
"ไม่ต้องมาเป็นตัวเป็นตนหรอก แค่เป็นเสียงนกแสก อย่าว่าแต่มึงกับเบลล์ที่วิ่งหนีเลย เป็นกู กูก็วิ่งจ้า" สุพจน์พูด
"นกแสกนี่ใช่นกที่เขาว่ากันว่า บินผ่านบ้านไหนบ้านนั้นต้องมีคนตายใช่ป่ะ" แสนรักถามอย่างสงสัย เหมือนเคยได้ยินมิวนิกพูดถึงนกชื่อนี้อยู่แต่นานแล้ว
"ใช่แล้วแสนรัก มันเป็นความเชื่อของคนบางพื้นที่อ่ะ แต่ถ้ามองว่ามันเป็นนกมันก็คือนกนั่นแหละ" แสนดีตอบคำถามฝาแฝดของตนเอง
"แต่ถ้ามองในมุมความเชื่อมันก็คือนกผีนั่นแหละมึง บินผ่านบ้านไหน บ้านนั้นมีคนตายแล้วมันอยู่ในโรงเรียนเราทำไมล่ะ หรือว่าจะมีคนตาย" สุพจน์สันนิษฐานขึ้น
"มึงก็พูดไปเรื่อย มึงบอกว่ามันคือนกผีใช่ไหม? บางทีอาจจะไม่ได้จะมีคนตายแต่มันอาจจะเห็นผีก็ได้" มิวนิกตอบข้อสันนิษฐานของสุพจน์
"งั้นตอนที่มันร้องคือตอนที่มึงกับเบลล์มาเอาของที่ห้องศิลปะ แสดงว่ามันเห็นผีนะสิ หรือมันเห็นมึงกับเบลล์เป็นผี" สุพจน์พยายามทำบรรยากาศให้ดูตลกเพื่อเลี่ยงประเด็น เขาไม่เคยชอบเรื่องลี้ลับเลย ไม่ได้กลัวแต่ไม่ยุ่งดีกว่า
"กูว่าไม่ใช่ มึงจำได้ไหมวันที่เราต้องอยู่ทำขบวนรถแห่เทียนพรรษา มีเด็กม.ห้าที่ถ่ายรูปติดวิญญาณใต้ตึกวิทย์ แล้วมึงบอกว่ามึงกับเบลล์ขับรถลอดใต้ตึกวิทย์มาใช่ป่ะ กูว่าเขาตามมึงมาจากตึกวิทย์นั่นแหละ หึ๋ยยย แค่คิดขนกูก็ลุกยันขนตูดแล้วเนี่ย "แสนดีพูดพลางทำท่าทางขนลุกขนพอง
"ไม่ต้องพูดค่ะคุณแสนดี ปากมึงนี่แสนกีเหมือนที่อีพจน์มันชอบว่าเลยนะ ยิ่งมึงพูดกูยิ่งหลอนไม่หาย แล้วนี่เบลล์ยังไม่มาอีกหรอ" มิวนิกถามถึงเบลล์เพราะสังเกตุเห็นว่าใกล้เวลาเข้าแถวเคารพธงชาติแล้ว แต่ยังไร้วี่แววที่เบลล์จะมาเรียน
"มันส่งเข้ากรุ๊ปไลน์ว่าจะพาแม่ไปทำบุญเลนจะไม่มาเรียนวันนึง" แสนรักตอบคำถามของมิวนิกพลางเก็บสมุดการบ้านใส่กระเป๋าก่อนจะลุกเดินไปที่สนามหญ้าด้านหน้าโรงเรียนเพื่อเตรียมเข้าแถวเคารพธงชาติ หลังจากได้ยินสัญญาณเตือนดังในครั้งแรก
"ทำไมต้องไปวันนี้ด้วยวะ ไม่พาไปวันหยุดแทนจะได้ไม่ต้องขาดเรียน" สุพจน์บ่น
"เรื่องของมันเหอะน่า มึงอ่ะรีบๆเดินค่ะคุณสุพจน์ สัญญาณดังสองรอบแล้วยังไม่ถึงแถวเลย ถ้าดังรอบสามเดี๋ยวได้เข้าแถวพิเศษพวกกูไม่รู้ด้วยนะ " แสนดีเอ่ยเตือนเมื่อเห็นสุพจน์เดินนวยนาดอืดอาดอยู่
"มึงโอเคป่ะมิวนิก หน้ามึงซีดมากเลยนะ เหมือนคนจะเป็นลมเลย" สุพจน์ถามเมื่อหันไปเห็นเพื่อนของตนเองยืนหน้าซีดอยู่ด้านข้าง
"โอเคมึง ยังไหวอยู่ " มิวนิกตอบสุพจน์ก่อนจะเป็นลมล้มพับ โชคดีที่สุพจน์รับร่างของเด็กสาวไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นมิวนิกอาจล้มฟาดไปกับสนามหญ้าแล้วก็ได้
"ว๊ายยยย มิวนิก อีมิวนิก ช่วยด้วยค่ะมิวนิกเป็นลม" เมื่ออาจารย์เห็นว่ามีนักเรียนเป็นลมกลางสนามผนวกกับเสียงโวยวายของสุพจน์ ทำให้อาจารย์เวรประจำแถวหลายท่านรีบวิ่งเข้าไปดูมิวนิกก่อนจะพาเด็กสาวส่งไปยังห้องพยาบาลของโรงเรียน
-ห้องพยาบาล-
"ไม่ไป ไม่ อย่ามายุ่งกับหนู อย่าตามหนูมา จะไปไหนก็ไป อย่ามา อย่าตามหนูมา หนูไม่ไป กรี๊ดดดด" สิ้นเสียงกรี๊ดของมิวนิก เด็กสาวสะดุ้งตื่นสุดตัว นั่งตัวสั่นอยู่บนเตียงผู้ป่วย มือเท้าเย็น หน้าซีดปากสั่น
"เห้ย มิวนิกเป็นอะไรฝันร้ายหรือมึง" แสนรักวิ่งหน้าตาตื่นมาหาเพื่อนที่เตียง เด็กหญิงเดินมายังไม่ทันถึงหน้าห้องพยาบาลดีด้วยซ้ำ แต่พอได้ยินเสียงกรี๊ดของเพื่อนก็นีบวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหา
"แสนรัก กูกลัว ในฝันมันโคตรเหมือนจริงอ่ะมึง " มิวนิกกอดแสนรักแน่นพร้อมกับร้องไห้ตัวสั่น
"เล่าได้ไหม มึงฝันว่าอะไร จำได้หรือเปล่า" แสนรักถามพร้อมกับลูบหัวปลอบใจเพื่อน
"กูฝันว่ามีผู้หญิงคนนึงอุ้มเด็กทารกมาชวนกูไปอยู่ด้วย แต่กูบอกเขาว่ากูไม่ไป เขาบอกว่ากูต้องไป ไปอยู่กับเขา ไปอยู่เป็นลูกของเขาแทนเด็กที่เขาอุ้มอยู่" มิวนิกเล่าเสียงสั่น
"แทนเด็กที่อุ้มอยู่ หมายความว่ายังไง" แสนรักถามด้วยความสงสัย
"เด็กที่เขาอุ้มมาหากู ตายแล้ว เขาอุ้มศพเด็กมาหากูมึง มันโคตรเหมือนจริงเลยนะเว้ยแสนรัก กูกลัว"
"มึงฝันแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วมิวนิก" แสนรักถามขึ้นเพราะถ้าเล่าได้ขนาดนี้แสดงว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพื่อนของเธอฝันเห็นผู้หญิงคนนี้
"ก็ตั้งแต่วันที่อยู่ทำขบวนแห่เทียนพรรษา วันที่กูกับเบลล์โดนผีหลอกนั่นแหละมึง แต่กูก็ไม่ได้ฝันทุกวันหรอกนะ หรือฝันทุกวันแต่กูจำไม่ได้เองก็ไม่รู้" มิวนิกบอกเพื่อน
"งั้นที่มึงบอกว่าแม่มึงบอกว่ามึงชอบนอนละเมอ นอนผวา แล้วก็กรี๊ดไม่รู้ตัวแต่เสือกจำไม่ได้ว่าฝันว่าอะไรนี่ก็คือ มึงอาจจะฝันถึงเขาคนนี้ก็ได้" อยู่ๆแสนรักก็เงียบไปเหมือนกำลังใช้ความคิดก่อนจะพูดขึ้นมาว้า
"มึง มึงว่าเป็นไปได้ไหมวะว่าผีที่มาหลอกมึงกับเบลล์วันนั้นเขายังตามมึงอยู่" แสนรักพูดไม่ได้ต้องการให้เพื่อนกลัว แต่พูดเพราะคิดแบบนั้นจริงๆ
"เขาจะมาตามกูทำไมวะ กูยังไม่ได้ทำอะไรให้เขาเลยนะ" มิวนิกเถียงเสียงแข็ง
"มึงทำให้เขาโดนไล่ไง มึงจำเรื่องนกแสกเมื่อเช้าได้ไหม ที่พวกมึงบอกว่านกแสกคือนกผี หรือนกที่เห็นผี แล้วถ้าเสียงนกแสกที่มึงกับเบลล์ได้ยินไม่ใช่เสียงนกแสกอย่างที่เข้าใจแต่เป็นเสียงของเขาล่ะ" แสนรักยังคงวิเคราะห์ไปเรื่อยๆ
"กูไม่ได้มีเจตนาทำร้ายเขานะเว้ย ก็ใครใช้ให้มาตามกูล่ะ กูกลัวกูก็เลยขอให้หลวงพ่อช่วยแค่นั้นเอง"
" มิวนิก กูว่านะที่มึงโดนตามอาจจะเพราะจิตมึงกำลังอ่อนที่สุด ทำให้มึงรู้สึกได้ง่ายกว่าคนอื่น เท่าที่กูเคยได้ยินมานะเว้ยคนที่จะเห็นผีถ้าไม่ซวยดวงตกสุดๆ จิตอ่อนสุดๆ ก็น่าจะมีบุญบารมีเยอะสุดๆจนเขาต้องมาขอส่วนบุญ แต่ในกรณีมึงกูว่าซวยกับจิตอ่อนว่ะ แล้วตั้งแต่มึงเจอเขามึงเคยได้ทำบุญไปให้เขาบ้างหรือยัง " มิวนิกส่ายหน้าแทนคำตอบ
"หาเวลาไปทำบุญบ้างนะ แผ่เมตตาให้เขาบ้างเผื่อเขาจะเลิกตาม แล้วนี่มึงจะนอนพักต่อหรือจะไปเรียนเลย " แสนรักถาม
"กูไม่อยากนอนแล้วกูกลัวกูฝันเห็นเขาอีก"
"ไม่นอนพักก็ลุกค่ะ กูจะได้ไปเรียน ต้องมาเฝ้ามึงเนี่ยล่ะเลยต้องโดดเรียนต้้งคาบนึง" แสนรักบ่นอุบ
" แล้วทำไมมึงไม่ให้แสนดีหรืออีสุพจน์มาแทนล่ะ มาเองทำไม" มิวนิกถามอย่างสงสัย ถ้าหากเป็นเรื่องที่ไม่ต้องเข้าไปในห้องเรียนนั้นเป็นเรื่องดีสำหรับสุพจน์และแสนดี
"พวกมันโง่ไง เลยต้องไปนั่งเรียน ตอนแรกแย่งกันกูเลยให้มันทำการบ้านคณิตศาสตร์เอง สรุปเลยไม่มีใครได้มา ส่วนมึงลุกได้แล้วจ้ะ มากูช่วย" แสนรักเข้าไปพยุงมิวนิกให้ลุกขึ้นยืน
"ไป ไปเรียนกัน ขาดเรียนคาบนึงก็ตามเพื่อนไม่ทันแล้วบทนึง แสนรักจูงมือแสนดีเดินออกจากห้องพยาบาล โดยไม่ได้หันกลับมามองจึงไม่เห็นว่าผู้หญิงในฝันอุ้มศพเด็กทารกมองตามเด็กหญิงทั้งสองคน
