ตอนที่ 3 วันโกนหัวโกร๋น ๓
คาบสุดท้ายของวันจบลง ทั้งห้าคนอยู่ช่วยทำกิจกรรมทำขบวนแห่เทียนพรรษาที่ตึกอุตสาหกรรม เวลาผ่านไปเกือบห้าทุ่มแล้ว
"พวกมึงกูกับแสนรักกลับก่อนนะ พ่อมารับล่ะ" แสนดีเดินมาบอกเพื่อนๆที่กำลังจัดดอกไม้อยู่
"เออๆกลับดีๆนะมึง อีกสักพักพวกกูก็กลับแล้วเหมือนกัน" เบลล์ตอบก่อนที่แสนดีและแสนรักจะพากันเดินแยกตัวไปขึ้นรถยนต์ที่พ่อของทั้งคู่มาจอดรอรับ
"นักเรียน มีใครว่างไหม " เสียงอาจารย์พิกุลทองอาจารย์ประจำวิชาศิลปะตะโกนถามขึ้น
"หนูว่างคะ" มิวนิกยกมือขึ้นขานอาสา
"หนูไปเอาค้อนกับอุปกรณ์ที่ห้องศิลปะให้อาจารย์หน่อยสิ พอดีอาจารย์ลืมเอามา เอารถของอาจารย์นพดลไปก็ได้" อาจารย์พิกุลทองว่าพร้อมกับยื่นกุญแจรถจักรยานยนต์ของอาจารย์นพดลให้
"ได้ค่ะ" มิวนิกยื่นมือไปรับกุญแจรถจากมืออาจารย์พิกุลทอง
"ป่ะมึง ลุกสิ นั่งทำไม" มิวนิกสะกิดเบลล์
"ลุกไปไหน?" เบลล์ถาม พร้อมทำหน้างงๆ
"ไปเอาอุปกรณ์ให้อาจารย์พิกุลทองไง กูขับรถไม่เป็นมึงก็รู้ " มิวนิกอธิบาย
"ขับไม่เป็นแล้วอาสาทำไมวะ ปล่อยให้เดินไปดีไหมเนี่ย " เบลล์บ่นกระปอดกระแปด
" เบลล์เพื่อนรัก มึงคงไม่ปล่อยให้กูเดินไปตึกศิลปะคนเดียวหรอกใช่ไหมล่ะ" มิวนิกอ้อนเบลล์
"กูเลือกอะไรได้ไหมล่ะ ก็ไม่ได้แล้วใช่ไหมล่ะ ไปๆ กูพาไป" เบลล์บ่นพลางลุกขึ้นเดินไปยังที่รถ
เมื่อซ้อนรถเสร็จแล้วมิวนิกก็นึกถึงเรื่องถ่ายติดวิญญาณใต้ตึกวิทยาศาสตร์ที่เป็นข่าวลือ
"มึงจะไปทางไหน อ้อมตึกคหกรรมไปใช่ไหม?"
หากมองแผนผังโรงเรียนคือด้านหน้าของโรงเรียนจะติดกับถนน ถัดจากถนนมาจะเป็นสนามหญ้าที่ไว้ใช้แข่งกีฬาและทำกิจกรรมยามเช้า ก่อนจะเป็นถนนทางเข้าโรงเรียน และเป็นลานกิจกรรมขนาดย่อยด้านหน้าองค์พระพุทธรูปประจำโรงเรียน รั้วด้านซ้ายเป็นตึกศิลปะ ด้านขวาขององค์พระพุทธรูปเป็นตึกคอมพิวเตอร์ ด้านหลังองค์พระพุทธรูปจะเป็นสวนหย่อมไว้สำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ หรืออ่านหนังสือ ส่วนด้านซ้ายมือที่ถัดจากตึกศิลปะคือสนามบาส และด้านขวามือคือตึกภาษา ก่อนจะตัดขวางด้วยตึกวิทยาศาสตร์ แล้วถัดมาเป็นตึกคหกรรม และปิดท้ายด้วยตึกอุตสาหกรรม ส่วนตึกเฉลิมพระเกียรติที่ทุกโรงเรียนต้องมีอยู่ด้านหลังตึกภาษา และโรงอาหารก็อยู่ด้านหลังตึกคอมพิวเตอร์ โครงสร้างแผนผังโรงเรียนคล้ายๆอักษรตัวยูในภาษาอังกฤษ ดังนั้นถ้าจะผ่านไปที่ตึกศิลปะโดยไม่ขับตามถนน โดยการอ้อมตึกคหกรรมแล้ว อีกทางนึงคือขับลอดใต้ตึกวิทยาศาสตร์ตัดผ่านได้เลย ด้วยระยะทางที่ตัดเป็นเส้นตรง ทำให้ระยะสั้นกว่าและประหยัดเวลากว่า
"อ้อมทำไมล่ะ เนี่ยขับตัดผ่านลอดใต้ตึกวิทย์ไปเลยง่ายดี ใกล้ด้วย"
"ขับลอดใต้ตึกวิทย์หรอวะ กูว่าขับอ้อมดีกว่า มึงลืมเรื่องเมื่อกลางวันหรอวะ" มิวนิกเตือนเบลล์
" ที่ถ่ายติดวิญญาณอ่ะหรอ ไหนมึงบอกอยากเจอไง ทำไมป๊อดล่ะ" เบลล์หยอกมิวนิก
"ตอนนี้ไม่อยากเจอแล้ว" มิวนิกพูดพลางทำท่าขนลุกขนพอง
"ไปเหอะน่าา รีบไปรีบกลับ มึงก็อย่าคิดสิวะ คิดถึงมากๆเดี๋ยวก็มาหาจริงๆหรอก" เบลล์พูดจบก็ขับรถออกตัวทันที
มิวนิกใจเสียตั้งแต่เห็นตึกวิทยาศาสตร์ ยิ่งพอขับถึงใต้ตึกมิวนิกรู้สึกเหมือนมีคนนั่งซ้อนหลังเธออีกที
"มึง กูรู้สึกไม่ดีเลยว่ะ" มิวนิกบอกเบลล์เสียงสั่นๆ
"กูบอกว่าอย่าคิด เดี๋ยวก็มาจริงๆหรอก"เบลล์ยังไม่วายขู่มิวนิก พลางจอดรถก่อนจะรีบเดินเข้าไปทางห้องที่อาจารย์พิกุลทองใช้ให้มาเอาของ
"มึง กูกลัว" มิวนิกบอกเสียงสั่น พลางเดินไปกอดแขนเบลล์ไว้แน่น
"เออกูรู้แล้ว เดี๋ยวกูรีบไปเอาของแล้วจะได้รีบกลับกัน มึงรอนี่นะ" เบลล์พูดจบก็หันหลังเดินเข้าห้องศิลปะไปหยิบอุปกรณ์ทันที
มิวนิกที่ยืนรอหน้าประตูห้อง หันไปเห็นพระพุทธรูปประจำโรงเรียน จึงยกมือไหว้
"มึงทำอะไรอ่ะมิวนิก" เบลล์ออกมาเห็นเพื่อนยืนยกมือไหว้พระประจำโรงเรียนเลยอดถามไม่ได้ แต่เพื่อนของเธอไม่ได้ตอบคำถามแต่กลับพูดงึมงำอยู่คนเดียว
"หลวงพ่อเจ้าขา ด้วยบุญวาสนาที่เรามีพ้องต้องกัน ทำให้ลูกช้างได้มาเรียนที่นี้ช่วยปกปักคุ้มครองลูกให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากสิ่งที่มองเห็นก็ดี มองไม่เห็นก็ดี สิ่งใดที่กำลังตามติดลูกช้าง กำลังคิดร้ายกับลูกช้างก็ดี จอให้หลวงพ่อช่วยปัดเป่าขับไล่ให้ทีเถิด สาธุ" สิ้นเสียงคำอธิษฐานของมิวนิกเสียงนกแสกก็แตกรัง เหมือนถูกขับไล่จากองค์พระประจำโรงเรียน
เด็กสาวทั้งสองกรี๊ดเสียงดังลั่นก่อนจะพากันวิ่งไปที่ประตูโรงเรียน
"มึงๆ อีมิวนิกหยุดนะเว้ย" เสียงเบลล์ตะโกนไล่ตามหลังทำให้มิวนิกหยุดยืนหายใจหอบอยู่
"มึง มึงได้ยินเหมือนกูใช่ไหม เสียงนกแสกอ่ะมึง" มิวนิกพูดเสียงสั่นน้ำตาคลอเบ้า
"ได้ยิน แต่มึงเราเอารถอาจารย์นพดลมา แล้วจะจอดทิ้งไว้แบบนั้นไม่ได้นะเว้ย" เบลล์พูด
"กูไม่กลับเข้าไปเอานะ มึงจะกลับก็กลับไปคนเดียวเหอะ"
"แล้วยังไง มึงจะเดินอ้อมรอบรั้วโรงเรียนไปที่ตึกอุตสาหกรรมหรือไง" เบลล์เริ่มโมโหแล้ว มิวนิกกำลังประสาทเสียจนควบคุมสติไม่ได้
" เออ เดินเลาะรอบรั้วโรงเรียนไปเนี่ยแหละ เกิดเดินย้อนกลับไปไปเจออีกทำไง กูกลัวนะเว้ย"
"แล้วไหนบอกอยากเจอ พอเจอจริงไปก็ป๊อด " เบลล์อดที่จะสับยอกมิวนิกไม่ได้
"ไม่อยากเจอแล้วตอนนี้ ไปเหอะมึง เดินข้างนอกเนี่ยล่ะ อย่างน้อยก็มีคนเดินด้วย" มิวนิกชี้ไปทางด้านหลังเห็นผู้หญิงผมยาว ใส่ชุดสีขาวยืนก้มหน้าที่ประตูโรงเรียน
"มึงแน่ใจนะ" เบลล์ถามขึ้น ในความหมายของเบลล์คือ แน่ใจนะว่าคน เพราะเท่าที่เบลล์สังเกตเห็นคือผู้หญิงคนนั้นไม่มีเท้า แถมไม่มีเงาที่พื้นๆ ทั้งๆที่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟที่ส้องจากต้นเสา
"แน่ใจดิวะ เดินข้างนอกเนี่ยล่ะ เดี๋ยวไปถึงค่อยจ้างพวกผู้ชายมาเอารถก็ได้" พูดจบมิวนิกก็ออกเดินนำเบลล์ไปโดยไม่ได้หันหลังกลับมามองหญิงสาวที่ตนชี้ให้เบลล์ดูในตอนแรก ส่วนตัวของเบลล์นั้นก็จ้ำฝีเท้าเร็วขึ้นเพื่อตามมิวนิกให้ทัน ทั้งคู่ต่างกึ่งเดินกึ่งวิ่ง โดยที่ไม่มีใครหันไปมองด้านหลังว่าผู้หญิงคนนั้นตามหลังทั้งสองมาอย่างห่างๆ
