บทที่ 2 จากอดีตสู่ปัจจุบัน
เมื่ออายุได้สิบแปด ได้เห็นเหตุการณ์นี้...
“นี่มันอะไรกันครับสอง”
“…”
“ที่ผ่านมามันคืออะไรเหรอครับ”
“…”
ก็ไม่ได้ยินประโยคอะไรจากปากพี่สองนอกจากอาการนิ่งเงียบ นาทีนี้ฉันก็หลบอยู่ในมุมของตัวเองแล้วไม่ออกไปให้สองคนนั้นรับรู้ว่ายังมีอีกคนได้ยินและรับรู้เรื่องราวของพวกเขา
พี่วันเอื้อมมือกุมมือของพี่สอง แต่พี่สองสะบัดออกอย่างไม่ใยดี
พี่วันจะเอื้อมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พี่สองถอยเท้าห่าง
“สอง...”
“มีสิทธิอะไรไปบอกแบบนั้นกับพี่เพชรห้ะวัน เราเพื่อนกันนะ”
“เพื่อนเหรอ เพื่อนที่ไหนจูบกันสอง”
“งั้นก็จำไว้ว่าเราคือเพื่อนกัน จำยัดใส่หัวสมองไว้เลยนะและก็ห่างเราด้วย พี่เพชรกับเรากำลังคบหากันอยู่”
“อะไรนะ คบกันเหรอ แล้ววันอยู่ไหนวะ”
“อยู่ในที่ของตัวเอง”
แค่นั้นกับความสัมพันธ์ระหว่างพี่วันและพี่สอง ทั้งสองได้ห่างกันออกไปโดยปริยายพร้อมกับการไม่ย่างก้าวมาเหยียบที่บ้านของพี่วันจากวันกลายเป็นเดือนแล้วก็ปีแต่ใช้ไม่ได้กับฉันที่ได้เจอพี่วันบ่อยๆ
ระยะที่พี่วันไม่มาอะไรกับพี่สองนั้นไม่นึกเลยว่านอกจากที่พี่สองจะไม่สนใจยังทำกับไม่เคยมีพี่วันอยู่ในความทรงจำสักนิดเพราะเดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็พี่เพชรทั้งนั้น กระทั่งวันที่พี่วันกลับมาอยู่ที่บ้านข้างกันปัญหาจึงกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
การกลับมาของพี่วันเห็นได้ชัดเจนว่าครั้งนี้พี่สองต่างหากที่เป็นฝ่ายเว้าวอนพี่วัน
พี่สองที่แข็งแกร่งในวันนั้นกับอ่อนแอในวันนี้
พี่สองที่รักพี่เพชรกับชอบเข้าใกล้พี่วันตลอดเมื่อมีโอกาส
ทั้งที่อีกคนเฉยมาก
ยอมรับเลยว่าในนาทีนั้นฉันเองที่มีความคิดเห็นแก่ตัวพยายามภาวนาไม่ให้พี่วันกลับไปเป็นอย่างเดิมกับพี่สาวตัวเองอีก ความเห็นแก่ตัวในครั้งนั้นจากการภาวนามันอยู่ในขั้นสำเร็จคราวนี้สามารถเห็นได้เลยว่าใครที่แข็งแกร่งและใครที่อ่อนแอ จุดอ่อนของพี่วันที่พี่สองรับรู้งัดเอามาใช้ทั้งหมดแต่ก็ไม่ได้เรื่องสักอย่าง
พี่วันเปลี่ยนไปเป็นคนละคนโดยสิ้นเชิง
เมื่ออายุได้ยี่สิบปี ได้รู้ในเหตุการณ์นี้และก็ได้รู้สึกโคตรแย่
แล้วการภาวนาของตัวเองมันมีผลมาถึง 3 ปี ก่อนที่จะหยุดลงอย่างชะงักเมื่อมีเหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรกแซง เหตุการณ์ในครั้งนี้เปลี่ยนชีวิตฉัน เปลี่ยนความเป็นครอบครัวที่แย่แล้วกับแย่ลงไปอีกจนติดลบ เปลี่ยนแม้กระทั่งพี่วัน วงจรชีวิตที่ไม่มีใครเอามันเป็นแบบนี้นี่เอง
การพยายามปฏิเสธ
การพยายามอธิบาย
แม้แต่การพยายามทำดี
ทุกอย่างที่คิดว่าดีพอจะช่วยให้ทุกคนได้สัมผัสมันใช้ไม่ได้เลยสักนิดเดียว แม้กระทั่งพ่อแม่หรือว่าเครือญาติฝ่ายไหนก็ไม่มีใครอยากจะมองหน้าพูดคุยกับฉันสักคน จนแล้วจนรอดการไม่มีที่ไปการพยายามฝืนยิ้มแม้กระทั่งหัวใจมันแทบขาดแค่ไหนก็ไม่มีใครเหลียวมองคงทำให้บุคคลหนึ่งสงสารมั้งจึงเอ่ยปากบอกพี่วัน
บอกความจริงที่ทุกคนคิดว่าฉันเป็นต้นเหตุ
บอกความจริงว่าเรื่องราวไม่เกี่ยวกันกับฉันเลย
“จะอยู่หรือจะไป ไปมีชีวิตที่ดีกว่านี้”
นี่เป็นพี่วัน คนที่พยายามปฏิเสธความรักของฉัน
“…”
“ยังไงคนที่นี่ก็ไม่มีใครดีกับเธอแล้วนะหนึ่ง”
“…”
ใช่ไม่มีใครดี
“ออกจากข้อบังคับทุกอย่าง ไปให้สุดแล้วไปใช้ชีวิตของตัวเอง”
“ของตัวเองหรืออยู่ภายใต้เงาของพี่วันกัน” ในตอนนี้เขามีอิทธิพลมาก มากพอสามารถทำให้คนก้มหัวให้ได้ เขามีทุกอย่างและเขาก็สามารถเอาฉันออกจากครอบครัวที่ยังไงก็ยังคิดว่าฉันเป็นฆาตกร “ยังไงกันแน่”
“คิดว่ายังไงล่ะ ธุรกิจไม่มีคำว่าลงทุนแล้วไม่ได้คืนหรอกนะ”
“…”
“แลกมัน แลกกันกับสิ่งที่เธออยากมี”
“อิสระนั่นนะเหรอ”
“ใช่”
“…”
“ฉันให้เธอได้ทุกอย่างเว้นแค่อิสระจากฉัน”
แล้วเขาก็พาฉันออกจากที่นั่นในทันที
