ยังคงคิดถึง
อาคารเรียนคณะสถาปัตย์
ห้องเรียน
“เลิกหมกมุ่นอยู่กับอดีตได้แล้ว แกควรเดินไปข้างหน้า แล้วเลิกสนใจอดีตที่ผ่านมาซะ…” ฉันที่นั่งติดหน้าต่าง สะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆ สายตาเหม่อมองออกไปด้านนอกอย่างใจลอย มือทั้งสองเท้าคาง ในหัวฉันตอนนี้ไม่มีเรื่องเรียนเลย มีแต่เรื่องของเขาคนนั้น
ชั่วโมงนี้เป็นชั่วโมงที่อาจารย์เน้นการบรรยาย เพราะเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม ทำเอาฉันง่วง เหมือนเพื่อนฉันคนที่นั่งข้างๆ
“หมดคาบแล้วปลุกด้วยนะมึง” สิ้นเสียงเพื่อนซี้ฉัน มันก็นอนฟุบลงกับโต๊ะโดยไม่เกรงใจสายตาอาจารย์เลยแม้แต่น้อย
“ใจคอแกจะไม่เรียนหน่อยเหรอ” ฉันตื่นจากภวังค์ หันมาหาคนขี้เกียจ
“ทำยังกะแกจะตั้งใจเรียนอะ” ไอน้ำเพื่อนซี้ เพื่อนรักฉัน มันชายตามองฉันแว็บหนึ่ง จากนั้นมันก็ก้มหน้าเตรียมนอนอย่างจริงจัง “ตอนนี้เราง่วง ขอนอนสักงีบก่อนนะเพื่อน” ไอน้ำตอบกลับ เอางี้เลยเหรอเพื่อนรัก ได้! งั้นฉันนอนด้วย ฮ่าๆ
ฉันกับเพื่อน วันนี้สภาพดูไม่ค่อยได้ ฉันนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว ตาก็ลอยๆ ช่วงนี้มันมีเรื่องให้คิดเยอะ ไหนจะเรื่องโพรเจคท์ที่อาจารย์สั่ง ภาพที่ต้องเขียน เล่นไม่ได้หลับได้นอนกันเลยทีเดียว
แล้วช่วงนี้ ฉันไม่รู้เป็นอะไร ดันฝันเห็นแฟนเก่าซะได้ กะจะลืมๆ แต่ในใจส่วนลึก ฉันดันลืมเขาไม่ได้นะสิ! ไม่ใช่ว่าฉันถูกทิ้งหรอกนะ แต่เป็นฉันที่ดันทิ้งเขาไปเอง แล้วมาตอนนี้ดันกลับไปคิดถึงเขาอยู่ได้ ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนทิ้งเขาไป ... เฮ้ย คิดแล้วเพลียจิตจริงๆ
ลืมแนะนำตัวไปเลย ฉัน “อิงอิง” เด็กคณะสถาปัตย์ ปี 2 มหาวิทยาลัยขึ้นชื่อของประเทศกลางกรุงฯ
หน้าตาฉัน จัดได้ว่าสวย ออกหมวยๆ หน่อย ผิวขาวจั๊วะ น่าทะนุถนอมเป็นที่สุด เอวบางร่างน้อย ดูเป็นคุณนู๋คุณหนูผู้อ่อนแอ แต่ ... นิสัยฉันนะหรือ ... ให้พวกคุณเป็นคนตัดสินเองเถอะ ฉันออกจะเป็นคนดี!
ชื่อ “อิง” นี้ นาน่าเป็นคนตั้งให้ฉันเอง นาน่า ที่ว่านี้ไม่ใช่ชื่อคนนะคะ แต่เป็นคำเรียกคุณย่าที่บ้านฉันเอง พอดีคุณย่าฉันเป็นคนจีน ฉันก็เลยมีเชื้อจีนไปกับเขาด้วย ที่บ้านจะชอบเรียกฉันว่า “อิงอิง” ที่แปลว่า ขาวเหมือนหยก (ขาว) สว่าง สดใส ดูความหมายของชื่อแล้ว นิสัยฉันก็ดูจะเข้ากับชื่อนี้นะ เพราะฉันเป็นคนสดใสน่ารักจริงๆ! (แอบเสียงสูงเข้าใส่)
จากบุคลิกของฉัน ทุกคนที่รู้จักฉัน หรือไม่รู้จัก มักจะทายไม่ถูกว่าฉันเป็นเด็กสถาปัตย์ แต่เหมือนเด็กการตลาด หรือเด็กอิ้งมากกว่า เพื่อนๆ ชอบบอกว่า ฉันนะสะอาดเกินไป แต่งตัวก็ไม่เหมือนเด็กสถาปัตย์ พวกเขาหมายถึงการแต่งกายฉันนะ ส่วนเรื่องอื่นฉันไม่มั่นใจ เพราะการแต่งกายฉันหากมองก็เหมือนเด็กการตลาด หรือเด็กอิ้ง เหมือนที่เขาว่ากันนั้นล่ะ
การที่ฉันตัดสินใจมาเรียนคณะนี้เพราะยัยไอน้ำเพื่อนซี้ฉันนั้นล่ะ นางบอกว่าเด็กคณะนี้คนหล่อเยอะ แต่มันก็หล่ออย่างที่มันว่ามาจริงๆ นั่นล่ะ ฉันจึงพลาดท่ามาเรียนกับนาง
แต่เมื่อได้เข้ามาสัมผัสจริงๆ เด็กคณะนี้ ความหล่อที่เบ้าหน้าฟ้าประทานมาแต่กำเนิด แต่เหมือนท่านจะลืมแถมคู่มือใช้งานความหล่อนั้นมาด้วย ทำให้หนุ่มๆ คณะนี้หน้าตาเหมือนกับซอมบีก็ไม่ปาน หรือแม้แต่สาวๆ ที่ว่าสวย ก็ไม่ค่อยจะต่างกัน นั้นก็เพราะพวกหนุ่มๆ และบรรดาสาวๆ ทั้งหลาย เล่นไม่อาบน้ำอาบท่า ไม่แต่งเนื้อแต่งตัว ไม่ดูแลตัวเอง เพราะเล่นไม่หลับไม่นอนกันนะสิ!!!
ฉันนึกว่ามีแต่เด็กวิศวะที่เป็นอย่างนั้น แต่เอาเข้าจริงคณะนี้ก็ไม่ต่างกันเลย
ก็อย่างคนใกล้ตัวฉันนี้ไง ยัยไอน้ำ เพื่อนฉันนี่ล่ะ ขนาดนางเป็นผู้หญิงนะเนี่ย หน้าตาจัดว่าน่ารักน่าชัง แถมมีเพื่อนอย่างฉันที่รักสวยรักงาม รักความสะอาดจะตาย นางยังไม่ยอมเอาฉันเป็นตัวอย่าง ดันไปเลียนแบบพวกเพื่อนๆ ในห้อง แถมรุ่นพี่ก็ดันเป็นกันอีก โอ๊ย!!! ฉันนี้ต้องพกยาดมเลยทีเดียว!
พอขึ้นปี 2 ฉันแทบไม่มีเวลานอนเหมือนคนอื่นๆ เพราะต้องทำงานส่งอาจารย์ ชีวิตฉันแต่ละวันหมกตัวอยู่แต่กับงาน โพรเจคท์งาน และก็โพรเจคท์นี่แค่เพิ่งเริ่มนะ ฉันก็ท้อซะแล้วล่ะ โอ๊ย…ชีวิตฉัน~~~
แต่ถึงอย่างไรฉันก็ยังจะต้องอาบน้ำ บำรุงผิวพรรณ ไม่ให้โทรม ไม่งั้นฉันนอนไม่หลับ ส่วนจะนอนตอนไหน จะเช้า เที่ยง ค่ำ เย็น หรือดึก เมื่อถึงเวลาฉันต้องได้อาบน้ำ ประแป้ง พรมน้ำหอม ให้ตัวหอมๆ มันค่อยนอนได้ว่าไหม มีใครเป็นเหมือนฉันบ้างเนี่ย!
พูดมาถึงตรงนี้ ฉันเรียนโคตรจะหนักเลย ตอนแรกฉันไม่ได้สนใจคณะนี้เลย แต่โดนยัยไอน้ำป้ายยาแรงใส่ เลยเลือกเรียนสาขาเดียวกันกับมัน และฉันดันสอบติดด้วยนี่สิ ให้ตายเถอะ! ทางบ้านก็ยินดีที่ฉันสอบติด ฉันจะทำไงได้ ก็เรียนสิคะ
ฉันกับไอน้ำ จะชอบไปไหนมาไหนกันสองคน เพราะเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยม และสามารถสอบเรียนต่อได้ที่เดียวกัน พวกเราจึงชอบไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ที่จริงแล้ว ฉันกับไอน้ำยังมีเพื่อนอีกคนที่ตามมาเรียนที่นี่ด้วย นั้นคือ บอล มันเป็นเพื่อนผู้ชายที่ชอบคบหากับพวกฉันที่เป็นผู้หญิง
บอลมันเรียนคณะวิศวะ มันเลยไม่ค่อยได้ไปไหนกับพวกเราสองคน แต่หากว่างตรงกัน พวกเราสามคนก็มักจะไปด้วยกันเสมอ
และเรื่องราวของฉันที่มันวุ่นวายในตอนนี้ ก็เพราะไอ้เจ้าบอลนั้นล่ะ ที่มันดันไปเรียนคณะวิศวะ ซึ่งเป็นคณะและสาขาเดียวกับแฟนเก่าฉันนี้สิ! ให้ตายเถอะ
คิดมาถึงตรงนี้แล้วก็เหนื่อย หาวิธีเอาพี่ธีร์กลับมาดีกว่า ...
ครืด ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าของไอน้ำดังขึ้น
“ว่าไงเพื่อน?” ไอน้ำที่กำลังพูดสาย
“อะไรนะ! เออๆ ฉันสองคนกลับเองได้ นายไม่ต้องห่วง ... อือ ... เอางั้นเลยเหรอ แต่เราขอถามอิงอิงก่อน เดี๋ยวโทรกลับ” หลังวางสาย ไอน้ำก็หันมามองหน้าฉัน “มีอะไรแก?” ฉันมองหน้านางกลับ
“คือว่า ... บอลมันติดธุระนิดหน่อย มันบอกให้พวกเราไปรอมันที่โรงอาหารวิศวะนะ เดี๋ยวมันทำธุระเสร็จจะรีบมาหา มันไม่ยอมให้พวกเรากลับเอง มันบอกจะไปส่ง ... แก่โอเคไหม?” ไอน้ำมองหน้าฉัน
ฉันเงียบ ... ไม่ได้ตอบอะไรออกมาในทันที นางคงดูออกว่าฉันกำลังหนัก “พวกเราคงไม่ซวยขนาดนั้นหรอกมั้ง นี่ก็สี่โมงเย็นแล้ว พี่เขาคงกลับบ้านไปแล้วล่ะ”
ไอน้ำมองหน้าฉันเหมือนอยากจะถามย้ำว่าชัวร์ “อือ เราไม่เป็นไรเพื่อน เอาตามที่บอลมันบอกนั้นล่ะ” ฉันยืนยันความชัวร์
