บทที่ 2 แหวนของตระกูลเรา
ประเทศไทย
ช่างเป็นวันใหม่ที่สวยงามทุกวันเสมอจริงๆ เมื่อคืนฝันเห็นเจ้าชายซาโลมอนตามที่น้องสาวบอกจริงๆด้วย ในฝันจำได้แค่ลางๆว่าทรงมอบแหวนให้เด็กสาวคนหนึ่งที่ทรงรักที่สุด ก่อนที่พระองค์จะกลายเป็นเจ้าชายคาสิโนวา ที่มีเมียเป็นพันๆคน เคยคิดว่าฟาโรห์แห่งอียิปต์ก็มีเมียเยอะแล้ว เจอกษัติย์ของอิสราเอลองค์นี้ก็พอๆกันเลย เฮ้อ ช่างน่าสงสารเด็กสาวคนนั้นจัง ไม่รู้ว่านางจะรู้สึกแบบไหนนะที่ได้หัวใจ แต่กลับไม่ได้อยู่ครองคู่กัน เพราะความไม่รู้จักพอของราชาเจ้าสำราญคนนี้ เอาเป็นว่าไม่เกี่ยวกับเราไปอาบน้ำ และรีบทำกับข้าวให้คุณน้องสาวสุดที่รักก่อนที่จะไปทำงานดีกว่าโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่า แหวนที่ตัวเองได้รับจากบรรพบุรุษที่ฝากไว้หลานสาวคนโตของบ้าน เป็นของแทนใจของอดีตคนรักของหลานสาวคนโต และไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวกับตัวเอง แค่วันนี้รู้สึกว่าแหวนมันมีแสงที่สวยงามและตราสัญลักษณ์ที่อยู่ดีๆก็ส่องสว่างออกมานั้น ทำเอาคนที่ใส่ถึงกับอึ้งไปเลย เพราะมันคือตราสัญลักษณ์ของกษัติย์ซาโลมอนที่ทรงสั่งทำเป็นพิเศษ มีแค่วงเดี่ยวในโลกเลยก็ว่าได้ แต่ทำไมมันถึงได้มาอยู่กับครอบครัวเรา แถมบอกว่าเป็นของแทนใจให้เราซะงั้น จะถามใครได้หละที่นี่ในเมื่อตายายก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะท่านทั้งสองก็ถูกบอกเล่าต่อๆกันมาจนถึงยุคของท่าน ถึงถามไปก็ไม่ได้คำตอบใดๆ
"นาตื่นได้แล้วจ้า พี่ทำของที่เราชอบให้แล้วลงมาทานด้วยกัน"
"น้องคนนี้ตื่นนานแล้ว ตื่นตั้งแต่กลิ่นกับข้าวหอมฟุ่งไปถึงห้องนอนเลยคะ"
"เราก็เวอร์ไป แล้ววันนี้เรามีเรียนหรือต้องไปทำงานอะไรไหม"
"ไม่มีคะ พักสมองก่อนจะสอบคะ แล้วพี่สาวที่แสนดีของนา วันนี้ตารางงานแน่นเหมือนเดิมไหม"
"เราก็เวอร์ไปอีกแล้วนะ พี่ตั้งใจจะกลับบ้านไปหาตายายสักหน่อย มีบางอย่างที่สงสัยนะ เราจะไปด้วยไหม"
"แน่นอนคะ นาอยากกลับบ้านมานานมาก แต่พี่สาวไม่ว่างเลยไม่ได้กลับด้วยกันก็ไม่อยากกลับ"
"จ้าๆ พี่ว่างแล้วไง ตั้งอาทิตย์หนึ่งเลยนะ ดีใจไหม"
"สุดยอด พี่สาวเรามีเวลาเป็นของตัวเองแล้ว เย้ๆๆๆ"
"เราเรื่องเวอร์นี้ยกให้เลยนะ"
"ว่าแต่พี่บอกนาว่า วันนี้พี่ต้องไปทำงานเหมือนทุกทีนี้คะ ทำไมเปลี่ยนใจที่ทำงานจะไม่ว่าพี่เหรอ"
"ไม่จ้า พอดีงานไม่เยอะ และพี่ให้เพื่อนร่วมงานทำแทนได้ พี่ต้องการพักสมองก็เพื่อหาข้อมูลคดีด้วยนะ"
"อ้อ ที่แท้ก็ยังทำงานอยู่ดี แค่ทำงานนอกสถานที่ใช่ไหมคะ"
"จ้า เลยถือโอกาสไปเยี่ยมท่านด้วยนะ"
"พี่คะ แหวนทำไมสวยกว่าเดิม เหมือนไม่ใช่แหวนเก่าสมัยโบราณเลย พี่แอบเอาของจริงไปขายแล้วซื้ออันใหม่มาใส่แทนใช่ไหม ถึงได้ใหม่ขนาดนี้"
"เราก็นะ พี่จะเอาเวลาไหนไปซื้อจ้า เมื่อคืนพี่ก็อยู่กับเรา และเราก็เห็นว่าแหวนมันไม่เคยถูกถอดจากนิ้วมือพี่เลย ตั้งแต่ที่พี่ใส่ได้ มันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพี่ไปแล้ว ถ้าไม่ได้ใส่มันคงเหมือนขาดอะไรบางอย่างที่สำคัญไปนะ"
"นาอยากรู้จัง ทำไมนาถึงไม่ได้แหวนจากทวด ที่ส่งต่อๆกันมาเหมือนพี่มานาเลยอะ"
"อันนี้เราต้องไปถามทวดเองพี่ก็ไม่รู้นะ"
"พี่ก็ ใครจะไปถามคนที่ตายแล้วได้กันคะ "
"งั้นก็กินเสร็จ ก็เตรียมเดินทางกลับบ้านเรากัน แล้วเราจะช่่วยพี่ขับรถกลับด้วยได้ไหม"
"นาว่าอย่าเพิ่งดีกว่าคะพี่ เพิ่งได้ใบขับขี่มาแบบเหมือนซื้อเอามากกว่า ไม่กล้าเดี่ยวยายจะห่วงไปใหญ่ถ้านาขับ"
"ก็ได้ แต่ถ้าเป็นระยะสั้นๆในระหว่างที่พี่ขอพักสายตา พอจะช่วยพี่ได้ไหมเอ๋ย"
"พอได้คะน้อมรับคำขอร้องจากพี่สาวที่แสนดีของนาเสมอคะ"
จากนั้นสองสาวก็กินข้าวและคุยตกลงกันในหลายๆเรื่อง และปรึกษากันเรื่องหาซื้อของกลับไปฝากคนที่บ้าน แต่มานาไม่ได้บอกเรื่องที่เธอฝันเห็นเจ้าของแหวนวงนี้ เพราะเธอไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นเด็กสาวคนนั้น ที่ถูกขนานนามว่า ราชินีที่ถูกลืม หลังจากที่คนรักของนางนั้น แต่งตั้งมเหสีอีกหลายร้อยคน ไหนจะนางห้ามอีก เธอไม่อยากทำให้ทุกคนตกใจในเรื่องนี้ และมันคงเป็นการคิดมาก จนเอาไปฝันว่าตัวเองเป็นสตรีนางงนั้นแน่นอน จากนั้นก็สลัดความคิดเรื่องนี้ออกไป พร้อมเตรียมตัวเดินทางและตลอดทางก็แวะซื้อของฝาก และพักรถและพักคนไปพร้อมๆกัน โดยที่สองสาวไม่คิดว่านี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้กลับบ้านเกิด และต้องเตรียมตัวเดินทางเพื่อไปเรียนต่อที่ต่างประเทศแบบที่ทางนั้นเจาะจงเป็นสองพี่น้องนี้เท่านั้น ที่จะได้ทุนเรียนฟรี ที่พักฟรี ค่าใช้จ่ายทุกอย่างฟรีหมด สองสาวมีหน้าที่แค่เตรียมตัวเก็บข้าวของเดินทางเท่านั้น ส่วนเรื่องงานก็เตรียมไว้ให้พร้อมแล้วเช่นกัน
