บท
ตั้งค่า

เจ็บยิ่งกว่าโดนมีดกรีด1

ท้องฟ้าในคืนเดินหงายนอกหน้าต่าง ดวงจันทร์กลมโตซึ่งลอยเด่นไม่สามารถสะกดสายตามรุเดชไว้ได้นานอย่างค่ำคืนที่ผ่านมา เพราะความสว่างที่ทอดยาวกว้างไกลดูเย้ายวนนั้น มีภาพบางอย่างเข้ามาแทรกซ้ำแล้วซ้ำเล่าชายหนุ่มที่ชื่นชอบการได้นั่งดูดวงจันทร์จึงหงุดหงิดงุ่นง่านหัวใจยิ่งนัก จะว่าไปเขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อคืนวานล่วงเลยมาอีกวันยิ่งมีอาการเพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณ ภาพ กลิ่นหอมของสาวใช้เข้ามากวนในใจไม่เลิกรา ในหัวสมองก็คิดแต่ร่างสวยผิวนวลเนียนที่ร้องไห้ด้วยความเสียใจ ร้องครวญครางตอนร่วมรักกับเธอ

ทนไม่ไหวก็ขอให้ผริดาเปลี่ยนห้องนอนให้บอกว่าชอบนอนตรงห้องนอนที่มีต้นไม้ใหญ่ริมหน้าต่าง คนรักยอมตามใจเรียกให้เด็กรับใช้จัดห้องใหม่ร่างสูงเดินไปดู

“ชอบหรือเปล่าเข้าไปสิคะบอส” ผริดาผลักตนเข้าห้อง มรุเดชยิ้ม

“มานี่มาให้กอดเสียดีๆ เมื่อวานปล่อยผมอยู่คนเดียวตลอด” เข้าในห้องชายหนุ่มกอดคนรักไว้ในอ้อมแขน… กลางวันนี่แหละว่าที่พ่อตาแม่ยายไม่อยู่จะกุ๊กกิ๊กกับผริดา หวังให้เธอทำให้เขาลืมสาวร่างบางคนนั้นเสียที

“อย่านะคะ” ผริดาแกล้งผลักไสทั้งที่ในใจมีแผนตั้งแต่อ้อนให้คนรักพักที่บ้านแทนคอนโดของเขา เพราะบิดาหวงหนักหนาคอยกันท่าอยู่เรื่อยเมื่อคนรักมาหา

“คิดถึงมาขอชื่นใจ” มรุเดชหอมแก้มขาวนวล จูบริมฝีปากที่แกล้งห้าม ผริดาเบียดอกอวบที่เบ่งบานกับหน้าอกกว้างด้วยความออดอ้อน

เขาทำให้เธอร้อนได้เสมอ บทรักไม่เคยเบื่อหน่ายเธอโหยหาเหลือเกิน ชายหนุ่มพาคนรักไปที่เตียงมือข้างหนึ่งไล้เข้าใต้กระโปรงตัวสวย

“ที่รักใจร้อนจังเลยนะคะ” ผริดาอ้อนลูบไล้หน้าขาเขา ชายหนุ่มเดือดพล่านด้วยความต้องการเมื่อโดนปลุกเร้า โน้มใบหน้าก้มลงรวบยอดอกคนรักไว้ในปากร้อน มือข้างหนึ่งรั้งดึงเสื้อกล้ามที่เป็นอุปสรรคออกไป ผริดาครางเสียงพร่าพออกพอใจกับความร้อนรุ่มเร่าร้อนของคนรัก

“ขอรักให้สมใจนะดานี่” มรุเดชดีใจที่ยังเรียกชื่อคนรักถูกแม้ใจคอยคิดแต่ร่างเต็มตึงของอีกคน แยกขาคนรักให้กว้างปลดเข็มขัดออกจากเอวทว่าเห็นแฟนสาวดวงตาเบิกกว้างก็หันมองตาม พลันความใคร่ดับมอดลงเมื่อเห็นว่าใครอยู่ในห้องนี้ด้วย

“กรี๊ดดด! แกเข้ามาอยู่ในห้องนี้ทำไม มาตั้งแต่เมื่อไหร่” ผริดาโผลุกจากเตียงดึงเสื้อผ้าให้เข้าที่ โผไปหามุกตาภาที่ยืนตัวแข็งตาค้างกับภาพที่เห็น

“มุก ดิฉันเข้ามาขัดห้องน้ำค่ะ เข้ามา…” คนตกใจมากกว่าใครๆ หาคำพูดเพื่อให้เจ้านายสงบ ทว่าได้รับถ้อยคำด่าทอ ก็ก้มหน้า

“บ้าที่สุดออกไปนะ ขัดบ้าอะไรของแกดึกดื่นป่านนี้แล้วทำไมไม่ส่งเสียง”

“ดานี่ใจเย็น” มรุเดชห้ามคนรัก

“นังคนใช้คนนี้มันชอบทำเรื่องที่ดานี่ไม่ชอบตลอด ดานี่สุดจะทนกับมันจริงๆ” เผี๊ยะ! ผริดาเข้าตบหน้ามุกตาภากลบเกลื่อนความอาย

“คุณดา…” คนโดนทำร้ายตกใจกุมแก้มซึ่งเป็นรอยแดง แค่ทำตามคำสั่งแม่บ้าน กลับมาเจอแบบนี้ อยากให้เกิดเสียเมื่อไหร่…ทำไมไม่รับฟังกันบ้าง

“ยังมายืนหน้าซื่อ ออกไปให้พ้นนะและอย่าให้รู้แกเอาเรื่องนี้ไปบอกให้ใครฟังไม่อย่างนั้นเจอดีแน่ ออกไป” ผริดาชี้นิ้วไล่

มุกตาภาก้มหน้า

“ออกไปสิ” มรุเดชทนมองไม่ได้บอกให้คนที่ยืนตัวแข็งออกไป

เสียงที่มีอิทธิพลในหัวใจสั่ง สมองจึงพาสองขาให้ก้าวเดิน ไม่อาจทนมองสายตารังเกียจนั้น มันเจ็บปวดและอับอายนัก ผริดาหงุดหงิดหมดอารมณ์ “บอสรอก่อนนะที่รัก”

“อีกสองวันผมจะกลับนะครับ” มรุเดชพูดทำลายบรรยากาศตึงเครียด

“แหม! รู้น่ายังไงคืนนี้ไม่ต้องล็อกประตูนะดานี่จะมาหา จัดให้เต็มอิ่มเลยคะ”

คนรักเปิดประตูออกไป มรุเดชเดินเข้าห้องน้ำไม่คิดสนใจสานต่ออารมณ์พิศวาสอีกไม่ว่าตอนนี้ หรือคืนนี้…

มะลิลารอลูกสาวจะกลับบ้านพร้อมกันเห็นมุกตาภาเดินออกมาก็ร้องถาม“มุกเสร็จแล้วหรือจ๊ะ”

“ค่ะ” มุกตาภาตอบไม่หันมองแม่เดินกลับบ้านพัก

“รีบไปสิคุณผู้หมวดตติเขามารออยู่สักพักแล้ว”

“หรือคะ มีอะไรหรือเปล่านี่มันดึกแล้ว” มุกตาภาสงสัยเดินเร็วกว่าเดิม

คุณตติเป็นลูกชายของคุณครูชนะและคุณครูน้ำเพชรอายุสามสิบปี ฝ่ายชายไม่ถือว่าตนเองร่ำรวยวิ่งเล่นกับสองสาวมาตั้งแต่อายุสิบเอ็ดขวบ จนคุณผริดาเพื่อนคนหนึ่งถอยห่างจากความเป็นเพื่อนชายหนุ่มเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับความคิดนั้น

“มาแล้วเหรอหัวทอง” ฝ่ายนั้นลุกขึ้นเห็นคนที่มาหาเดินมาใกล้

“หัวเป็นทองก็ดีสิ ดีกว่าหัวเน่าใช่ไหมคะ ว่าแต่มาทำไมซะดึก คนร้ายไม่มีหรอกที่นี่ถ้าจะมาจับ” มุกตาภาไหว้ตติ ปากอิ่มก็เย้าแหย่

“หวัดดี…แหมมุกขำดีนะ” ตติยิ้ม

“อยู่แล้ว ว่าแต่คุณตำรวจมาทำไมคะ มีธุระอะไรยังไม่ตอบ” เจ้าบ้านถามไถ่ต่อ

“ว้า…คำถามนี้ไม่ตลกซะแล้วนะ แล้วแปลกที่ไหนพี่มาเวลานี้บ่อยไป”

“นั่นมันตอนเด็กนะคะ แต่ช่างเถอะคะแค่ถามเผื่อมีอะไรมากกว่าซื้อขนมมาฝาก” มุกตาภามองขนมของโปรดที่วางอยู่บนม้าหินอ่อนใต้ต้นมะม่วงลูกดก

“หยุดงานหลายวันว่าจะมาชวนเราไปเที่ยว วันไหนหยุดบ้าง”

มุกตาภาใจลอย

“ว่าไงหัวทอง”

“ออ ลาได้คะ พรุ่งนี้เลยนะคะผู้หมวด” ไม่อยากทนอึดอัดอยู่ที่บ้านมุกตาภาตกลง

“อ้าวอู้งานซะงั้น” ตติว่าแต่ในใจรู้สึกยินดี

“จะแต่งตัวรอนะครับผม”

สาวน้อยล้อเลียนยกมือตะแบะ

“อ้าวไล่เสียแล้วหรือ” ตติรู้ทันพูดน้ำเสียงเศร้า แต่เกิดอาการชะงักเห็นแก้มเป็นรอยนิ้วชัดเจนบนหน้าสาวสวย

“ก็วันนี้ต้องทำงานเต็มที่…” มุกตาภาพูดไม่จบเห็นแววตามีคำถามของผู้หมวดรู้สึกตัวปิดแก้มไว้เหมือนตอนแรก

“ใครทำ” ตติเสียงเข้ม

“เปล่า อะไรคะ” มุกตาภาเสไปรื้อถุงขนม

“มุกสินีอีกแล้วหรือ” ตติคิดถึงพี่สาวของเธอรู้สึกไม่พอใจ หลายครั้งเห็นฝ่ายนั้นทำร้ายน้องสาว ร่างสูงในเครื่องแบบเดินเข้าใกล้ร่างบาง

“ไม่ใช่คะ อย่าสนใจเลย” มุกตาภาถอยห่าง

“ดูหน่อย” ตติไม่ยอมเอามือบางออก ไล้มือที่แก้มนวล มุกตาภาน้ำตาไหลด้วยคิดถึงเรื่องราวเมื่อครู่ขึ้นมา ทั้งความอ่อนโยนที่ตติทำส่งผลให้หัวใจอ่อนแออย่างบอกไม่ถูก

“ร้องไห้ทำไม” ตติอึ้งมองใบหน้าสวยความรู้สึกรักห่วงใยท่วมท้นหัวใจ อยากจูบซับน้ำตาเหลือเกิน อยากรู้เธอมีเรื่องอะไรกลุ้มใจแต่ที่ทำได้แค่ลูบผมนุ่มเบาๆ

“คุณติ พี่ติ…” มุกตาภาอยากกอด อยากซบคนที่ไว้ใจเพื่อว่าความกังวล ความเครียด ความเจ็บในหัวใจจะได้คลายลงบ้าง เมื่ออกแม่ไม่สามารถทำได้ในตอนนี้ ก็ทำอย่างใจต้องการ

ตติอึ้งแปลกใจถึงการเปลี่ยนแปลงของสาวน้อยในอ้อมกอด เธอเป็นอะไรไปนะ! เพราะปกติถอยห่างเขาอยู่เรื่อย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel