ชีวิตต้องดำเนินต่อไป1
สองปีต่อมา ไร่เครือไพศาล
พ่อเลี้ยงไพรัตน์นั่งพูดคุยกับภรรยาเรื่องลูกชายคนโต แม่เลี้ยงสุรดีซึ่งเป็นห่วงลูกเช่นกันเฝ้าปลอบใจสามี “อย่าคิดมากเลยค่ะลูกเข้มแข็งลูกโตแล้วนะ”
“แต่ขลุกอยู่ในฟาร์มจนจะมีเมียเป็นม้าเป็นวัวแล้วนะ” พ่อเลี้ยงประชด
“ลูกอยากอยู่คนเดียว ปล่อยแกเถอะ” แม่เลี้ยงเข้าข้าง
“แต่ผ่านมาสองปีแล้วที่อยู่คนเดียวผมจะหาเมียให้มัน”
“ไม่เบื่อจะพูดหรือยังไงคะ”
แม่เลี้ยงจับมือคู่ชีวิตเพราะผู้หญิงที่สามีหามาให้ลูกดูตัวไม่เคยทำให้หัวใจลูกชายเปิดประตูต้อนรับแม้เพียงคนเดียว
“ไม่เบื่อจนกว่าจะทำสำเร็จ” พ่อเลี้ยงลุกขึ้นยืน
“ไปไหนคะ”
“ไปหาลูกชายคุณสิ” ว่าแล้วเรียกหาคนขับรถ แม่เลี้ยงลุกขึ้นเดินตาม “รอด้วยสิคะฉันเองก็อยากไปหาลูกเหมือนกันว่าแต่ไม่ไปที่ไร่ชาเหรอคะ”
“ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็ได้”
ไร่ชาเครือไพศาล ประมุขเครือไพศาลและภรรยามักไปค้างที่นั่น แต่วันนี้ต้องยกเลิกกะทันหัน
ฟาร์มเครือไพศาล
มรุเดชกลายเป็นผู้ชายเงียบขรึมนับตั้งแต่คนรักเสียชีวิต เขาใช้ชีวิตอยู่กับงานเท่านั้น เรื่องไปอยู่กรุงเทพไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจเขาได้อีก
หลังจากโทรหาผริดาแล้วเธอไม่รับมรุเดชออกตามหาหญิงคนรักตามโรงแรมที่รู้จักคุ้นเคย ทุ่มกว่าไร้วี่แววจึงกลับมาบ้าน
ประมาณสองทุ่มคนรักโทรเข้ามาน้ำเสียงคล้ายกำลังเมามาย
“คุณอยู่ไหน” มรุเดชถามด้วยความเป็นห่วง
“ดาอยู่แถวนี้ ทำมาย…คิดจะตามหาหรือไงคะ” คนรักตัดพ้อ เขากล่าวขอโทษ
“กลับมาเถอะดา ผมเป็นห่วง ผมผิดผมขอโทษ มาคุยกันคุณจะรู้ว่าเรื่องมันแค่อุบัติเหตุ”
“ขออยู่คนเดียวทามใจในคืนนี้แล้วดาจะไปหานะบอส”
คนรักวางสาย มรุเดชนั่งดื่มอยู่เช่นกัน ลุกขึ้นเดินไปที่รถคู่ใจ คืนนี้เขาจะหาคนรักให้เจอหากไม่เจอก็จะไม่กลับบ้าน แต่เมื่อเจอหัวใจเขากลับแหลกเป็นผุยผง มีเจ้าหน้าที่โทรเข้ามาหา มรุเดชนั่งดื่มกาแฟกระป๋องอยู่ในรถหน้าร้านสะดวกซื้อในเมือง
มรุเดชคิดว่าตนเองฝันเจ้าหน้าที่ถามว่าเขาเป็นอะไรกับเจ้าของเบอร์นี้
มรุเดชบอกว่าคนรัก เจ้าหน้าที่ปลอบให้เขาทำใจบอกว่าเจ้าของเบอร์ซึ่งขับ Mercedes-amga 45 ป้ายทะเบียนXXX ได้เสียชีวิตลงแล้ว
“ไม่จริงพูดบ้าอะไรของคุณ” เขาตะคอกกลับไป
“คุณเข้ามาที่โรงพักนะครับ” เจ้าหน้าที่ไม่พูดอะไรต่อ มรุเดชตัวชามือถือร่วงจากมือ ทำใจอยู่นานเขาขับรถไปยังสถานีตำรวจ
ร่างไร้วิญญาณของคนรักนอนนิ่งใบหน้ามีรอยเลือดไหลซึม เจ้าหน้าที่บอกสาเหตุเพราะเธอดื่มแล้วขับ เลยประสานงากับรถบรรทุก มรุเดชไม่สนใจฟังกอดร่างคนรักตัวสั่น “ดา ดา ไม่จริง อย่าทิ้งผมไป!”
“นายครับพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงมาครับ” บุญเดินเข้าใกล้เจ้านายซึ่งกำลังนั่งคิดอะไรเรื่องราวหนหลังอยู่ข้างๆ กองฟางอัดแท่ง
“ที่ไหน” เขาหันไปมองบุญ
“ที่บ้านครับ”
“เดี๋ยวไป”
บุญขึ้นรถกลับก่อน มรุเดชเดินไปมองใบหน้าตนกับกระจกรถยนต์นัยน์ตาแดงก่ำที่ปรากฏนั้นทำให้ต้องไปล้างหน้าเรียกความสดชื่นเพื่อต้อนรับพ่อและแม่
ชั่วโมงต่อมา “บุญ ไอ้บุญเว้ย” มรุเดชเรียกหาลูกน้องเสียงดังลั่น หนุ่มร่างล่ำวิ่งเข้ามา
“นายครับ ครับนาย” บุญพูดผิดพูดถูก เจ้านายโมโหร้ายมาสองปีแล้วคนงานต่างรู้ บุญต้องทำตัวให้ลีบเข้าไว้จะได้ไม่โดนตีนนาย
“ไปหามีด กรรไกร มาโกนหนวดกูที”
บุญยิ้มดีใจที่นายหนุ่มยอมทำตามคำสั่งพ่อเลี้ยง คิดในใจไม่เอาพร้า ดาบด้วยล่ะครับ คิดเรื่องที่แอบสอดรู้มา
“ถ้าไม่โกนหนวดพวกนี้ ไม่ไปงานเลี้ยงแทนฉันคืนมะรืนจะไปขอเมียให้แก”
“ไป!!” มรุเดชไล่ บุญวิ่งไปหาของที่นายต้องการ
มรุเดชล้มตัวลงนอนบนโซฟาหลับตา หงุดหงิดพ่อที่ออกคำสั่งแบบนี้ ท่าทางท่านเอาจริงเขาเลยไม่คิดขัดใจในคราวนี้… จะให้แต่งงานจะขายฟาร์มทิ้ง พ่อนะพ่อคิดไปได้ยังไง
“มาแล้วครับ บุญจัดการให้ครับ” บุญถืออุปกรณ์มาพร้อมทั้งโฟมโกนหนวดที่ไม่ได้ใช้บ่อยเหมือนเมื่อก่อน แบตเตอเลี่ยนกระชับในมือ
“เร็ว” มรุเดชนอนหลับตา
บุญเริ่มแปลงโฉมเจ้านายให้กลับมาจากใบหน้าเถื่อนๆ
“คืนนี้รับรองสาวๆ ตามเจ้านายตรึม”
“มึงทำกับมือไม่ต้องใช้ปาก”
บุญพึมพำ “ทำไมพูดไม่ได้แปรงฟันทุกเช้านะครับ”
“ไอ้บุญ” คราวนี้เป็นเสียงตวาด บุญตกใจสะดุ้ง
ระเบียงเรือนไทยจึงมีแค่เสียงแบตเตอเลี่ยนหลังจากนั้น
