บท
ตั้งค่า

ตอนที่5.ได้ครับ ไม่มีปัญหา

พลอยดาวมีแต่เสื้อผ้าสีเรียบๆ ผิดกับตู้เสื้อผ้าของเธอที่สามารถ มิกซ์แอนด์แมทช์ได้ตามใจต้องการ เช้าไปทำงานเย็นไปเที่ยวก็ยังไหว พราวมุกเปิดตู้เสื้อผ้าและยิ้มเจ้าเล่ห์ เธอหยิบชุดกระโปรงยาวคลุมเข่าสีม่วงอ่อนมาสวม ดึงผ้ารัดผมที่รวมเป็นหางม้าออก หยิบแปรงหวีผมจัดแต่งทรงผมใหม่ เธอมองเงาตัวเองในกระจกแล้วฉีกยิ้มอ่อนหวานก่อนจะรีบเดินกลับมาอีกครั้ง พราวมุกเห็นพลอยดาวกำลังยกถ้วยขนมออกมาจากครัวก็รีบเข้าไปช่วย

“ตาคิมหันต์มา พลอยตักเพิ่มอีกถ้วยสิ”

“ทำไมมุกชอบเรียกพี่คิมแบบนี้ล่ะ” พลอยดาวส่ายหน้าไปมา พราวมุกแย่งถาดขนมมาถือเองแล้วพยักหน้าให้พลอยดาวเดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง

พราวมุกสูดลมหายใจลึกแล้วแสร้งยิ้มน้อยๆ เดินเบาๆ กลับเข้าไปห้องนั่งเล่นอีกครั้ง

“ขนมค่ะพี่คิม”

“รอเดี๋ยวนะครับน้องมุก” เขาพูดพลางเลื่อนเอกสารบนโต๊ะออกก่อนยื่นมือรับถ้วยขนมมาวางบนโต๊ะ

“เอ๋? ทำไมรู้ว่าเป็นมุกละ” อุตส่าห์ลงทุนเรียก ‘พี่’ ยังรู้อีกว่าเธอคือพราวมุก

คิมหันต์เงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มน้อยๆ แต่ไม่พูดอะไร ครู่หนึ่งพลอยดาวก็ถือถ้วยขนมเข้ามานั่งกินในห้อง

“พี่คิมแปลใบลานอยู่เหรอคะ” พลอยดาวถาม วันนี้เธอไม่ได้สวมแว่นตาเพราะฝึกใส่คอนแทคเลนส์อยู่ ถ้าตอนนี้พลอยดาวใส่แว่น ในห้องนี้จะมีคนใส่แว่นตาถึงสามคนเลย

“ครับ ติดขัดนิดหน่อยต้องมารบกวนอาจารย์ในวันหยุดอีกแล้ว”

“ทำไมไม่วีดิโอคอลคุยกัน ต้องขับรถมาหาถึงบ้าน” พราวมุกอดถามไม่ได้ “ขนมฝีมือพลอยอร่อยสุดยอดเลย”

“ได้คุยกันต่อหน้าจะอธิบายได้ง่ายกว่า” คราวนี้พ่อพูดขึ้น “กลับมาอยู่บ้านสิ จะได้กินกับข้าวฝีมือพลอยทุกวัน”

“คอนโดมุกใกล้ที่ทำงานค่ะ ไปมาสะดวก ไม่ต้องตื่นตีห้าก็ไปทำงานทัน” เธอฉีกยิ้มกว้าง เข้าใจดีว่าพ่อเป็นห่วงแต่เธอไม่คุ้นจริงๆนี่นะ “พ่อก็เคยไปดูแล้วนี่ คอนโดมุกปลอดภัยจริงๆ”

คุณวิทยาไม่อยากเซ้าซี้กลัวลูกสาวคนเล็กจะรำคาญ แค่ได้เห็นลูกกลับมาอยู่เมืองไทยก็ดีใจแล้ว และด้วยความที่สนิทสนมกับคิมหันต์และไว้ใจพอสมควร เขาจึงนั่งคุยงานไปพร้อมกินขนมฝีมือลูกสาวคนโตไปด้วย คิมหันต์เกรงใจเลยเน้นแต่ประเด็นสำคัญเมื่อปรึกษาเสร็จก็คิดจะขอตัวกลับ แต่อาจารย์เรียกไว้ก่อน

“รีบไปไหนหรือเปล่า ถ้าไม่รีบไปช่วยย้ายกระถางต้นไม้ให้หน่อยได้ไหม”

“ได้ครับ ไม่มีปัญหา”

“พี่คิมมาพอดีเลยค่ะ สองวันก่อนพ่อจะยกกระถางต้นบอนสีเอง ไม่รู้ทำท่าไหน ปวดเอวจนได้” พลอยดาวรีบพูดขึ้นกลัวไม่มีคนช่วยย้ายกระถางต้นไม้

“ทำอะไรก็ดูสังขารตัวเองหน่อยสิพ่อ” พราวมุกหันไปดุพ่อ แล้วก็นึกขึ้นได้จึงถาม “พ่อเลี้ยงบอนสีด้วยเหรอ ไอ้ที่ต้นแพงๆ เหรอคะ”

“ไม่แพงหรอก เลี้ยงตอนเขาเลิกเห่อกันแล้ว” คนเป็นพ่อโบกมือไปมา แล้วหันไปพูดกับคิมหันต์ “หลังคาตรงโรงเพาะต้นไม้มันรั่ว น้ำฝนตกใส่ต้นไม้มันจะหักเอาน่ะ ช่วยย้ายไปหลบน้ำรั่วก่อนแล้วกัน วันไหนว่างๆ ค่อยมาจัดใหม่อีกที”

“ได้ครับ เดี๋ยวผมไปดูให้เลย”

“มุกไปดูด้วยค่ะ” พราวมุกลุกขึ้นตามคิมหันต์ เธอก็อยากเห็นต้นบอนสีของพ่อ เผื่อมันเป็นต้นไม้แพงๆ แบบที่เคยออกข่าวกัน หญิงสาว

คว้าโทรศัพท์มือถือแล้วเดินตามร่างสูงใหญ่ตามไปที่โรงเพาะต้นไม้

“แหม! มาบ่อยสินะ” พราวมุกอดแขวะไม่ได้ที่เห็นเขาเดินนำหน้ามาแบบนี้

“ครับ” คิมหันต์ตอบไปตามตรง “อันที่จริงก็มาช่วยสร้างด้วย”

“โอโห้! ไม่คิดว่าสายวิชาการจะก่อสร้างเป็นแฮะ นึกว่าถนัดปั้นน้ำเป็นตัว”

ร่างสูงชะงักไปเล็กน้อยแล้วหันมามอง สายตาดุๆ ของเขาทำให้พราวมุกสะดุ้งไปเล็กน้อย แต่ยังเชิดหน้าราวกับไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป

“น้องมุกคงอยู่เมืองนอกมานานจนใช้สุภาษิตไทยผิดไปนะครับ”

พราวมุกรู้ว่าตัวเองผิดแต่ไม่อยากขอโทษจึงแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เธอเดินดูต้นไม้ในโรงเพาะต้นไม้ มาบ้านพ่อก็หลายครั้ง ไม่ได้สังเกตว่าด้านหลังพ่อทำเป็นเป็นโรงเพาะต้นไม้ขนาดย่อม เท่าที่เห็นก็เป็นพวกไม้ประดับ แต่เธอไม่รู้จักชื่อ เธอไม่ได้สนใจว่าเขายกกระถางอะไรย้ายไปไหน หญิงสาวหยิบมือถือมาถ่ายรูปแล้วเสิร์ซหาชื่อต้นไม้แต่ละประเภท แล้วทำหน้างงๆ กับต้นไม้ตรงหน้าที่ใบเป็นรูๆ

“พ่อเลี้ยงต้นไม้ยังไงปล่อยให้แมลงแทะใบเป็นรูๆ แบบนี้” พราวมุกบ่นพึมพำ แต่เพราะอยู่กันแค่สองคนทำให้ชายหนุ่มหลุดเสียงหัวเราะออกมา เธอหันขวับไปมองทันที เขาจึงเดินมาแล้วชี้ให้ดู

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel