บท
ตั้งค่า

ตอนที่3. เอาอย่างนี้

‘ทำปริญญานิพนธ์นะ พ่อน้องมุกเขี้ยวน่าดู ปีนี้จะผ่านหรือเปล่าก็ไม่รู้’

ถ้าพูดถึงพ่อ เธอยอมจริงๆ

‘แล้วตกลงมุกจะกลับหรือไปไหนต่อ ให้พี่ไปส่งไหม?’

‘กลับค่ะ แต่กลับเองได้ จิบไวน์ไปแก้วเดียว ขับรถได้สบายมาก’

เขาทำหน้านิ่งไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ย ‘เอางี้ น้องมุกขับรถนำ พี่ขับตาม น้องมุกถึงคอนโดปลอดภัยดีพี่จะกลับบ้านพี่’

‘ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ค่ะ ถ้ามาเอาใจเพื่อให้ไปสรรเสริญคุณความงามดีกับพ่อล่ะก็ มันช่วยอะไรไม่ได้หรอกนะ เรื่องสอบวิทยานิพนธ์อะไรนั้นมันขึ้นกับความสามารถของนายเอง’

คราวนี้เขาหัวเราะออกมา ‘ยืนคุยแบบนี้คงไม่จบเสียที มาเถอะ พี่ขับรถตามไปส่ง’

ผู้ชายคนนี้ชอบทำให้เธอพร่าทุกที ทั้งยิ้ม ทั้งหัวเราะ แล้วไหนจะท่าดันแว่นตาชิดใบหน้านั้นอีก ขืนอยู่แบบนี้ต่อไป เธอต้องกระโดดปลุกปล้ำแน่ๆ

พราวมุก! คนนี้เป็นลูกศิษย์พ่อนะ!

‘เป็นอะไรหรือเปล่า’

‘ไม่มีอะไรคะ ฉันจะกลับแล้ว’

พราวมุกเดินไปที่ลานจอดรถ เธอขึ้นรถตัวเองและขับออกมาแบบไม่สนใจอะไร แต่พอขับออกมาได้ไม่กี่นาที เธอก็อดมองที่กระจกส่องหลังไม่ได้ รถของเขาขับตามมาจริงๆ จนถึงคอนโด เธอจึงจอดรถและเก็บกระเป๋ารวมทั้งของใช้เดินลงจากรถ เขาลงจากรถแต่ไม่ได้เดินเข้ามาหา เหมือนแค่มองว่าเธอเข้ามาในคอนโดแล้วจริงๆ เขาจึงเดินกลับเข้าไปในรถแล้วขับออกไป

เธอรู้ว่า ว่าเธอไม่ใช่คนพิเศษของเขา สิ่งที่เขาทำก็แค่ความเป็นสุภาพบุรุษและเขาก็รู้จักพลอยดาวและพ่อของเธอด้วย จะทำเป็นไม่ใส่ใจก็คงไม่ดีนัก

ตอนนี้เธอต้องพักเรื่องพลอยดาวไว้ก่อน เพราะปัญหาตัวเองก็ถาโถมหนักเอาการ

อ๊ะ! ไม่สิ! ก้อนฟอสซิลพันปีอย่างตาคิมหันต์นะเหรอจะทำอะไรคนอย่างพราวมุกได้

หญิงสาวเบ้ปากมองบนแล้วบรรจงลอกแผ่นมาร์กหน้าออกจากใบหน้า แล้วนวดด้วยครีมบำรุงผิวสำหรับกลางคืน เธอเป็นคนใส่ใจเรื่องพวกนี้มากผิดกับพลอยดาวที่แค่ทาครีมบำรุงผิว ถ้าวันไหนพี่สาวฝาแฝดมานอนค้างด้วย เธอจะจัดการพลอยดาวด้วยตนเองทุกที

พราวมุกเดินมาที่ตู้เย็น รินน้ำส้มแล้วเดินกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน นั่งอ่านดูข้อความที่พิมพ์ค้างไว้ที่หน้าโน้ตบุ๊ก ตอนอยู่ต่างประเทศ พราวมุกทำงานพิเศษเป็นพี่เลี้ยงเด็ก และเด็กที่เคยเลี้ยงเป็นเด็กพิเศษต้องใช้ภาษามือ เธอเลยได้ฝึกภาษามือไปด้วย กลับมาเมืองไทย มีเพื่อนของพ่อที่ทำงานมูลนิธิเกี่ยวกับเด็กพิเศษ เธอเข้าไปทำกิจกรรมด้วยตามประสาคนชอบทำกิจกรรมอยู่แล้ว เด็กๆ ที่นั้นใช้ภาษามือในการสื่อสาร เธอมีความสามารถด้านนี้เลยช่วยได้เยอะ แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอตาหน้าตายนั้นด้วย หญิงสาวเบ้ปากใส่อย่างลืมตัว คนอะไรขี้เก๊กชะมัด แต่งตัวก็ไม่เหมือนครูบาอาจารย์ แต่ตัวสูงแบบนั้นใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ก็ดูดีเหมือนกันแฮะ บอสเราหล่อกว่าตั้งเยอะ ตานั้นไม่เห็นมีอะไรดี แค่ตัวสูง ไหล่กว้าง ใส่ ผิวสีแทน แล้วก็ใส่แว่นตา

บ้าจริง! ยัยพราวมุก! เธอจะแพ้ทางผู้ชายใส่แว่นตาไม่ได้นะ!

พราวมุกอยากเอาหัวโขกผนังห้องเพื่อให้ได้สติจริงๆ ทำไมเธอต้องชอบผู้ชายใส่แว่นด้วยก็ไม่รู้ หรือเธอชอบผู้ชายแบบเด็กเนิร์ดเหรอ? แม้ว่าผู้ชายใส่แว่นจะเรียกสายตาให้เธอหันไปมอง แต่เธอก็ไม่ได้หวั่นไหวไปกับทุกคนเสียหน่อย แต่คนที่มารบกวนจิตใจของเธอก็คือลูกศิษย์ของพ่อคนนั้น

‘น้องมุก? ทำไมมาอยู่ที่นี่’

เขาทักเธอสีหน้าแปลกใจแล้วขยับแว่นสายตาชิดใบหน้าแล้วเดินเข้ามาใกล้จนเธอได้กลิ่นน้ำหอมจางๆ จากตัวเขา วันนี้เขาสวมเสื้อยืดแต่มีลายพิมพ์ใบไม้สารพัดสีที่กลางอกเสื้อ และสวมป้ายstaffคล้องคอ เหมือนกับเธอ

‘พี่น้ำไม่สบายค่ะ มุกมาเป็นอาสาล่ามภาษามือ’ เธอตอบไปตามตรง ได้เจอกันก็ไม่แปลกหรอก แต่ไม่อยากเจอมากกว่า

‘วันนี้วันเสาร์ ไม่ได้ทำงานครึ่งวันเหรอ’

‘ให้พลอยไปทำแทนค่ะ’

‘เฮ้ย! ทำไมเป็นคนแบบนี้ งานตัวเองแท้ๆ ให้คนอื่นไปทำแทนได้ไง’

‘พลอยไม่ใช่คนอื่นค่ะ แต่คนอื่นคือคนที่กำลังด่ามุกอยู่ต่างหากล่ะ’

‘พูดดีๆ หน่อย พี่ไม่ได้ด่านะ พี่ถามหาความรับผิดชอบของน้องมุกต่างหาก’

‘ได้ ถ้าพูดแบบนี้ มุกกลับก็ได้’

‘แล้วใครจะมาเป็นล่ามภาษามือ’

‘ก็ไปหาคนที่มีความรับผิดชอบมากกว่าสิ’

‘อ้าว…’

‘ที่มานี่ก็เพราะคนไม่พอ พลอยก็ไม่ถนัดใช้ภาษามือ มุกไม่ได้อยากหยุดงานเสียหน่อย มุกเพิ่งทำงานได้ไม่ครบสามเดือน ลางานบ่อยๆ จะได้ผ่านโปรฯเป็นพนักงานประจำไหมล่ะคะ ถ้าตกงานใครจะรับผิดชอบ’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel