ตอนที่2. สู้ๆ นะคะอาจารย์คิม
‘งานที่นี่ก็มีทำ ทำไมต้องกลับเมืองไทย’
‘มุกก็แค่อยากอยู่เมืองไทยมากกว่า’
‘มีใครทำอะไรให้มุกไม่สบายใจหรือเปล่าลูก’
‘ไม่มีค่ะ’ เธอตอบเร็วแบบไม่ต้องคิดมาก ‘มุกก็แค่อยากใช้ชีวิตที่มุกเลือกเอง’
‘พูดเหมือนแม่บังคับมุกยังไงไม่รู้’
‘ก็เพราะแม่ไม่บังคับมุกไงคะ มุกเลยเลือกกลับไปใช้ชีวิตที่เมืองไทย’
‘มุกจะกลับไปอยู่กับพ่อเหรอ’
‘นิสัยอย่างมุกอยู่กับพ่อไม่ได้หรอกค่ะ มุกดูคอนโดไว้แล้ว ให้มุกอยู่คอนโดดีกว่าค่ะ’
‘ถ้ามุกคิดดีแล้วก็ตามใจลูก แต่ถ้ามีอะไรก็พูดกับแม่ได้เสมอ’
‘ค่ะแม่’
มีเหตุผลร้อยแปดพันเก้าที่ยกมาให้แม่คล้อยตาม แต่เรื่องหนึ่งที่เธอไม่อยากยอมรับเพราะมีบางเรื่องติดค้างในความรู้สึกเธอ พลอยดาวจัดการเรื่องคอนโดให้เธอก่อนแล้ว เมื่อมาถึงเมืองไทย เธอก็เข้าพักได้ทันที แน่นอนว่าพ่อไม่ค่อยพอใจแต่ก็เปลี่ยนใจเธอไม่ได้ ช่วงอยู่ต่างประเทศ เธอทำกิจกรรมบ่อย พลอยดาวเป็นอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) มีช่องยูทูปของตัวเอง การทำงานประจำในตำแหน่งเลขาฯ คือความท้าทายหนึ่งของเธอ เธอตั้งเป้าว่าจะทำงานประจำให้ได้อย่างน้อยหนึ่งปี ลบคำสบประมาทว่าคนอย่างเธอทำงานประจำไม่ได้แน่นอน
แต่เริ่มงานมาไม่นานก็มีเหตุให้เธอต้องหยุดงาน เพราะยังไม่ครบกำหนดสามเดือน เธอจึงขอร้องให้พลอยดาวมาทำงานแทนเธอ ซึ่งครั้งแรกก็ผ่านไปได้อย่างดี ส่วนครั้งที่สองนั้นเหมือนมีอะไรสักอย่างที่พลอยดาวเล่าไม่หมด แต่ถ้าพลอยดาวไม่เล่า เธอก็ไม่อยากคาดคั้นเอาอะไร ยกเว้น สายตาที่เจ้านายหรือคุณกวิวัชร์จ้องเธอเหมือนจ้องจับผิด ทำเอาเธอประหม่าไปด้วยแต่เพราะเคยเรียนการแสดงเลยไม่ยากที่จะปรับสีหน้าสู้กับเจ้านาย จนกระทั่ง ถูกจับผิดจนได้ ใครจะรู้ว่าบอสของเธอจะแยกเธอกับพลอยดาวออกได้จริงๆ ดินเนอร์คืนนั้น เธอลุงทุนเช่าชุดราตรีเหมือนกันสองชุด แต่งหน้าทำผมแบบเดียวกันเป๊ะๆ พลอยดาวไม่เห็นด้วยกับแผนนี้นัก แต่เธออยากรู้จริงๆ และอีกส่วนเธอกลัวว่าบอสจะหลอกพี่สาวฝาแฝด แต่สุดท้ายบอสก็แยกออกได้แทบจะทันทีว่าเธอสวมรอยไปเล่นเป็นพลอยดาว หลังจากดินเนอร์คืนนั้น พลอยดาวมั่นใจว่าพราวมุกกับเจ้านายของเธอมีใจให้กันแน่ๆ
แต่เรื่องที่พราวมุกไม่เคยเล่าให้ใครฟังแม้แต่พลอยดาวก็คือ...
คืนนั้น เธอลงมาที่ชั้นล่าง ตั้งใจเตร็ดเตร่อยู่สักพักเผื่อพลอยดาวต้องการความช่วยเหลือ ทว่าเธอกลับเจอผู้ชายตัวสูงใส่แว่นคนนั้นเดินออกมาจากลิฟต์พอดี เคยมีใครพูดกับเขาไหมนะว่า เวลาเขาใส่สูทสีเข้มแบบนี้มันขับเน้นรูปร่างของเขาชะมัด อย่างกับนายแบบเดินออกมาจากนิตยสารแฟชั่นเลยทีเดียว
คิ้วเข้มขมวดยุ่งแล้วเอ่ยทัก
‘น้องมุก’
เสียงของลูกศิษย์พ่อทำให้ตื่นจากภวังค์ แล้วทำหน้ายู่
‘ไม่คิดว่าเป็นพลอยเหรอคะ’
เขายิ้มแล้วโคลงศีรษะ รอยยิ้มนั้นทำเอาเธอตาพร่าไปชั่วขณะ จนเขาเดินเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมจางๆ เธอถึงรู้สึกตัว
‘พลอยไม่ชอบมาที่แบบนี้หรอก’
‘หมายความว่ายังไงคะ’ เธอทำตาบึ้งตึง
เขาหัวเราะแล้วดันแว่นสายตาชิดใบหน้าด้วยความเคยชิน
‘ก็ถ้าเป็นมุกมาก็ไม่แปลกไง มุกทำช่องยูทูปอะไรไม่ใช่เหรอ มาทำคอนเทนต์อะไรหรือเปล่าล่ะ’
เธอกอดอกยืนคุยกับเขา ‘แล้วนายล่ะ มาทำอะไร’
‘มางานแต่งงานรุ่นน้อง’ เขายิ้มดูจะไม่ติดใจที่เธอเรียกเขาอย่างไม่เคารพทั้งที่อีกฝ่ายก็อายุมากกว่า ‘พี่กำลังจะกลับแล้ว เราล่ะ จะกลับหรือว่าเพิ่งมาถึง’
พราวมุกหยิบมือถือออกมา กดข้อความถึงพลอยดาวว่าถอนกำลังกลับไปตั้งหลักรอที่คอนโด ส่งข้อความเสร็จเงยหน้าขึ้นก็เห็นเด็กสาวสองสามคนเดินเข้ามาใกล้ แล้วยกมือไหว้ชายหนุ่มที่ขยับเท้ามายืนข้างโดยที่เธอไม่รู้ตัว
‘อาจารย์คิมกลับแล้วเหรอคะ กลับเร็วจัง’
‘อืม นอนดึกไม่ไหวแล้ว’
‘สู้ๆ นะคะอาจารย์คิม’
‘ขอบใจ’
เด็กสาวส่งยิ้มให้พลอยดาวเล็กน้อยแล้วจูงมือกันเข้าไปในลิฟต์ พราวมุกหลิวตามองคนที่ยืนข้างตัวแล้วพูดขึ้น
‘อาจารย์คิม นั้นลูกศิษย์นะคะ’
‘ก็ลูกศิษย์นะสิ’ เขาขมวดคิ้วอีกครั้ง ‘พวกนั้นก็มางานแต่งนั้นแหละ’
‘แล้วสู้ๆ เรื่องอะไรคะ’ เธอยังหาทางจับผิดเขาอยู่
